'กลุ่มเศรษฐศาสตร์เพื่อสังคม' แพร่ ‘จดหมายเปิดผนึก’ ค้าน ‘ร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร’ พ่วง ‘กาสิโน’ ชี้ ‘ละเมิดหลักสัญญาประชาคม-ขาดธรรมาภิบาล-จุดชนวนความขัดแย้งทางสังคม’ ขณะที่ ‘อดีต สสร. 2550’ เรียกร้อง ‘สมาชิกรัฐสภา’ คว่ำร่าง พ.ร.บ.
...........................................
เมื่อวันที่ 6 เม.ย. กลุ่มเศรษฐศาสตร์เพื่อสังคม ได้เผยแพร่จดหมายเปิดผนึกคัดค้านร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคการเมืองทุกพรรค โดยมีเนื้อหาว่า ตามที่สภาผู้แทนราษฎรได้บรรจุร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. ... ที่มีกาสิโนเป็นส่วนประกอบสำคัญ และได้เลื่อนขึ้นพิจารณาเป็นการด่วนในวันที่ 9 เม.ย. นี้
กลุ่มเศรษฐศาสตร์เพื่อสังคม ได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นอย่างละเอียด และมีมติคัดค้านร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ ด้วยเหตุผลสำคัญ ดังนี้
1.การละเมิดหลักสัญญาประชาคม ด้วยเหตุว่าพรรคการเมืองที่ร่วมรัฐบาลปัจจุบันไม่มีพรรคใดหาเสียง ต่อประชาชนในการเลือกตั้งที่ผ่านมาว่า จะให้มีบ่อนพนันถูกกฎหมาย จึงเป็นการใช้อำนาจเกินขอบเขตที่ประชาชนมอบให้ แม้ประชาชนจะมอบให้แล้วก็ไม่สามารถใช้อำนาจตามอำเภอใจได้
2.ผลกระทบทางเศรษฐกิจ สถานบันเทิงครบวงจรที่มีกาสิโนเป็นหลัก อาจไม่สามารถสร้างเม็ดเงินทางเศรษฐกิจได้จริงตามที่กล่าวอ้าง เพราะการพนันไม่ได้มีผลต่อการเพิ่มขึ้นของรายได้ประชาชาติ เป็นเพียงการโอนย้ายเงินจากฝ่ายหนึ่งไปยังอีกฝ่ายหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้ก่อให้เกิดการผลิตสินค้าและบริการใดๆ ในทางกลับกันอาจส่งผลกระทบต่อสังคมและก่อให้เกิดต้นทุนสาธารณะที่สังคมโดยรวมต้องมาแบกรับ จึงไม่ก่อให้เกิดความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจอย่างแท้จริง
3.ขาดธรรมาภิบาล ร่างพระราชบัญญัตินี้ให้อำนาจแก่คณะกรรมการนโยบายและคณะรัฐมนตรีอย่างล้นเกิน ขาดการแบ่งแยกอำนาจเพื่อการตรวจสอบและถ่วงดุล เสมือนการให้เช็คเปล่ากับฝ่ายบริหารสามารถแสวงประโยชน์อย่างไรก็ได้
4.ความเสี่ยงต่อการฟอกเงินและอาชญากรรม กาสิโนสามารถถูกใช้เป็นช่องทางการฟอกเงินของธุรกิจผิดกฎหมาย อาชญากร รวมถึงข้าราชการและนักการเมืองที่ทุจริตคอรัปชั่น หากพื้นฐานของประเทศนั้นไม่มีการบังคับใช้กฎหมายที่ดีพอ มีการทุจริตคอรัปชั่นสูง รวมถึงการมีกฎหมายที่มีช่องโหว่
5.การไม่ฟังเสียงคัดค้านของประชาชน ปัจจุบันปรากฏเสียงคัดค้านจากทุกภาคส่วนของสังคม ทั้งองค์กรศาสนา แพทย์และบุคลากรทางสาธารณสุข นักวิชาชีพ และกลุ่มมวลชนต่างๆ การเร่งผ่านกฎหมายโดยไม่ฟังความเห็นค้านของประชาชน อาจนำไปสู่การจุดชนวนความขัดแย้งทางสังคม ซ้ำรอยเหตุการณ์ในอดีต ซึ่งไม่เป็นที่คนไทยโดยส่วนใหญ่ปรารถนาจะให้เกิดขึ้นอีก
6.การเคารพมติมหาชน หากรัฐบาลเชื่อมั่นในนโยบายนี้ว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม และพร้อมจะชี้แจงเพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นต่อประชาชน รัฐบาลสมควรจัดทำประชามติเพื่อให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ
กลุ่มเศรษฐศาสตร์เพื่อสังคม ขอเรียกร้องต่อประธานรัฐสภาโปรดยึดมั่นผลประโยชน์ของประเทศในระยะยาว และขอเรียกร้องต่อพรรคการเมืองทุกพรรค และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกท่าน ได้ใช้มโนสำนึกตัดสินใจอย่างอิสระปราศจากการถูกครอบงำใดๆ โดยคำนึงถึงประโยชน์ของสังคมเป็นสำคัญ
@ชมรม‘สสร.50’เรียกร้อง ‘สส.’คว่ำร่าง พ.ร.บ.
วันเดียวกัน (6 เม.ย.) ชมรมสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) 2550 ได้ออกหนังสือเปิดผนึก เรื่อง คัดค้านร่างพระราชบัญญัติการประกอบการธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. ....ถึง ประธานรัฐสภาและสมาชิกรัฐสภา โดยมีเนื้อหาว่า ตามที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้นำรัฐบาล ได้ผลักดันร่างพระราชบัญญัติการประกอบการธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... ที่ประชาชนเรียกกันโดยทั่วไปว่า ร่างกฎหมายบ่อนกาสิโน
และนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ได้รับร่างกฎหมายดังกล่าวบรรจุเข้าในระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎรอย่างเร่งด่วน เพื่อให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้พิจารณาตามระเบียบวาระ นั้น
ชมรมสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ 2550 ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวนี้ ไม่สมควรบรรจุเข้าเป็นวาระเพื่อการพิจารณา ด้วยเหตุผลดังนี้
1.ร่างกฎหมายนี้ไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะเร่งรีบพิจารณา เพราะไม่ปรากฏในนโยบายการหาเสียงของพรรคเพื่อไทย และนโยบายหาเสียงของพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลที่หาเสียงไว้กับประชาชนในการเลือกตั้งทั่วไป แต่เป็นเรื่องที่นายทักษิณ ชินวัตรเป็นผู้แสดงวิสัยทัศน์ไว้ที่เนชั่นทีวี และรัฐบาลไปรับมาบรรจุในนโยบายของรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร
2.การกระทำทั้งหมดที่เกี่ยวกับร่างกฎหมายนี้เป็นการกระทำที่มาจากนโยบายที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 65 พระราชบัญญัติการจัดทำยุทธศาสตร์ของชาติ พ.ศ.2560 และประกาศพระบรมราชโองการ เรื่อง ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ.2561-2580) ลงวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ.2561 ในส่วนสำคัญ คือ วิสัยทัศน์ของยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่ระบุว่า “ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้ว ด้วยการพัฒนาตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง”
การเสนอร่างกฎหมายฉบับนี้ไม่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ดังกล่าว ซึ่งตราบใดที่ยังไม่มีการทบทวนแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ในรอบทุก 5 ปีเสียก่อน การกระทำใดของคณะรัฐมนตรี รัฐสภา และหน่วยงานของรัฐทุกหน่วย ย่อมต้องดำเนินการให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่ได้ประกาศไว้แล้ว
ดังนั้น การกำหนดนโยบายของรัฐบาลก็ดี การเสนอร่างกฎหมายนี้ต่อรัฐสภาก็ดี และการหยิบยกร่างกฎหมายนี้ขึ้นพิจารณาในรัฐสภาก็ดี ล้วนแล้วแต่เป็นการกระทำที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 65 และมาตรา 75 และพระราชบัญญัติการจัดทำยุทธศาสตร์ของชาติ พ.ศ.2560 มาตรา 5 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 11 ตามที่อ้างถึง (1)-(3) ซึ่งจะส่งผลให้บรรดาผู้กระทำต้องตกเป็นผู้กระทำการใช้อำนาจอธิปไตยอันไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญและกฎหมาย และอาจต้องรับผลจากการกระทำของตนด้วยบทบัญญัติอันเกี่ยวกับมาตรฐานทางจริยธรรมตามรัฐธรรมนูญ
3.ร่างกฎหมายนี้ส่งผลกระทบต่อความคงอยู่และการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สินของรัฐอย่างมากมาย เพราะมีการนำที่ดินของรัฐที่หน่วยงานของรัฐครอบครองใช้ประโยชน์ไปให้เอกชนจัดทำสถานบันเทิงครบวงจรโดยไม่ปรากฏการตอบแทนที่คุ้มค่า เท่ากับเป็นการแปลงและนำทรัพย์สินของรัฐไปแปลงให้กับเอกชนใช้ประโยชน์โดยไม่ชอบด้วยหลักการของกฎหมายเกี่ยวกับการใช้สอยทรัพย์สินของรัฐ โดยขัดหรือแย้งกับหน้าที่ของรัฐในการดูแล
4.การเสนอร่างกฎหมายนี้ไม่สามารถแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจของชาติและปัญหาปากท้องของประชาชนได้ แต่กลับเป็นการเอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มทุนมาเฟียการพนันต่างชาติเพียงบางกลุ่ม โดยที่ประเทศไทยจะได้รับความสูญเสียและมีความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจ อาจมีอาชญากรรม และกระทบต่อสังคมทุกระดับอย่างมากมายเป็นเวลายาวนาน ร่างกฎหมายนี้จึงเป็นเรื่องที่เอื้อต่อผู้ประกอบการที่เป็นกลุ่มทุนมาเฟียการพนันบางกลุ่มให้ได้รับประโยชน์โดยไม่คำนึงถึงหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จึงเป็นร่างกฎหมายที่ไม่ชอบด้วยแนวนโยบายแห่งรัฐตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา ๗๕ วรรคหนึ่งและวรรคท้าย
5.ร่างกฎหมายนี้เป็นการส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงอบายมุขที่จะเกิดขึ้นในสถานบันเทิงครบวงจรและการพนันออนไลน์ที่จะมีการพยายามทำให้ถูกกฎหมายแอบแฝงอยู่กับบ่อนกาสิโนให้มีการเล่นที่แพร่หลายจนไม่อาจควบคุมได้ ทั้งอาจทำให้เยาวชนของชาติเข้าไปมัวเมาในการพนันหลากหลายรูปแบบจนทำให้เสียผู้เสียคนอันอาจส่งผลให้ต้องก่ออาชญากรรมและการค้ามนุษย์เกิดขึ้นได้อย่างง่ายดาย อันจะทำให้เยาวชนเหล่านั้นกลายเป็นพลเมืองที่ด้อยคุณภาพของประเทศชาติ นำไปสู่ความวิบัติของบ้านเมืองในอนาคตอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
6.ร่างกฎหมายนี้ไม่มีมาตรการใดๆ ในการคุ้มครองป้องกันมิให้ประชาชนในชาติมีภูมิคุ้มกันต่ออบายมุขในรูปแบบต่างๆของสถานประกอบการธุรกิจบันเทิงครบวงจรได้ อันจะนำพาประเทศไปสู่ความวิบัติได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม
ชมรมสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ 2550 จึงถือว่าเรื่องดังกล่าวเป็นการการกระทำที่ไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ของรัฐบาลที่ดีตามหลักการของรัฐธรรมนูญทุกฉบับที่เคยมีมาในราชอาณาจักรไทย เป็นการดำเนินการตามนโยบายที่ขัดแย้งต่อพระราชบัญญัติการจัดทำยุทธศาสตร์ของชาติ พ.ศ.2560 เป็นการกระทำที่ขาดจริยธรรม ไร้ศีลธรรมและคุณธรรมที่นักการเมืองในระบอบประชาธิปไตยพึงมีและต้องรับผิดชอบต่อประชาชน บิดเบือนการใช้อำนาจอธิปไตยที่ได้รับมาจากการเลือกตั้งของประชาชน โดยมุ่งหวังเพียงเพื่อประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง
โดยไม่ฟังการเรียกร้องและการปฏิเสธของสังคม ที่ปฏิเสธการตรากฎหมายฉบับนี้ อันเป็นการกระทำที่ขัดแย้งกับคำถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 161 และข้ออ้างของตนที่ให้ไว้กับประชาชนตามที่อ้างตัวเองว่าเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ชมรมสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ 2550 จึงขอเรียกร้องต่อ สมาชิกรัฐสภา ซึ่งเป็นผู้ใช้อำนาจอธิปไตยทางนิติบัญญัติของปวงชนชาวไทย ควรพิจารณาทำหน้าที่สมาชิกรัฐสภาให้เป็นไปตามหลักนิติธรรม และตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ด้วยการมีมติไม่รับหลักการของร่างพระราชบัญญัติการประกอบการธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. ... เพื่อประโยชน์โดยรวมของประเทศชาติและความผาสุกของประชาชนโดยรวม อันจะนำไปสู่สันติสุขของสังคมประเทศอย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้ว ด้วยการพัฒนาตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง
จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาไม่รับหลักการของร่างพระราชบัญญัติการประกอบการธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. ...ที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอด้วยเหตุผลข้างต้น
สำหรับแถลงการณ์ฉบับนี้ มีผู้ลงนาม ได้แก่ ศ.พิเศษ จรัญ ภักดีธนากุล ,ศ.ไชยยศ เหมะรัชตะ ,ศ.ดร.เจริญศักดิ์ โรจนฤทธิ์พิเชษฐ์ ,นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ,นายมานิจ สุขสมจิตร ,นายเกียรติชัย พงษ์พาณิชย์ ,นายอัครวิทย์ สุมาวงศ์ ,รศ.ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ,นายไพโรจน์ พรหมสาสน์ ,นายสุรพล พงษ์ทัดศิริกุล ,นายโอรส วงษ์สิทธิ์ ,ศ.พิเศษ วิชา มหาคุณ ,รศ.ดวงสุดา เตโชติรส ,รศ.รุจิรา เตชางกูร ,ผศ.พรรณราย แสงวิเชียร
ดร.กฤษฎา ให้วัฒนานุกูล ,นางกรรณิการ์ บรรเทิงจิตร ,นางสาวพวงเพชร สารคุณ ,นายคมสัน โพธิ์คง นายสมยศ สมวิวัฒน์ชัย ,ดร.อาภา อรรถบูรณ์วงศ์ ,ดร.อภิชาติ ดำดี ,ดร.วิทธยา บริบูรณ์ทรัพย์ ,นายชาลี กางอิ่ม , นายสมเกียรติ รอดเจริญ ,นายศักดิ์ชัย อุ่นจิตติกุล ,นายปริญญา ศิริสารการ ,ดร.วีนัส ม่านมุ่งศิลป์ ,นาย ช.ชัยนาท ศรีเสมาเมือง ,นายรัฐ ชูกลิ่น และนายอรรครัตน์ รัตนจันทร์
@30 นักวิชาการ‘มธ.’แถลงการณ์คัดค้าน‘กาสิโน’
นอกจากนี้ กลุ่มอาจารย์และนักวิขาการ คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 30 คน ได้ออกแถลงการณ์ คัดค้านการออก พ.ร.บ.ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร (เพื่อตั้งบ่อนกาสิโน) โดยมีเนื้อหาว่า การดำเนินนโยบายจัดตั้งบ่อนกาสิโน โดยรัฐบาลอ้างว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจจากการลงทุนและการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น พิจารณาโดยรอบด้านแล้วเห็นว่า ผลได้ทางเศรษฐกิจที่รัฐบาลกล่าวอ้างอย่างเลื่อนลอยไม่อาจหักล้างผลเสียที่จะเกิดกับสังคมในวงกว้างและยาวนานอย่างแน่นอน และจะเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจที่ไม่ยั่งยืน ไม่ปลอดภัย
ปัญหาสังคมต่างๆ ในสังคมไทยที่รุนแรงเรื้อรังขยายตัวสืบทอดมาจนถึงทุกวันนี้ ส่วนมากเกี่ยวโยงบ่มเพาะจากการพนันและการเสี่ยงโชคทุกชนิด เป็นอบายมุขที่คนไทยที่ตั้งใจทำงานต้องรับภาระจากผลกระทบที่เกิดขึ้น
ปัญหาความยากจน กลุ่มที่หาเช้ากินค่ำ กู้เงินดอกเบี้ยรายวันเพื่อเสี่ยงโชคซื้อหวยใต้ดิน คนกลุ่มนี้จึงมีหนี้อมตะ คนที่รายได้มากขึ้นก็เสี่ยงโชคกับล็อตเตอรี่รัฐบาล ซึ่งปัจจุบันพิมพ์เพิ่มนับล้านใบ ต่อไปความยากจนจะมากขึ้น เพราะมีแหล่งอบายมุขเพิ่มมาก
ปัญหาทักษะอาชีพตกต่ำไร้คุณภาพ มีเงินเท่าไรจึงหมดไปกับการเสี่ยงโชค ไม่คิดที่จะใช้ เงินเพื่อเพิ่มทักษะการประกอบอาชีพ เพิ่มพูนรายได้เป็นเงินออมไว้ใช้ในยามชรา
ปัญหาครอบครัวแตกแยก หากผู้ใหญ่ในครอบครัวหมกมุ่นอยู่กับการเสี่ยงโชคการพนันละเลยการดูแลเอาใจใส่ อบรมสั่งสอนลูกหลาน จึงเป็นการทำร้ายเยาวชนของชาติ ทั้งยังเป็นตัวอย่างเลวร้ายแก่บุตรหลานอีกด้วย
ปัญหาอาชญากรรม จะเพิ่มมากขึ้น ปัจจุบันนักโทษล้นคุกก็แก้ปัญหาโดยระบายนักโทษจำนวนหนึ่งออกจากคุกเป็นระยะๆ อาจก่ออาชญกรรมซ้ำซาก จะเกิดนักโทษมือใหม่จี้ปล้นหาเงินไปเสพอบายมุข ซึ่งรวมการพนันต่างๆ ทุกชนิดที่มีพร้อมในเวลานี้
ปัญหาความฉ้อฉลของบุคลากรในกระบวนการยุติธรรมการรับสินบนส่วนหนึ่งเกี่ยวเนื่องกับการพนันและการเสี่ยงโชคที่ฝังอยู่ในกมลสันดานของคนไทยจำนวนมาก ความไม่พร้อมในการควบคุมให้เป็นไปตามกฎเกณฑ์ กฎหมายจะทำให้บ่อนกาสิโน และพนันออนไลน์ขยายตัว
ปัญหาการฟอกเงิน บ่อนกาสิโนเป็นแหล่งฟอกเงินของคนโกง สามารถอ้างว่าทรัพย์สินที่ถือครองอย่างผิดปกติ ได้จากการเสี่ยงโชคในสถานกาสิโน
ทำลายล้างอนาคตประเทศไทย เมื่อเยาวชนถูกมอมเมาด้วยการพนันและการเสี่ยงโชค นอกเหนือจากยาเสพติดที่ฝังรากอยู่แล้ว สมรรถภาพทั้งทางร่างกายและสภาพจิตใจจึงถูกทำลาย ทำการงานไม่ได้ แถมยังกลายเป็นภาระของครอบครัวและสังคม
กลุ่มอาจารย์และนักวิชาการคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จึงจำเป็นต้องคัดค้าน พรบ. ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร อันมีเป้าหมายหลักคือการเปิดบ่อนกาสิโน และคัดค้าน พ.ร.บ.เกี่ยวกับการพนันออนไลน์ที่จ่อคิวตามมา
หากรัฐบาลแพทองธาร ยังดื้อดึงผลักดันให้มีบ่อนกาสิโนพนันออนไลน์ จะถือว่ารัฐบาลนี้มุ่งมั่นทำลายประเทศและสังคมไทย ซึ่งไม่ควรให้เป็นผู้ปกครองประเทศอีกต่อไป
สำหรับรายนามอาจารย์และนักวิชาการคณะเศรษฐศาสตร์ที่ลงชื่อในแถลงการณ์ ได้แก่ 1.รองศาสตราจารย์ ดร.สุกัญญา นิธังกร 2.รองศาสตราจารย์ วันรักษ์ มิ่งมณีนาคิน 3.รองศาสตราจารย์ ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง 4.ศาสตราจารย์ ดร. ปราณี ทินกร 5.ศาสตราจารย์ ดร.อภิชัย พันธเสน 6.รองศาสตราจารย์ ดร.ภาวดี ทองอุไทย 7.ดร.สาธิต อุทัยศรี 8.ผู้ช่วยศาสตราจารย์ จินตนา เชิญศิริ 9.อาจารย์ สุพรรณ นพสุวรรณชัย 10.รองศาสตราจารย์ พรพิมล สันติมณีรัตน์
11.รองศาสตราจารย์ ชูศรี มณีพฤกษ์ 12.รองศาสตราจารย์ สุขุม อัตวาวุฒิชัย 13.รองศาสตราจารย์ ดร.สมศักดิ์ แต้มบุญเลิศชัย 14.รองศาสตราจารย์ ดร.เพลินพิศ สัตย์สงวน 15.รองศาสตราจารย์ ดร.ดาว มงคลสมัย 16.รองศาสตราจารย์ ดร.เยาวเรศ ทับพันธุ์ 17.รองศาสตราจารย์ ดร. สมนึก ทับพันธุ์ 18.รองศาสตราจารย์ ดร.ลิลี่ โกศัยยานนท์ 19.รองศาสตราจารย์ ดร. สิริลักษณา คอมันตร์ 20.ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วัชรียา โตสงวน
21.ผู้ช่วยศาสตราจารย์ จรินทร์ พิพัฒนกุล 22.รองศาสตราจารย์ ชยันต์ ตันติวัสดาการ 23.ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นิธินันท์ วิศเวศวร 24.ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ประชา คุณธรรมดี 25.อาจารย์ พงศ์พลิน ยิ่งชนม์เจริญ 26.รองศาสตราจารย์ รัชนีวรรณ อุทัยศรี 27.ศาสตราจารย์ดร. พรายพล คุ้มทรัพย์ 28.รองศาสตราจารย์ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ /29.รองศาสตราจารย์ มณีรัตน์ ภิญโญภูษาฤกษ์ และ 30.รองศาสตราจารย์ วณี จีระแพทย์