วารสารฯ มธ. และ นิเทศฯม.อ.ปัตตานี ออกแถลงการณ์ หลัง ‘พิรงรอง’ ถูกศาลอาญาพิพากษาจำคุก 2 ปี กลั่นแกล้ง ทรูไอดี สองสถาบันชี้การพิทักษ์ผลประโยชน์ของสาธารณะคือสิ่งสำคัญ ชี้สื่อเปิดพื้นที่ให้มีการอภิปรายในวงกว้าง ส่วนกสทช.ควรยืนยันจุดยืนการทำงานที่โปร่งใส และพิทักษ์ผลประโยชน์ของภาคประชาชนอย่างเต็มกำลัง
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2568 หลังจากที่ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีคำพิพากษาลงโทษจำคุก 2 ปี ศ.กิตติคุณ ดร.พิรงรอง รามสูต กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านกิจการโทรทัศน์ ถูกบริษัท ทรูดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด ฟ้องร้องในข้อหาเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามมาตรา 157 ปมออกหนังสือเตือนทีวีดิจิทัลมีโฆษณาแทรก
โดยมีภาคประชาสังคม สถาบันการศึกษาและบุคคลที่มีชื่อเสียงในสังคมออกมาให้กำลังใจอย่างมากมายนั้น
- จุดยืน ท่าที กำลังใจ ถึง 'พิรงรอง' สู้เพื่อผู้บริโภค 'จะล้มยักษ์' แต่โดนคุก 2 ปี
- สรุป! คำพิพากษาคุก 2 ปี ‘พิรงรอง’ คดีทรู จะล้มยักษ์ มุ่งกลั่นแกล้งให้เสียหาย
@วารสารฯ มธ.: หนุนสื่อเปิดพื้นที่อภิปรายปัญหาให้กว้างขวาง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ออกแถลงการณ์ความว่า จากกรณีที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ นัดฟังคำพิพากษาวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568 ในคดีที่บริษัททรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด เป็นโจทก์ฟ้อง ศาสตราจาจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรอง รามสูต กรรมการ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จำเลย เรื่อง เจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และศาลได้พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา157 จำคุก 2 ปี โดยไม่รอลงอาญานั้น
คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน ขอแสดงจุดยืนสนับสนุนการทำหน้าที่ของศาสตราจารย์กิตติคุณดร.พิรงรอง รามสูต ในฐานะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยเจตนาสุจริตเพื่อคุ้มครองผู้บริโภคโดยคำนึงถึงประโยชน์สาธาธารณะ
คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน เล็งเห็นว่าการพิทักษ์ผลประโยชน์ของสาธารณะคือสิ่งสำคัญ และกสทช. ในฐานะองค์กรอิสระคือผู้ที่สังคมหวังให้เป็นที่พึ่ง กสทช.พึงกำกับดูแลสื่อให้เป็นไปตามหลักจริยธรรมรับผิดชอบต่อสังคม และคุ้มครองผู้บริโภค โดยคำนึงถึงถึงประโยชน์สาธารณะ ทบทวนกลไกการกำกับดูแลให้เป็นไปอย่างอิสระและชัดเจนในบทบาทหน้าที่คุ้มครองผู้บริโภคคตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปของนิเวศดิจิทัล
คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชนขอสนับสนุนให้วงการวิชาการและวิชาชีพด้านการสื่อสารสื่อมวลชน และสาธารณชน ร่วมติดตาม สื่อสาร อภิปรายกฎหมายและการเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์สื่อที่ส่งผลกระทบต่อสิทธิของผู้บริโภค โดยเฉพาะสนับสนุนสื่อมวลชนให้ความสำคัญกับการเกาะติดการรายงานข้อเท็อเท็จจริงและให้ข้อมูลเชิงลึกอย่างต่อเนื่อง ด้วยความรอบคอบและรอบด้าน ก่อให้เกิดพื้นที่อิสระในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันภายใต้หลักคิดของการขับเคลื่อนสังคมที่มีผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง อันเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะตามบทบาทหน้าที่การทำงานสื่อเพื่อมวลขนอย่างแท้จริง เพื่อชี้ให้เห็นถึงผลกระทบที่กว้างขวาง และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายร่วมกันทบทวนและเห็นถึงความสำคัญของผลประโยชน์สูงสุดของสาธารณะเป็นสำคัญ เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นบรรทัดฐานที่กระทบต่อการคุ้มครองสิทธิของผู้บริโภค
คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 7 กุมภาพันธ์ 2568
@นิเทศฯ ม.อ. : กสทช.ต้องยืนยันทำงานโปร่งใส
ขณะที่สาขาวิชานิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี (ม.อ.บัตตานี) ออกแถลงการณ์ในนามคณาจารย์สาขาวิชานิเทศศาสตร์ "สนับสนุนบทบาทกำกับดูแลกิจการสื่อสารและพิทักษ์ผลประโยชน์สาธารณะของกสทช." โดยมีเนื้อความว่า
สาขาวิชานิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี (ม.อ.บัตตานี) ขอแสดงจุดยืนสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของ ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรอง รามสูต ในฐานะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมาคนาคมแห่งชาติ (กลทช.) ที่เป็นไปเพื่อกำกับดูแลกิจการการสื่อสารและพิทักษ์คุ้มครองประโยชน์สาธารณะ
สาขาวิชานิเทศศาสตร์ฯ เห็นว่า แนวคิดหลักของการกำกับดูแลสื่อ คือการรักษาหลักการเพื่อพิทักษ์มิให้อิทธิพลใดๆ ละเมิดสิทธิพื้นฐานและครอบจำความคิดของประชาชน อีกทั้ง องค์กรด้านการกำกับดูแลสื่อต้องมีความสง่างามในฐานะองค์กรอิสระที่ปลอดจากอิทธิพลและผลประโยชน์ทั้งปวง ไม่ว่าจากรัฐและทุน เพื่อธำรงการทำหน้าที่กำกับดูแลสื่อและรักษาษาผลประโยชน์ในกิจการกระจายเสียง โทรทัศน์ และโทรคมนาคม รวมถึงเทคโนโลอีการสื่อสารสมัยใหม่ ที่เกี่ยวข้องกับประชาชนในฐานะผู้บริโภคย่อมสมควรได้รับการคุ้มครองอย่างมีประสิทธิภาพ
สาขาวิชานิเทศศาสตร์ฯ เห็นว่า "การพิทักษ์ผลประโยชน์ของสาธารณะ" เป็นทั้งหัวใจ อุดมการณ์และพันธกิจที่นักวิชาชีพและนักวิชาการด้านนิเทศศศาสตร์ - วารสารศาสตร์ ยึดมันมาโดยตลอด เจตจำนงนี้ยังนำมาสู่การยอมรับของกระบวนการยุติธรรรมเสมอมา จนนำมาสู่การเป็นหลักประกันกันในสิทธิและเสรีภาพที่นานาอารยประเทศให้การยอมรับว่าเป็นหลักสากล
สาขาวิชานิเทศศาสตร์ฯ จึงขอเรียกร้องให้ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กลทช.) และองคาพยพ ยืนหยัดรักษาแนวทางการทำงานที่โปร่งใส และพิทักษ์ผลประโยชน์ของภาคประชาชนอย่างเต็มกำลัง ให้สมดังเจตนารมณ์ในการก่อตั้งเพื่อการปฏิรูปสื่อ และเป็นหลักประกันในสิทธิเสรีภาพด้านการสื่อสาร และควรเร่งหาแนวทางการคุ้มครองผู้บริโภคสื่อด้วยการแก้ไขช่องว่างทางกฎหมายหรือระเบียบในการกำกับดูแลการใช้ทรัพยากรการสื่อสาร อันเป็นทรัพย์สินสาธาธารณะดามความคาดหวังของภาคประชาชน
สาชาวิชานิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ขอแสดงความนับถืออย่างสูงต่อการปฏิบัติหน้าที่ของ ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรอง รามสูต ในฐานะกรรมการกิจการกระจายเสียง
กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติอย่างเต็มกำลัง สุจริต ยึดมั่นในหลักการ และปกป้องผลประโยชน์สูงสุดของสาธารณะ
คณาจารย์สาชาวิชานิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเชตบัตตานี
7 กุมภาพันธ์ 2568