
วิวาทะหน่วยงานความมั่นคง-ใครมีอำนาจตัดไฟ ? ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ชี้ ฝ่ายความมั่นคงมีอำนาจสั่งตัดไฟได้-กระทรวงมหาดไทย ถือเป็นหน่วยงานด้านความมั่นคง เผย แม่ละมาด-แม่สอด ระงับการจ่ายไฟแล้วตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2566 สั่งการย้ำ ไม่ตัด มีความผิดฐาน สมรู้ร่วมคิด ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แนะ ยกเลิกสัญญาบริษัทเมียนมาร์ รับซื้อไฟจากไทยได้ ถ้าสัญญานั้นนำไปใช้ในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 30 มกราคม 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่ากระทรวงกลาโหมให้สัมภาษณ์ถึงกรณีอำนาจการระงับการจ่ายไฟเป็นของใครระหว่างหน่วยงานความมั่นคง หรือ กระทรวงมหาดไทย โดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ว่า ถ้ามีปัญหาเกี่ยวกับความมั่นคง ฝ่ายความมั่นคงมีสิทธิที่จะสั่งการให้ดำเนินการได้ ให้ตัดได้ ถ้าไม่มั่นใจและมีการร้องขอมาก็จะให้ฝ่ายความมั่นคงช่วยพิจารณา
ผู้สื่อข่าวถามว่า หน่วยงานด้านความมั่งคง เจ้าภาพ คือ ใคร นายภูมิธรรมกล่าวว่า ทหาร ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ตนในฐานะดูแลฝ่ายความมั่นคงก็จะประสานงานให้ รวมถึงกระทรวงมหาดไทยก็เป็นหน่วยงานด้านความมั่นคงอยู่แล้ว ดังนั้น จึงต้องบูรณาการร่วมกันทั้งหมด
เมื่อถามว่า ปัญหาขณะนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่กระทบต่อความมั่นคงแล้วหรือยัง นายภูมิธรรมกล่าวว่า ประเด็นที่ 1 เรื่องของการตัดไฟ ซึ่งไฟที่จ่ายไปยังประเทศเมียนมาร์ 2 จุด จุดแรก ที่สะพานมิตรภาพไทย-ลาว เข้าสู่เมียวดี เมียนมาร์ ยังไม่ได้ตัด มีการใช้ไฟปกติ และมีบ้านประชาชน ศูนย์เด็ก โรงพยาบาล เพราะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด หรือคอลเซ็นเตอร์ จุดที่สอง ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ยังจ่ายไฟอยู่
“จุดที่มีปัญหา คือ ที่แม่ละมาด แม่สอด เมื่อเดือนมิถุนายน ปี 66 ได้ตัดไฟไปเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้ตนได้สั่งการไปอีกว่า ถ้ายังไม่ตัด ถือว่า เป็นผู้สมรู้ร่วมคิด มีความผิด ฝ่ายความมั่นคงก็จะดำเนินการ รวมถึงอินเตอร์เน็ตก็รื้อหมดแล้ว ยืนยันว่า ไฟจากเราไม่มีแล้ว ทั้งสองจุด ถ้าเขาจะใช้เครื่องปั่นไฟก็ต้องตามดู เพราะเป็นเรื่องภายในของเขา ส่วนไฟจากกปภ.ยืนยันว่า ไม่มี”นายภูมิธรรมกล่าว
ด้านนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ที่จังหวัดลำพูนก่อนขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ถึงกรณีนายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงและสาธารณะ สาธารณรัฐประชาชนจีนมาไทยเพื่อดูการแก้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ ว่า ตนได้คุยอย่างไม่เป็นทางการกับจีนบ่อย ได้ฝากข้อความไปยังผู้ใหญ่ในจีนว่า เรื่องปัญหาความร่วมมือกันในภูมิภาคต้องอาศัยความร่วมมือจากจีนช่วยเหลือด้วย
“โดยเฉพาะจีนมีอิทธิพลกับพม่าเยอะ แล้วรัฐบาลทหารพม่าวันนี้ ยังต้องพูดคุยกัน แต่เราไม่สามารถพูดคุยโดยตรงได้มากนัก ก็เลยให้จีนช่วยหน่อย ในช่วงปัญหาการสู้รับในพม่ายังไม่ยุติ”นายทักษิณกล่าว
นายทักษิณกล่าวว่า วันนี้คอลเซ็นเตอร์ในไทยมี แต่เล็ก ไล่ล่าได้ ไม่ยาก ปัญหาคือ คอลเซ็นเตอร์ที่อยู่ประเทศเพื่อนบ้าน แต่ใช้สื่อสารไทย เราได้เข้มงวดไปแล้ว โดยการขอให้บริษัทสื่อสารขายซิมการ์ดเป็นจำนวนมาก เป็นแสนซิม หวังรายได้จากตรงนี้ไม่ได้ จึงได้เตือนบริษัทที่ทำธุรกิจด้านนี้ไปแล้ว ขอให้ร่วมมือเต็มที่
ส่วนประเทศเพื่อนบ้านก็สามารถคุยกันได้มากขึ้น โดยเฉพาะเมียวดี มีทั้ง รัฐบาลทหาร ชนกลุ่มน้อย และ BGF เราพยายามประสานไป แต่เจ้าหน้าที่ของไทย ไม่เข้มแข็ง ปล่อยให้เข้าออกได้ง่าย ไม่ตรวจประวัติ
เมื่อถามว่า การตัดไฟจะช่วยได้หรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า แน่นอน ทั้งไฟ ทั้งสื่อสาร ต้องทำทั้งคู่
เมื่อถามว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทยออกมาระบุว่า ยังตัดไฟไม่ได้ เนื่องจากเป็นการทำสัญญาที่ถูกต้อง นายทักษิณกล่าวว่า ต้องทำ สัญญาที่ถูกต้อง ยกเลิกได้ ถ้าสัญญานั้นถูกนำไปใช้ในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
ต่อมานายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ว่า ผู้ประสานงานจ่ายไฟให้ประเทศเพื่อนบ้านต้องแจ้งมาให้หยุด ไม่ใช่ฟังข่าวแล้วหยุดทันที เพราะคนในพื้นที่ที่ไม่เกี่ยวข้องจะเดือดร้อน และมีเงื่อนไขในสัญญา ซึ่งหากหน่วยงานที่ลงนามในสัญญา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการขายไฟให้ประเทศเพื่อนบ้านแจ้งมายังกระทรวงมหาดไทย พร้อมสับสวิตซ์ทันที
“ก็สั่งมาสิ สั่งมาให้เรียบร้อย ผมต้องรับฟังคำสั่งที่ถูกต้อง มีกฎหมายรองรับ” นายอนุทินกล่าว
นายอนุทินกล่าวถึงอำนาจในการสั่งตัดไฟเป็นของหน่วยงานด้านความมั่นคงและกระทรวงมหาดไทยก็ถือเป็นหน่วยงานด้านความมั่นคงว่า ว่า กฟภ.ทำหนังสือไปแล้ว แต่ยังไม่ได้รับคำตอบ ดังนั้น หากมีคำตอบจากหน่วยงานที่ทำเรื่องไป ก็พร้อมดำเนินการทันที

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา