
ผู้แทนจาก ‘UNESCO’ ลงพื้นที่ ‘สถานีอยุธยา’ จุดก่อสร้างไฮสปีดไทยจีน ‘รฟท.’ ยอมปรับลดความสูงสถานีลงให้ต่ำกว่า 30 ม.และปรับลดความสูงของสันรางเหลือ 17 เมตร ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญแนะ 2 แนวทางหลังสร้างสถานีเสร็จ ขยายพื้นที่มรดกโลก - ประกาศเขตกันชนเพิ่ม ส่วนสัญญา 4-5 ที่ค้างเติ่งพร้อมเซ็นแล้ว เล็งทำรายงานถึงผู้ว่าฯ รอทิศทางนโยบาย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 24 มกราคม 2568 นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 19 – 22 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา การรถไฟแห่งประเทศไทย ลงพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมกับ Mr. Gamini Wijesuriya ผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์นานาชาติเพื่อการศึกษาการสงวนรักษาและการบูรณะมรดกทางวัฒนธรรม (ICCROM) และ Mr. Michael Pearson ผู้เชี่ยวชาญจากสภาการโบราณสถานระหว่างประเทศ (ICOMOS) ซึ่งเป็นผู้แทนองค์กรที่ปรึกษาของคณะกรรมการมรดกโลก เพื่อสำรวจพื้นที่จริงและรับฟังข้อมูลเกี่ยวกับรายงานการประเมินผลกระทบทางทรัพย์สินและวัฒนธรรมต่อแหล่งมรดกโลก นครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา (HIA) กรณีโครงการรถไฟความเร็วสูงช่วงสถานีอยุธยา โดยมีหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมลงพื้นที่ในครั้งนี้ด้วย
ผู้แทนองค์กรที่ปรึกษาของคณะกรรมการมรดกโลก ได้ลงพื้นที่บริเวณแหล่งพื้นที่มรดกโลกทางวัฒนธรรม อาทิ แยกตะแลงแกง วัดราชบูรณะ วัดมหาธาตุ รวมถึงพื้นที่โบราณสถานที่อยู่ใกล้เคียงพื้นที่โครงการ อาทิ สถานีรถไฟอยุธยา วัดหลวงพ่อคอหัก และพื้นที่โบราณสถานบริเวณรอบเกาะเมืองอยุธยา อาทิ วัดพนัญเชิง หมู่บ้านญี่ปุ่น วัดใหญ่ชัยมงคล นอกจากนี้ ยังลงพื้นที่สถานีบ้านม้า สถานีรถไฟบ้านโพ สถานีรถไฟบางปะอิน เพื่อนำข้อมูลต่างๆ ทั้งด้านทัศนียภาพ การพัฒนาเมือง การท่องเที่ยว รวมถึงการจราจร ไปสังเคราะห์ก่อนนำเสนอต่อคณะกรรมการมรดกโลกต่อไป
@แนะปรับลดความสูงสถานี-ย้ำแนวเส้นทางไม่อยู่ในเขตมรดกโลก
“ผู้แทนองค์กรที่ปรึกษาของคณะกรรมการมรดกโลก มีข้อสรุปให้การรถไฟฯ ปรับลดความสูงของหลังคาสถานีรถไฟความเร็วสูงอยุธยา ไม่ให้โครงสร้างหลังคาซ้อนทับกับสถานีรถไฟอยุธยาเดิม พร้อมทั้งให้อนุรักษ์และคงคุณค่าของสถานีรถไฟอยุธยาเดิมไว้ ซึ่งหลังจากนี้ UNESCO จะจัดส่งรายงานกลับมาอีกครั้งภายในเดือนมีนาคม โดยการรถไฟฯ จะนำข้อเสนอแนะเหล่านี้มาจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบต่อแหล่งมรดกโลก หรือ Heritage Impact Assessment (HIA) ตามคำแนะนำของ UNESCO เพื่อรักษาคุณค่าอันเป็นสากลของนครประวัติศาสตร์อยุธยาให้ครบถ้วนสมบูรณ์ เหมาะสมกับแหล่งมรดกโลกต่อไป ทั้งนี้ หากดำเนินการแล้วเสร็จ จะรายงานต่อคณะอนุกรรมการมรดกโลกทางวัฒนธรรม และคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลกทราบ เพื่อนำส่งรายงานให้ศูนย์มรดกโลก (World heritage Centre) ต่อไป” ผู้ว่าการรถไฟ กล่าว
นายวีริศกล่าวต่อว่า ปัจจุบัน มีการเว้นช่วงบริเวณสถานีรถไฟความเร็วสูงอยุธยา ในสัญญาที่ 4-5 ช่วงบ้านโพ - พระแก้ว ระยะทาง 13.30 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 10,325.90 ล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ตามที่คณะรัฐมนตรี มีมติให้การรถไฟฯ ดำเนินโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลจีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเชื่อมโยงภูมิภาค เพื่อรอผลการศึกษาจากรายงานการประเมินผลกระทบต่อแหล่งมรดกโลก (HIA) ทั้งนี้ เพื่อลดผลกระทบด้านทัศนียภาพของโบราณสถานมรดกโลก อาทิ การปรับลดความสูงของสถานีจากเดิม 37.45 เมตร ให้เหลือ 35.45 เมตร และปรับลดความสูงของสันรางจาก 19 เมตร เหลือ 17 เมตร อย่างไรก็ตาม แนวเส้นทางช่วงบริเวณสถานีรถไฟความเร็วสูงอยุธยา มีการก่อสร้างบนเขตทางรถไฟ ซึ่งไม่ได้อยู่ในเขตพื้นที่มรดกโลก แต่อยู่ห่างออกไป 1.5 กิโลเมตร และมีแม่น้ำป่าสักคั่นอยู่เป็นบับเบิลโซน
การรถไฟฯ จะดำเนินการอนุรักษ์สถานีอยุธยาเดิม ให้เป็นสถานที่อันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ควบคู่กับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญตามมาตรฐานสากลให้สมกับการที่ได้รับยกย่องให้เป็นแหล่งมรดกโลก

@ผู้เชี่ยวชาญแนะขยายพื้นที่มรดกโลก - ประกาศเขตกันชนเพิ่ม หลังสถานีสร้างเสร็จ
ด้านแหล่งข่าวจากรฟท.กล่าวกับสำนักข่าวอิศราว่า การหารือร่วมกันระหว่างผู้เชี่ยวชาญจาก ICCROM และ ICOMOS ทั้งสองหน่วยงานได้เสนอแนวทางในการควบคุมพื้นที่ภายหลังการก่อสร้างสถานีอยุธยาไว้ 2 แนวทาง ได้แก่ 1. ขยายเขตพื้นที่มรดกโลก หรือ 2. ประกาศพื้นที่เขตกันชน (Buffer Zone) เพิ่มเติมให้ครอบคลุมพื้นที่สถานี โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำกับดูแลตามระเบียบที่มีอยู่ เช่น กฎหมายโบราณสถานและผังเมือง พร้อมกันนี้ ยังเสนอให้มีการจัดระบบจราจรและควบคุมทิศทางการเคลื่อนที่ของนักท่องเที่ยว และให้ดำเนินการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ด้วย (Strategic Environment Assessment: SEA)
“สิ่งที่ทางผู้เชี่ยวชาญเป็นห่วง คือ การจัดการภายในเมือง โดยเฉพาะการขยายตัวของเมือง เมื่อรถไฟความเร็วสูงมาแน่นอนว่าเมืองต้องขยาย ทีนี้โจทย์สำคัญก็คือแล้วจะบริหารจัดการอย่างไรไม่ให้กระทบกับความเป็นมรดกโลก มีแผนรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเพิ่มขึ้นหรือยัง ซึ่งส่วนนี้เป็นหน้าที่ของทางจังหวัดที่จะต้องดำเนินการต่อไป” แหล่งข่าวระบุ
นอกจากนั้น ทางผู้เชี่ยวชาญยังขอให้ทางการไทยคงคณะทำงานเพื่อติามการดำเนินการตามความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ ก่อนที่ผู้เชี่ยวชาญจะส่งรายงานให้ UNESCO ในวันที่ 3 มี.ค. 2568 โดยมีแผนที่จะหารือกับศูนย์มรดกโลก ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ช่วงก่อนที่จะมีการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ซึ่งจะจัดขึ้นวันที่ 6-16 ก.ค. 2568 ที่กรุงโซเฟีย ประเทศบัลแกเรีย โดยทางการไทยมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) จัดประชุมและติดตามผลต่อไป
@สัญญา 4-5 พร้อมลงนาม รอแค่ทิศทางลม
แหล่งข่าวจากรฟท.กล่าวต่อว่า หลังจากนี้ทางฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะทำรายงานข้อเสนอแนะต่างๆสรุปไปให้ผู้ว่าฯรฟท.รับทราบ ส่วนผู้ว่าฯรฟท.จะนำเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท.หรือไม่ก็แล้วแต่ท่าน แต่การทำรายงานดังกล่าวไม่ทันการประชุมบอร์ด รฟท. ที่จะมีขึ้นในช่วงปลายเดือน ม.ค.นี้แน่นอน อาจจะต้องไปเดือน ก.พ. 2568
ส่วนจะสามารถลงนามสัญญา 4-5 ช่วงบ้านโพ-พระแก้ว ระยะทาง 13.3 กม. ที่มีบริษัท บุญชัยพาณิชย์ (1979) จำกัด (เครือ บมจ.ซีวิลเอนจิเนียริ่ง) เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุดที่ 9,913 ล้านบาท ได้เมื่อไหร่นั้น แหล่งข่าวระบุว่า ตอนนี้ขึ้นอยู่กัลฝ่ายนโยบายว่าจะลงนามเมื่อไหร่ เพราะปัญหาอุปสรรคต่างๆ ไม่มีแล้ว
ขณะเดียวกันจากที่ต้องรอคอยข้อสรุปสถานีอยุธยา ก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับกรอบวงเงินที่ ครม.อนุมัติ เนื่องจากเนื้องานต่างๆยังดำเนินการภายใต้กรอบงบประมาณที่อนุมัติได้ เพียงแต่ว่า หลังจกที่มีการก่อสร้างแล้ว อาจจะต้องวางแผนถึงการบริหารงบประมาณที่จะต้องใช้ในงานด้านการขุดค้นโบราณวัตถุร่วมด้วย ซึ่งยังไม่ได้มีการคำนวณว่าเป็นเงินจำนวนประมาณเท่าไหร่




Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา