นครบาล 2 เผยคืบหน้าสอบคดี ผกก.โจ้ แจงตอนนี้ได้คลิปเสียงเจ้าตัวโวยวายวันเกิดเหตุแล้ว กำลังอยู่ระหว่างวิเคราะห์ ขณะ ผกก.สน.ประชาชื่นแจงสอบพยานเป็นผู้คุมไปแล้ว 5 คน ผู้ต้องขังอีก 4 ปาก ตอนนี้รอตรวจสอบวัตถุพยาน ด้านอธิบดีราชทัณฑ์เผยตั้ง กก.ขึ้นมา 2 ชุดตรวจสอบกรณีร้องเรียน ส่วนอีกชุดตรวจสอบเสียชีวิตร่วมกับตำรวจ-นิติวิทยาศาสตร์-ฝ่ายปกครอง
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวเกี่ยวกับกรณีการเสียชีวิตในเรือนจำของพ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรืออดีตผู้กำกับโจ้ ล่าสุด เมื่อวันที่ 13 มี.ค. พล.ต.ต.เจษฎา สวยสม ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 (ผบก.น. 2) เปิดเผยว่า หลังจากที่มีข่าวว่า พ.ต.อ.ธิติสรรค์ มีท่าทีโวยวาย และเสียงดังหลังจากญาติไปเยี่ยมในวันเกิดเหตุ ตอนนี้ได้ไฟล์เสียงมาแล้ว และได้ไฟล์ย้อนหลังทุกครั้งที่มีการเข้าเยี่ยมไม่ว่าจะเป็นญาติ เพื่อน หรือบุคคลอื่นมาด้วย ตอนนี้หลักฐานนี้อยู่กับเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานแล้ว และอยู่ระหว่างถอดเทป เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมหาสาเหตุที่เป็นไปได้ ไม่ว่าจะเป็นการกดดัน หรือมีเหตุอะไรกระทบกระเทือนจิตใจที่อาจทำให้พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ก่อเหตุได้หรือไม่ แต่ว่าเบื้องต้นยังไม่ทราบในรายละเอียด ส่วนการทำหน้าที่ของพนักงานสอบสวนมีการประชุมกำหนดเป้าหมายทั้งหมดแล้ว ทั้งการสอบปากคำ และการแสวงหาหลักฐานต่างๆจนเกือบครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว
ต่อมา ที่ สน.ประชาชื่น พ.ต.อ.สัญญา อุบลวิรัตนา ผกก.สน.ประชาชื่น เปิดเผยว่า ขณะนี้สอบปากคำผู้คุมแดน 5 ไปแล้ว 5 คน และผู้ต้องขัง อีก 3-4 ปาก ร่วมกับอัยการ คาดว่ารู้ผลการสอบไม่นาน เพราะต้องรอผลตรวจสอบวัตถุพยานจากกองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ด้วย สำหรับการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ตอนนี้ได้เซิร์ฟเวอร์มาแล้ว อยู่ระหว่างการรอผลพิสูจน์จากพฐ. เช่นกัน เพื่อตรวจสอบว่ามีการตัดต่อภาพหรือไม่
ส่วนการจำลองเหตุการณ์การเสียชีวิตในเรือนจำ พ.ต.อ.สัญญา ระบุว่า จะไม่มีการจำลองเหตุการณ์ เพราะอัยการไม่สะดวก คาดว่าจะจำลองวันพรุ่งนี้ (14 มี.ค.) หรืออาจเป็นวันที่ 17-18 มี.ค.นี้ ส่วนเรื่องหลักฐานเสื้อของพ.ต.อ.ธิติสรรค์ จากการตรวจสอบในห้องขังพบเสื้อ2 ตัว ว่างพับอยู่รวมถึงกางเกง อยู่ระหว่างการตรวจสอบ เพราะภาพจากกล้องวงจรปิด พบพ.ต.อ.ธิติสรรค์ สวมใส่ในขณะเข้าไปในห้องขัง แต่ตอนเสียชีวิตกลับไม่ได้สวมเสื้อ ส่วนเรื่องไฟล์เสียงในวันเยี่ยมญาติ ขณะนี้อยู่ในระหว่างเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบถอดเทปวิเคราะห์พฤติการ
ส่วนที่กรมราชทัณฑ์ นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยการตรวจสอบข้อเท็จจริงการเสียชีวิตของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ว่า กรมราชทัณฑ์ตั้งคณะกรรมการ 2 ชุด ชุดแรกตรวจสอบกรณีทางครอบครัวผู้เสียชีวิตร้องเรียนมายังกรมราชทัณฑ์ซึ่งได้รับเรื่องตั้งแต่วันที่ 3 มี.ค.และตั้งคณะกรรมการเมื่อวันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมาพร้อมลงพื้นที่ตรวจสอบ ส่วนอีกชุดตรวจสอบกรณีการเสียชีวิตจะมีหน่วยงานภายนอก 3 หน่วย ทั้งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ตำรวจ และ ฝ่ายปกครอง เพื่อให้เห็นว่ากรมราชทัณฑ์พร้อมพิสูจน์ความจริงถือเป็นเรื่องสำคัญ
นายสหการณ์ กล่าวว่าเมื่อวันที่ 11 มี.ค. กรมราชทัณฑ์ พาตัวแทนสื่อมวลชนเข้าไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ รวมทั้ง มอบหลักฐานภาพกล้องวงจรปิด ตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่ตอนเช้าที่ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ลงจากเรือนนอนจนเข้าเรือนนอนและหลังการเสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งพร้อมเปิดให้ดูมากกว่านี้เพราะอยากให้ความจริงปรากฏว่าเกิดเหตุอะไรขึ้นในเรือนจำ เนื่องจากตอนนี้สังคมคาดการณ์ไปต่างๆ นานา แต่สุดท้ายแล้วความจริงก็คือความจริง ส่วนรายละเอียดระหว่างวัน ข.ช.ธิติสวรรค์ อยู่แดน 5 คนเดียวในห้องแยกควบคุม ตื่นเช้าทำกิจกรรมปกติ มีการพบทนายหรือญาติบ้าง และร่วมกิจกรรมกับเพื่อนผู้ต้องขัง แต่วันเกิดเหตุมีการเยี่ยมญาติเป็นระยะเวลานานพอสมควร จากนั้น เวลาประมาณ 09.00 น.-10.00 น. ผู้เสียชีวิตเดินกลับไปยังเรือนนอน ส่วนที่ผ่านมาเคยคุยกับญาตินานถึงไหนก็ต้องไปตรวจสอบ นอกจากนี้ข้อมูลที่พบว่ามีการพูดคุยโวยวายกับทางญาตินั้นเท่าที่ได้รับรายงานเกี่ยวข้องกับสถานการณ์บางอย่าง เช่นลักษณะท่าทางแฟนผู้เสียชีวิตเหมือนร้องไห้ ซึ่งมีเสียงบันทึกแต่ไม่สามารถยืนยันได้และอยู่ระหว่างตรวจสอบ
นายสหการณ์ กล่าวอีกว่าส่วนคำสั่งให้นายชาญ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ไปปฏิบัติหน้าที่ ผบ.เรือนจำกลางคลองเปรม อีกหน้าที่หนึ่ง และให้ นายเผด็จ กลับ ผอ.ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง เพื่อต้องการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม สร้างความเชื่อมั่น โดยนายเผด็จ เพิ่งย้ายมารับตำแหน่ง ผบ.เรือนจำกลางคลองเปรม เมื่อต้นเดือน ก.พ.68 ขณะเดียวกันมีการสอบสวน นายสิทธิพร ผู้คุมคู่กรณี และไม่อยากพูดในเรื่องนี้เพราะเหมือนเป็นการกล่าวร้าย ผู้เสียชีวิตแต่ทุกอย่างมีข้อมูลทั้งหมด พร้อมขอความร่วมมือสื่อมวลชนเนื่องจากขณะนี้พบว่าผู้คุมสิทธิพรไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ เพราะมีสื่อตามไปสัมภาษณ์ลูกชายผู้คุม ซึ่งป่วยซึมเศร้าแต่ยัดเยียดสอบถามต่างๆ จนต้องย้ายที่อยู่ ต้องแยกความเป็นส่วนตัวให้ออกและกลายเป็นละเมิดสิทธิเสียเอง
นายสหการณ์ กล่าวอีกว่ามีเอกสารที่ระบุว่า พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ลงชื่อย้ายแดนคุมขังเองและเมื่อถึงจุดหนึ่งก็พร้อมที่จะนำมาเปิดเผย รวมทั้งเอกสารที่ผู้เสียชีวิต ลงลายมือชื่อยินยอมให้ยุติการสืบสวนกรณีการทำร้ายร่างกาย และถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐานแล้ว ส่วนการยินยอมเซ็นเอกสารดังกล่าวจะมาจากความสมัครใจหรือถูกบังคับนั้นจะต้องมีการตรวจสอบทุกประเด็น เรือนจำกลางคลองเปรม มีลักษณะที่เข้มงวด เพื่อควบคุมดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยผู้ต้องขัง ซึ่งกรณีที่มีสื่อมวลชนหรือสังคมตั้งข้อสังเกตว่าการกระทำของผู้คุมบางอย่างเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนส่วนตัวมองว่าไม่ใช่ นักโทษทุกคนต้องทำตามกฎระเบียบ หากมีนักโทษบางคนต้องการแสดงอิทธิพล หรือฝ่าฝืนระเบียบ ก็ต้องถามกลับว่าในฐานะผู้คุมต้องทำอย่างไร ซึ่งกรณีของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ พบมีพฤติกรรมกระด้างกระเดื่องมีข้อมูลยืนยัน แต่ไม่อยากพูดพาดพิงผู้เสียชีวิต
อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวอีกว่าส่วนประเด็นที่ครอบครัวระบุว่าผู้เสียชีวิตถูกทำร้ายนั้นตัวเอง ยืนยันว่าสามารถตรวจสอบได้ซึ่งกรณีที่ก่อนหน้านี้มีผลแพทย์ โรงพยาบาลราชทัณฑ์ระบุว่าผู้เสียชีวิตถูกทำร้ายร่างกายด้วยของแข็งไม่มีคมได้รับบาดเจ็บ ได้รับบาดเจ็บที่ซี่โครงนั้นก็เป็นคนละช่วงเวลากับการถูกคุมขังในแดนที่มีนายสิทธิพร ดูแล และเชื่อว่าความจริงจะปรากฏเอง ซึ่งการนำ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ มาแยกขังที่แดน 5 ก็เพื่อเตรียมที่จะดำเนินการสอบสวนประเด็นที่ผู้เสียชีวิตมีพฤติกรรมกระด้างกระเดื่อง และผู้ต้องขังประสงค์อยากอยู่คนเดียว สำหรับประเด็นที่มีการมองว่าเหตุใดกรมราชทัณฑ์ไม่สามารถเคลื่อนย้ายศพเองได้ นายสหการณ์ ขอชี้แจงว่าตามสัญชาตญาณเมื่อเห็นผู้ต้องขังมีลักษณะคล้ายกับกำลังจะทำร้ายตัวเองเสียชีวิตหรือเสียชีวิตไปแล้ว ต้องช่วยไว้ก่อนเพราะถูกฝึกมาเช่นนี้ เบื้องต้นผู้คุมจะต้องให้ความช่วยเหลือทันทีจนถึงที่สุด
นอกจากนี้นายสหการณ์ เปิดเผยถึงการตรวจสอบกรณีผู้ต้องขังเรือนจำกลางเขาบิน จ.ราชบุรี ถูกผู้คุมทำร้ายร่างกาย หวั่นซ้ำรอยคดี พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ว่าเรือนจำกลางเขาบินจะมีแดนแยกตามพฤติกรรมผู้ต้องขัง ถือเป็นพื้นที่ควบคุม เพราะฉะนั้นตามกฏหมายราชทัณฑ์จะจัดระดับการดูแล ซึ่งเรือนจำกลางเขาดินถือเป็นเรือนจำความมั่นคงสูงสุดที่คุมขัง ผู้ต้องขังคดีเกี่ยวกับยาเสพติด มีความผิดสร้างความเสียหายร้ายแรง รวมถึงมีพฤติกรรมก้าวร้าว มีผู้ต้องขัง 3,000 - 4,000 คน ทำให้ผู้คุมต้องมีระเบียบที่เข้มงวดกวดขัน หากมีการฝ่าฝืนเจ้าหน้าที่ต้องเข้าระงับเหตุทันที แต่กรณีนี้ทราบว่าเกิดจากการทะเลาะวิวาท และต้องตรวจสอบว่าใครเป็นคนก่อเรื่อง จะถูกส่งแดน Super Max ตัดสิทธิประโยชน์แต่ไม่ได้ทรมาน เมื่อดีขึ้นกลับแดนปกติ
นายสหการณ์ กล่าวอีกว่า ส่วนที่มีการร้องเรียนว่าผู้คุมทำร้ายร่างกายขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบ ทั้งนี้การร้องเรียนของผู้ต้องขังมีทุกเรือนจำฯ ทั่วประเทศตามสิทธิ แต่ก็มีการยุติหลายเรื่องเพราะไม่มีมูล อย่างไรก็ตาม คนทำผิดอาญามาอยู่ในเรือนจำ ต้องมีกติกา วินัยเข้มงวดเพื่อช่วยดูแลแก้ไขฟื้นฟูให้คนเหล่านี้กลับสังคม ส่วนจะเป็นความกดดันทำให้นักโทษคนหนึ่งเขียนจดหมายน้อยฝากเพื่อนออกมาจากภายในเรือนจำ ก็ต้องตรวจสอบ และมีการตั้งคณะกรรมการส่งเรื่องมายังกรมราชทัณฑ์แล้ว