
ป.ป.ช. ลงพื้นที่สอบหอศิลป์ฯตรัง สร้าง 8 ปีไม่เสร็จ ด้านเทศบาลแจงหาผู้รับเหมาใหม่เข้าทำงานแล้ว ร่วมดำเนินโครงการตามสัญญา 720 วันไปตั้งแต่ 28 ม.ค. ด้านเลขาฯ ป.ป.ช.ชี้โครงการก่อสร้างใหม่ 289 ล้านควรมีแผนรองรับด้วย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าเมื่อวันที่ 5 ก.พ. ที่โรงแรมเรือรัษฎา อำเภอเมือง จังหวัดตรัง นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นประธานโครงการสื่อมวลชนสัมพันธ์ และร่วมวงเสวนา เกี่ยวกับสถิติคดีและเรื่องร้องเรียนของสำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 9 การบุกรุกที่ดินในเขตอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหมพื้นที่เกาะกระดาน การจัดเก็บค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ความเสี่ยงในการจัดจ้างต่อเติมงานก่อสร้างหอศิลป์พระยารัษฎานุประดิษฐ์ของเทศบาลนครตรัง ซึ่งก่อสร้างมาแล้วกว่า 8 ปี ไม่แล้วเสร็จ
โดยการลงพื้นที่ซึ่งมีนายนิวรณ์ แสงวิสุทธิ์ รองนายกเทศมนตรีนครตรัง นายธวัช องศารา ผู้อำนวยการ (ผอ.) ส่วนควบคุมอาคาร และหัวหน้าฝ่ายพัสดุ ร่วมให้ข้อมูลว่า ขณะนี้ทางเทศบาลได้ผู้รับเหมาใหม่และเซ็นต์สัญญาไปแล้วเมื่อวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยสัญญาเริ่ม 28 ม.ค. ขณะนี้ผู้รับจ้างแจ้งเข้าทำงานแล้ว ระยะเวลา 720 วัน คาดหวังว่าจะไม่ทิ้งร้างและได้เตรียมการตั้งรับด้วยการคุยกันเรื่องข้อกฎหมาย รวมทั้งมีหนังสือสั่งการของกรมบัญชีกลางเรื่องการเร่งรัดในการบริหารสัญญาจะเอามาใช้กับการติดตามการก่อสร้างครั้งนี้ โดยมีข้อบังคับการบริหารสัญญาชัดเจนโดยมีการระบุเวลา และเรามีบทเรียนมาแล้วจะนำมาใช้กับการบริหารสัญญารอบนี้ และให้เกิดความคุ้มค่ามากที่สุด โดยได้เตรียมแผนดำเนินการกับโครงการ TK PARK และ มิวเซียมสยาม ซึ่งได้ทำข้อตกลงไว้แล้ว ซึ่งอาร์ซีตรัง และจะให้มิวเซียมสยามมาเป็นพี่เลี้ยง ซึ่งทุกอย่างได้ประสานและตกลงกันเรียบร้อยหมดแล้ว
“ส่วนจะหางบประมาณส่วนไหนมาดูแลบริการจัดการศูนย์ฯ จะต้องมีการพูดคุยกันต่อไป เพราะลำพังเทศบาลดูแลเองคงไม่ไหว โดยหลักการต้องให้อาคารนี้ดูแลตัวเองได้ เป็นเป้าหมายที่คาดหวังและเป็นโจทย์ที่ต้องคิดต่อไป” นายนิวรณ์ กล่าว
ด้าน นายธวัช องศารา ผอ.ส่วนควบคุมอาคาร กล่าวชี้แจงว่า ส่วนอาคารที่เหลือก็ต้องหาวิธีบริหารจัดการจะใช้พื้นที่อย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ถือเป็นโจทย์ที่เทศบาลจะต้องดำเนินการ ซึ่งเป็นแผนการเดิม แต่ยืนยันว่าที่ผ่านมาไม่ได้ทิ้งร้าง แต่มีปัญหาเรื่องเงื่อนไขจะต้องตกลงกับกรมธนารักษ์ เดิมธนารักษ์จะคิดค่าเช่า แต่ทางเทศบาลไม่ได้นำมาบริหารในเชิงพาณิชย์ จึงทำตามเงื่อนไขของกรมธนารักษ์ไม่ได้ แต่ตอนนี้กรมธนารักษ์เข้าใจเจตนาของเทศบาลแล้ว เทศบาลจึงดำเนินการต่อ และสร้างเสร็จก็เป็นทรัพย์สินของกระทรวงการคลัง ที่มีเงื่อนไขไม่ให้หาผลประโยชน์
นายสาโรจน์ยังได้กล่าวฝากกับฝ่ายเทศบาลนครตรังว่า งบประมาณใหม่ที่จะก่อสร้างกว่า 289 ล้านบาท ต้องบริหารสัญญาให้เป็นไปตามสัญญา แต่สถานที่ใหญ่มากแบบนี้ ทางเทศบาลจะต้องมีแผนรองรับและคิดต่อในการดำเนินการจัดกิจกรรมทั้งเรื่องงบประมาณดูแลสถานที่ ว่าจะเอาเงินมาจากไหน ไม่เช่นนั้นพอการก่อสร้างผ่านไป 700 วัน อาคารสร้างเสร็จแล้ว ถ้าไม่วางแผนรองรับไว้จะไปต่อลำบาก สภาพก็จะออกมาใช้ประโยชน์ไม่เต็มที่ และถูกทิ้งเอาไว้เหมือนกับตอนนี้อีก เพราะไม่มีรายได้ ไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งเหมือนกับโครงการใหญ่ๆหลายที่ลักษณะเป็นปัญหาอยู่ ฝากเป็นข้อสังเกตไว้ให้ทางเทศบาล สุดท้ายแล้วแม้ทรัพย์สินจะเป็นของกระทรวงการคลัง แต่ก็ต้องมอบให้เทศบาลบริการจัดการอยู่ดี ต่อไปเปิดแล้วต้องบริหารจัดการให้ได้ หรือเปิดไปแล้วต้องหยุดกิจกรรม ซึ่งปัญหาลักษณะนี้ก็มีให้ศึกษากันมาแล้ว เพราะงบประมาณก่อสร้างใหม่จำนวนมากรวมกว่า 300 ล้านบาท ต้องวางแผนรองรับด้วย
สำนักข่าวอิศรารายงานเพิ่มเติมว่าก่อนหน้าที่ ป.ป.ช.จะลงพื้นที่ นายบัณฑิต คณะสุวรรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดตรัง กล่าวถึงภาพรวมการทุจริตใน จังหวัดตรัง ตอนหนึ่งว่า โครงการอาคารหอศิลปวัฒนธรรมพระยารัษฎานุประดิษฐ์ฯ ของเทศบาลนครตรัง นั้นดำเนินงานตั้งแต่ปี 2559 ใช้งบประมาณไป 4 ครั้ง ขณะที่ใช้งบรวมกันไม่น้อยกว่า 390 ล้านบาท โดยจังหวัดตรังในขณะนั้น ใช้งบกลุ่มจังหวัด จำนวน 39 ล้านบาทเศษ ต่อมามีเงื่อนไขว่าจะมอบให้เทศบาลนครตรังดูแล
โดยในปี 2560 เทศบาลนครตรัง ได้ตั้งจ่ายงบใหม่เพื่อใช้ในโครงการนี้ 61 ล้านบาท หลังจากนั้นในปี 2562 จะดำเนินการสร้าง เพื่อโอนให้เทศบาลนครตรัง แต่ก็ยังไม่เสร็จ จน ป.ป.ช.ไปลงติดตามเรื่องนี้ หลังจากนั้นก็มีการจ้างที่ปรึกษาเพื่อดำเนินการเรื่องนี้ โดยใช้ค่าจ้าง 3.5 ล้านบาท ปรากฏว่า ดำเนินการตามสัญญาจ้างเรียบร้อย ณ วันนี้ และมีการตรวจรับงานด้านที่ปรึกษาได้ปรึกษาเนื้อหาแนวทางแล้ว จนเคาะราคากลางก่อสร้างเพิ่มอีก 287 ล้านบาท ทางป.ป.ช.จะติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะเสี่ยงว่าจะมีการทิ้งงานอีก

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา