‘ชัชชาติ’ ยัน กทม.-มท. ทำงานกันได้ แม้ประกาศระดับสาธารณภัยต่างกัน

‘นายกฯ’ รุดเยี่ยม กทม. หลังเหตุการณ์แผ่นดินไหว ระบุเน้นย้ำให้เคลียร์การจราจรให้เรียบร้อย เปิด 5 พื้นที่สาธารณะให้ประชาชนพักผ่อนรอกลับบ้าน ยืนยันทำงานกับ ‘มหาดไทย’ ได้แม้ประกาศความรุนแรงของสาธารณภัยต่างกัน

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 28 มีนาคม 2568 ความเคลื่อนไหวภายหลังเกิดสถานการณ์แผ่นดินไหว ขนาดประมาณ 7.5 ใกล้เมืองมัณดาเลย์ ประเทศเมียนมา ห่างจากอำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน ประมาณ 366 กิโลเมตร และแรงสั่นสะเทือนส่งผลถึงประเทศไทยภาคเหนือ ภาคกลาง โดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพมหานครหลายจุด ซึ่งมีผลกระทบกับอาคารต่างๆ ในพื้นที่หลายเขต

เมื่อเวลา 19.19 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเดินทางมายังศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เสาชิงช้า เพื่อติดตามสถานการณ์โดยมีนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม.ให้การต้อนรับ ภายหลังหารือประมาณ 1 ชม. นายชัชชาติออกมาให้สัมภาษณ์ ส่วนายกรัฐมนตรีเดินทางกลับ

นายชัชชาติกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีมาเยี่ยมชมศูนย์บริหารสถานการณ์ของกทม. ปัญหาแรกสุดที่นายกให้ความสำคัญคือปัญหาจราจร โดยได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเร่งบรรเทาและคลี่คลายการจราจรในจุดต่างๆ รวมถึงทางกระทรวงกลาโหมได้สนับสนุนยานพาหนะในการรับส่งประชาชนชั่วคราว โดยเฉพาะบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิที่มีประชาชนอยู่กันค่อนข้างหนาแน่น เนื่องจากรถไฟฟ้าสายทางต่างๆปิดให้บริการทั้งหมด โดยกทมสั่งการมอเตอร์ไซค์รับจ้างทุกจุด และบริษัทเรียกรถโดยสาร เช่น Grab ให้บริการประชาชนในบริเวณที่มีจุดหนาแน่น

ส่วนปัญหาที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ปิดให้บริการทางด่วนเฉลิมมหานครช่วงด่านดินแดง เนื่องจากมีอุบัติเหตุการก่อสร้างคอนโดบริเวณใกล้เคียงทรุดลงมา จนทำให้มีเศษวัสดุก่อสร้างหล่นลงมาทับเส้นทาง นายชัชชาติกล่าวว่า ปัจจุบันทางกทพ.กำลังประเมินสถานการณ์ เพราะว่าด้านบนของอาคารที่กำลังก่อสร้าง เครนที่ทรุดลงมายังห้อยอยู่ จึงยังไม่สามารถเปิดให้ประชาชนใช้เส้นทางได้

ขณะที่การประเมินสภาพอาคารที่กำลังก่อสร้างหลายๆจุดทั่วกรุงเทพฯ ผู้ว่ากทม.ระบุว่า ตอนนี้ทางระบบ Traffy Fondue แพลต์ฟอร์มที่ให้ประชาชนร้องเรียนเข้ามานั้น ล่าสุด พบว่า มีการร้องเรียนประเด็นที่เกี่ยวกับอาคารสิ่งปลูกสร้างกว่า 1,000 เรื่องแล้ว โดยกทม.ประสานทีมงานวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ให้มาประจำแล้ว จะมีการไล่ดูเคสต่างๆที่มีการร้องเรียนเข้ามา โดยนายกรัฐมนตรีให้หน่วยงานที่มีฝ่ายวิศวกร เช่น กองทัพหรือเอกชนที่มีศักยภาพเข้ามาเสริมทีม สำหรับเรื่องที่มีการร้องเรียนมากที่สุดคือ พบรอยร้าว รอยแตกร้าวในสิ่งก่อสร้าง

นอกจากนี้ กทม. ยังเปิดสวนสาธารณะทั้ง 5 แห่งของกรุงเทพมหานคร ได้แก่ สวนเบญจสิริ, สวนเบญจกิตติ, สวนจตุจักร, สวนลุมพินี และศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ (บางมด) ให้ประชาชนเข้ามาพักผ่อนในช่วงที่การจราจรติดขัด พร้อมจัดทีมเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเทศกิจลงไปตรวจตราเพื่อให้เกิดความอุ่นใจ รวมถึงได้จัดรถสุขาและน้ำดื่มให้บริการ และได้เตรียมศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร ไทย-ญี่ปุ่น (สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง) สำหรับรองรับประชาชนในย่านดินแดงที่มีผู้สูงอายุอยู่เป็นจำนวนมาก

ส่วนความคืบหน้าเหตุอาคารก่อสร้างสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน จตุจักร ถล่ม จากเหตุแผ่นดินไหว นายชัชชาติกล่าวว่า ล่าสุดมีผู้เสียชีวิต 7 ฝ่าย บาดเจ็บ 8 ราย ขณะที่เหตุการณ์เครนก่อสร้างคอนโดบริเวณบางโพเหวี่ยงถล่มลงมา มีมีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 1 ราย

เมื่อถามว่า กรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ลงนามในคำสั่งประกาศกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ยกระดับการจัดการสาธารณภัยขนาดใหญ่ระดับที่ 3 มีความขัดแย้งกับกทม.ที่ประกาศคำสั่งจัดการสาธารณภัยแค่ระดับที่ 2 หรือไม่ ผู้ว่าฯกทม.ชี้แจงว่า ที่กระทรวงมหาดไทยประกาศระดับที่ 3 เพราะว่ากระทรวงมหาดไทยดูแลทั้งประเทศ แต่ของกทม.โฟกัสเฉพาะพื้นที่กทม.เท่านั้น ไม่ได้มีปัญหาเรื่องการประสานงาน เพราะที่ผ่านตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ก็ทำงานกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ด้วยดีตลอด ไม่มีปัญหา ไม่มีรอยต่ออะไร

ขณะที่การตรวจสอบสภาพอาคารต่างๆ นายชัชชาติกล่าวว่า ณตอนนี้เน้นไปที่โรงพยาบาลก่อน ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกคนเตรียมความพร้อมที่โรงพยาบาลแล้ว ถ้าพบว่ามีโรงพยาบาลไหนที่อาคารสิ่งก่อสร้างได้รับความรุนแรงอย่างหนักก็จะรีบลงพื้นที่ไปดูในคืนนี้เลย