ราชกิจจาฯ แพร่ประกาศ ปปง.ให้ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอรับ-ชดใช้คืนทรัพย์สิน คดี 'น.ส.พรปวีณ์ ภู่ทอง' พนักงานบัญชี กับพวก ปลอมเอกสารเบิกจ่าย รพ.เลอลักษณ์ 496 ครั้ง เสียหาย 214.8 ล.
สำนักข่าวอฺศรา (www.israenws.org) รายงานว่า ราชกิจจานุเบกษา วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 เผยแพร่ ประกาศสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เรื่อง ให้ผู้เสียหายยื่นคำร้องเพื่อขอรับคืนหรือชดใช้คืนซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดหรือชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหายในความผิดมูลฐาน ราย นางสาวพรปวีณ์ ภู่ทองกับพวก ปลอมเอกสารเบิกจ่าย โรงพยาบาลเลอลักษณ์ เสียหาย 214.8 ล้านบาท ดังนี้
ด้วยคณะกรรมการธุรกรรมได้มีมติในการประชุม ครั้งที่ 2/2568 เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 ให้ยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว ประธานกรรมการธรกรรมได้มีคำสั่ง ที่ ย.40/2568 ลงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 ให้ยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน (เก้าสิบวัน) นับตั้งแต่วันที่คณะกรรมการธุรกรรมมีมติ ในความผิดเกี่ยวกับการปลอมเอกสารสิทธิ ตามประมวลกฎหมายอาญาอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ และความผิดเกี่ยวกับการลักทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญาอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ อันเข้าลักษณะเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (14) และ (18) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 คดีราย นางสาวพรปวีณ์ ภู่ทอง กับพวก กล่าวคือ
ระหว่างวันที่ 2 เมษายน 2559 ถึงวันที่ 1 มีนาคม 2562 เวลากลางวันต่อเนื่องกัน นางสาวพรปวีณ์ หรือโบว์ ภู่ทอง เจ้าพนักงานบัญชีของบริษัทโรงพยาบาลเลอลักษณ์ จำกัด ได้ถ่ายสำเนาใบจ่ายเงินที่มีการจ่ายเงินไปแล้วเพื่อนำมาประกอบการเบิกเงินครั้งใหม่ โดยลบชื่อผู้จ่ายเงิน วันที่จ่ายเงิน ชื่อผู้รับเงิน วันที่รับเงิน และตราประทับ "จ่ายแล้ว" เป็นเหตุให้ฝ่ายการเงินของบริษัทโรงพยาบาลเลอลักษณ์ จำกัด หลงเชื่อ และอนุมัติการจ่ายเงินให้ นางสาวพรปวีณ์ ภู่ทอง เงินส่วนใหญ่ที่ได้มาจะถูกโอนให้กับนางอันธิกา หรือปอ นิธิยศอุดมศรี อดีตพยาบาลวิชาชีพหัวหน้าหอผู้ป่วยของบริษัทโรงพยาบาลเลอลักษณ์ จำกัด
พนักงานสอบสอบสวนกองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปราม ตามคดีอาญาที่ 16/2562 มีความเห็นควรสั่งฟ้องนางสาวพรปวีณ์ ภู่ทอง ในความผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์นายจ้าง ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอมและมีความเห็นควรสั่งฟ้องนางอันธิกา นิธิยศอุดมศรี ในความผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์ ร่วมกันลักทรัพย์นายจ้างหรือรับของโจร ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม รวมทั้งสิ้นจำนวน 496 ครั้ง มูลค่าความเสียหายประมาณ 214,812,204.04 บาท (สองร้อยสิบสี่ล้านแปดแสนหนึ่งหมื่นสองพันสองร้อยสี่บาทสี่สตางค์) อันเข้าลักษณะเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (14) และ (18) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และกรณีมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่านางสาวพรปวีณ์ ภู่ทอง กับพวก ได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดดังกล่าว
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 49/1 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินพ.ศ. 2542 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2565 และข้อ 3 แห่งกฎกระทรวงการคืนหรือการชดใช้คืนซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดและการชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหายในความผิดมูลฐาน พ.ศ. 2567 จึงขอให้บุคคลผู้ได้รับความเสียหายโดยตรงจากการกระทำความผิดมูลฐานในรายคดีดังกล่าวและไม่มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดนั้น ยื่นคำร้องเพื่อขอรับคืนหรือชดใช้คืนซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดหรือชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหายในความผิดมูลฐานต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ภายใน 90 วัน (เก้าสิบวัน) นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ทั้งนี้ รายละเอียดการยื่นคำร้องปรากฏตามเอกสารแนบท้ายประกาศนี้
ดูประกาศในลิงก์: https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/62294.pdf