‘ปัณณิตา สท้านไตรภพ’ เลขาธิการวุฒิสภา ทำหนังสือ ‘ด่วนมาก’ นัดประชุม ‘เรื่องด่วน’ ตั้งคณะกรรมาธิการตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรม ‘ร้อยตำรวจโทหญิง สุทธิมา พิพัฒนพิบูลย์’ บุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลปกครองสูงสุด - จับตาเซตซีโร่ 5 องค์กรอิสระ กกต. - ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ - กรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ครบวาระยกแผง
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า นางปัณณิตา สท้านไตรภพ เลขาธิการวุฒิสภา ได้ทำหนังสือ ด่วนมาก ที่ สว 0007/(ว 3) ถึงสมาชิกวุฒิภา นัดประชุมวุฒิสภา ครั้งที่ 4 (สมัยสามัญประจำปี ครั้งที่สอง) ในวันจันทร์ที่ 6 มกราคม 2568 โดยมีระเบียบวาระการประชุม เรื่องด่วน ที่ 1 การตั้งคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลปกครองสูงสุด ภายหลังคณะกรรมการตุลาการปกครอง (ก.ศป.) ได้คัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งศาลปกครองสูงสุด จำนวน 1 ราย คือ ร้อยตำรวจโทหญิง สุทธิมา พิพัฒนพิบูลย์
สำหรับประวัติของ ร้อยตำรวจโทหญิง สุทธิมา โดยสังเขป ประวัติการศึกษา จบปริญญาตรี รัฐศาสตรบัณฑิต (รัฐประศาสนศาสตร์) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นิติศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พัฒนบริหารศาสตรมหาบัณฑิตทางรัฐประศาสนศาสตร์ (บริหารงานบุคคล) สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ นิติศาสตร์มหาบัณฑิต (กฎหมายอาญา) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ตำแหน่งปัจจุบัน รองเลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน เคยดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักพิทักษ์ระบบคุณธรรม ระดับ อำนวยการระดับสูง ผู้อำนวยการสำนักมาตรฐานวินัย ระดับ อำนวยการระดับสูง ที่ปรึกษาระบบราชการ (นักทรัพยากรบุคคล) ระดับเชี่ยวชาญ ระดับทรงคุณวุฒิ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ มหาวชิรมงกุฎ และประถมาภรณ์ช้างเผือก
รายงานข่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันสมาชิกวุฒิสภายังมีภารกิจในการตรวจสอบประวัติและรับรองกรรมการในองค์กรอิสระ เนื่องจากครบวาระและลาออกจากดำรงตำแหน่ง ตั้งแต่เมื่อปี 2567 รวมถึงกรรมการที่จะครบวาระในปี 2568 มากถึง 19 คน จาก 5 หน่วยงาน ประกอบด้วย 1.ผู้ตรวจการแผ่นดิน แทนตำแหน่งที่ว่างลง 1 คน คือ นาย นายอิสสรีย์ หรรษาจรูญโรจน์ (ลาออก)
2.คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) 6 คน ได้แก่ 1.พลเอก ชนะทัพ อินทามระ 2.นางยุพิน ชลานนท์นิวัฒน์ 3.นายพิมล ธรรมพิทักษ์พงษ์ 4.นางสาว จินดา มหัทธนวัฒน์ 5.นายสรรเสริญ พลเจียก และ 6.ศ.อรพิน ผลสุวรณ์ สบายรูป
3.คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) 5 คน ได้แก่ 1.พลตำรวจเอก สถาพร หลาวทอง 2.พลเอก บุณยวัจน์ เครือหงส์ 3.พลตำรวจเอก วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. 4.นางสุวณา สุวรรณจูฑะ และ 5.นายวิทยา อาคมพิทักษ์
4.ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 2 คน ได้แก่ นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ประธานตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และนายปัญญา อุดชาชน
5.คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) 5 คน ประกอบด้วย กรรมการ กกต.ที่จะครบวาระในเดือนสิงหาคม 2568 จำนวน 3 คน ได้แก่ 1.นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. 2.นายสันทัด ศิริอนันต์ไพบูลย์ และ 3.นายปกรณ์ มหรรณพ และ กรรมการ กกต.ที่จะครบวาระในเดือนธันวาคม 2568 จำนวน 2 คน ได้แก่1.นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ และ 2.นายฐิติเชฏฐ์ นุชนาฏ
รายงานข่าวระบุด้วยว่า ปัจจุบันมี 4 หน่วยงานที่อยู่ในระหว่างขั้นตอนของคณะกรรมการสรรหาองค์กรอิสระ ที่มีประธานศาลฎีกา เป็นประธานกรรมการสรรหา และกระบวนการตรวจสอบประวัติและการรับรองของที่ประชุมวุฒิสภา ประกอบด้วย ขั้นตอนนำขึ้นทูลเกล้าฯ กรรมการ ป.ป.ช. 1 คน คือ นายพศวัจณ์ กนกนาก อดีตรองประธานศาลฎีกา (แทน พลตำรวจเอก สถาพร)
ขั้นตอนคณะกรรมาธิการคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรม วุฒิสภา ตรวจสอบประวัติ ได้แก่ กรรมการ ป.ป.ช. 1 คน คือ นายประภาศ คงเอียด (แทน พลเอก บุณยวัจน์) ผู้ตรวจการแผ่นดิน 1 คน คือ นางสาว รื่นวดี สุวรรณมงคล อดีตอธิบดีกรมบังคับคดี
กรรมการตรวจเงินแผ่นดิน 6 คน ได้แก่ 1.นายยุทธพงษ์ อภิรัตน์รังษี 2.นายเฉลิมพล เพ็ญสูตร 3.นายนิวัติไชย เกษมมงคล 4.นางพรพิมล นิลทจันทร์ 5.นางเกล็ดนที มโนสันติ์ และ 6.นางสาว พศุตม์ณิชา จำปาเทศ
ขั้นตอนการประกาศรับสมัคร ตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม รวมถึงการสัมภาษณ์ของคณะกรรมการสรรหาฯ ประกอบด้วย ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ (แทนนายนครินทร์ และนายปัญญา) 6 คน ผู้ที่มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ได้แก่ 1.ศาสตราจารย์ ธงพล พรหมสาขา ณ สกลนคร ศาสตราจารย์ สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยศิลปากร 2.ศาสตราจารย์ สิริพรรณ นกสวน สวัสดี ศาสตราจารย์ สาขาวิชารัฐศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
3.นายธัญญา เนติธรรมกุล อดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช 4.นายชาตรี อรรจนานันท์ อดีตอธิบดีกรมการกงสุล อดีตเอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮก 5.นายสราวุธ ทรงวิไล อดีตอธิบดีกรมการขนส่งทางราง อดีตอธิบดีกรมทางหลวง และ 6.นายสุรชัย ขันอาสา อดีตอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน จันทบุรี พิจิตร ปทุมธานี
กรรมการป ป.ป.ช. (แทน พลตำรวจเอก วัชรพล นายวิทยา และนางสุวณา) จำนวน 40 คน ได้แก่ 1.นายปรีชา พงษ์พานิช อายุ 66 ปี อัยการอาวุโส อดีตอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต ภาค 3 และสำนักงานคดีศาลสูงภาค 1 สำนักงานอัยการสูงสุด 2.นายขจรเดช เจนวัฒนานนท์ อายุ 62 ปี อธิบดีผู้พิพากษาศาลแรงงานภาค 7
3.นายสิริชัย สุธีวีระขจร อายุ 65 ปี อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีศาลสูงภาค 2 รักษาการในตำแหน่งอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีศาลสูงภาค 1 4.นายชัยยศ ปัญจบุตรชัย อายุ 65 ปี อดีตอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญามีนบุรี 5.นายเพียรศักดิ์ สมบัติทอง อายุ 61 ปี อธิบดีอัยการ สำนักงานคณะกรรมการอัยการ รักษาการในตำแหน่งอธิบดีอัยการภาค 2
6.นายณัทตรัยพัทธ์ ภัทร์พรชนัต อายุ 61 ปี อดีตผู้บริหารระดับสูงบริษัทมหาชน 7.นายสาธิต อุไรเวโรจนากร อายุ 62 ปี ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต กรรมการอิสระ บริษัท เจ้าพระยามหานคร (มหาชน) จำกัด 8.นายเริงศักดิ์ วิริยะชัยวงศ์ อายุ 62 ปี ผู้พิพากษาศาลฎีกา
9.พล.ต.อ.สมพงษ์ ชิงดวง อายุ 61 ปี อดีตผู้บัญชาการ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง 10.นายประจวบ ตันตินนท์ อายุ 65 ปี อดีตผู้บริหารบริษัทมหาชน และผู้สอบบัญชีรับอนุญาต
11.น.ส.อินทิรา ฉิวรัมย์ อายุ 62 ปี รองประธานศาลอุทธรณ์ 12.นายสุธน จารุพันธ์ อายุ 65 ปี อดีตอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีศาลแขวง
13.นายประกอบ ลีนะเปสนันท์ อายุ 64 ปี ประธานศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ 14.พล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ อายุ 60 ปี อดีตแม่ทัพภาค 2 15.นายโชคชัย สิทธิผลกุล อายุ 64 ปี อธิบดีอัยการ สำนักงานการบังคับคดี รักษาการในตำแหน่งอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน
16.นายวิเชียร รุจิธำรงกุล อายุ 63 ปี ทนายความ 17.นายนพพร ชื่นกลิ่น อายุ 66 ปี อดีตผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม อดีตผู้อำนวยการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข 18.นายสหธน รัตนไพจิตร อายุ 66 ปี ศาสตราจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 19.นายสุธรรม อยู่ในธรรม อายุ 66 ปี อดีตกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ
20.นายปุณณะ จงนิมิตรสถาพร อายุ 65 ปี อดีตประธานแผนกคดียาเสพติดในศาลฎีกา 21.นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ อายุ 62 ปี อดีตอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และอดีตปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม 22.นายสุรจิต พัฒนสาร อายุ 65 ปี อดีตรองอัยการสูงสุด 23.นางภัทรา โชว์ศรี อายุ 60 ปี อดีตรองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน
24.นายวิฑูลรย์ ศิริวิโรจน์ อายุ 59 ปี ทนายความ 25.พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง อายุ 59 ปี ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล 26.นายธนากร แหวกวารี อายุ 55 ปี ทนายความ 27.นายพิริยะ ธานีรณานนท์ อายุ 57 ปี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านสวยกรุ๊ป (สุราษฎร์ธานี) จำกัด (มหาชน)
28.พ.อ.ธนัทเมศร์ ภัทรณรงค์รัศม์ อายุ 54 ปี อดีตกรรมการ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด 29.นายวันชัย คงเกษม อายุ 60 ปี ทนายความ 30.นายณัฐพัขร จันทรสูต อายุ 60 ปี ทนายความ 31.นายณรงค์ รักร้อย อายุ 61 ปี อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร
32.นายธัญญา เนติธรรมกุล อายุ 61 ปี อดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช และกรมทรัพยากรน้ำบาดาล 33.นายวิรุฬห์ ฉันท์ธนนันท์ อายุ 65 ปี อดีตอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ
34.พล.ต.ท.จักรพงษ์ วิวัฒน์วานิช อายุ 61 ปี อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ โรงเรียนนายร้อยตำรวจรวจ อดีตกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน 35.นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ อายุ 60 ปี อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดตราด 36.นายทศพร รัตนมาศทิพย์ อายุ 60 ปี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยาจำกัด (มหาชน)
37.นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อายุ 59 ปี อธิบดีกรมการขนส่งทางบก 38.นายสมศักดิ์ วรวิจักษณ์ อายุ 64 ปี ทนายความ 39.นายประหยัด เสนวิรัช อายุ 66 ปี ทนายความ และ 40.นายอมร วาณิชวิวัฒน์ อายุ 58 ปี อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คอลัมนิสต์ และนักเขียน