
'อังคณา นีละไพจิตร' ถอนญัตติผู้ป่วยทิพย์ชั้น 14 เผยข้อมูลไม่เพียงพอในขณะนี้ ต้องรอบคอบ ยันไม่กลัวถูกฟ้อง พร้อมรอดูการพิจารณาของ ป.ป.ช ก่อนที่ประชุมวุฒิสภา เห็นชอบให้ถอนญัตติ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 18 ก.พ. 25668 นางอังคณา นีละไพจิตร สมาชิกวุฒิสภา (สว.) เปิดเผยว่า ได้ถอนญัตติที่ขอให้วุฒิสภาพิจารณาหาแนวทางปฏิบัติในการให้สิทธิ์แก่ผู้ต้องขังในการรักษาพยาบาลอย่างเท่าเทียมกัน เนื่องจากข้อมูลยังไม่เพียงพอในขณะนี้ โดยเฉพาะข้อมูลด้านการแพทย์ที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ ซึ่งทำให้ไม่สามารถดำเนินการได้ในขณะนี้
นอกจากนี้ ยังมีการพิจารณาของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เกี่ยวกับประเด็นนี้ ซึ่งอาจจะมีข้อกฎหมายที่ส่งผลต่อการพิจารณาของวุฒิสภา
"ยืนยันว่าไม่ได้กลัวเรื่องการถูกฟ้องร้อง เพราะดิฉันทำงานด้านสิทธิมนุษยชนมาตลอด และตอนนี้ดำรงตำแหน่งวุฒิสมาชิก เราจึงให้ความเห็นเรื่องนี้ในทางวิชาการ ไม่ได้โจมตีบุคคล จึงคิดว่าไม่ควรนำมาซึ่งการถูกฟ้องร้อง เพราะความเห็นในเชิงวิชาการ ควรได้รับความเคารพ" นางอังคณา กล่าว
นางอังคณา กล่าวถึงกรณีการรักษาของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า เห็นตรงกับรายงานของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ที่กล่าวว่าการที่นายทักษิณนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจเป็นเวลานานโดยไม่ได้ย้ายออกนั้น อาจถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนและเป็นการเลือกปฏิบัติ
นางอังคณา กล่าวด้วยว่า จุดยืนและเป้าหมายที่เสนอญัตตินี้ เพราะมองว่าผู้ป่วยทุกคนควรได้รับสิทธิในการรักษาอย่างเท่าเทียมกัน ควรเปิดโอกาสให้ไปคุมขังที่อื่น ที่ไม่ใช่เรือนจำ เช่น กรณีของ “บุ้ง เนติพร” ที่ควรได้รับการรักษาใกล้ชิดกับแพทย์เฉพาะทาง อย่างไรก็ตาม น่าจะกลับมายื่นญัตติดังกล่าวได้อีกครั้งในสมัยประชุมหน้า
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อเข้าสู่วาระการประชุมวุฒิสภาเพื่อพิจารณาญัตติดังกล่าว พลเอก เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง ในฐานะประธานในที่ประชุม ได้แจ้งต่อที่ประชุมก่อนเข้าสู่การพิจารณาวาระ ว่า เนื่องนางอังคณา สมาชิกวุฒิสภา ได้ทำหนังสือนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ขอถอนญัตติดังกล่าวออกจากวาระการประชุม เนื่องจากมีสาระสำคัญที่ต้องปรับปรุงแก้ไขให้มีความครบถ้วนสมบูรณ์
พลเอก เกรียงไกร แจ้งต่อที่ประชุมว่า เนื่องจากข้อบังคับข้อที่ 27 กำหนดไว้กรณีการขอถอนญัตติที่ประธานวุฒิสภาสั่งบรรจุเข้าที่ประชุมและส่งให้สมาชิกแล้วจะกระทำได้ก็ต่อเมื่อที่ประชุมวุฒิสภามีมติเห็นชอบ จึงต้องขอถามที่ประชุมว่าจะเห็นชอบหรือไม่

รายงานข่าวระบุว่า โดยที่ประชุมวุฒิสภาลงมติเห็นด้วยให้ถอนญัตติด้วยคะแนน 138 เสียง ไม่เห็นด้วย 7 เสียง งดออกเสียง 7 เสียง จำนวนผู้ลงมติ 152 คน

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา