มิชชั่นเฟล! ป.ป.ช.สนธิกำลังตร.-จนท.ศาล ค้นบ้าน 'เฉลิมชัย โควสุรัตน์' ไม่พบตัว 'พรชัย'

ป.ป.ช. สนธิกำลังตร.สอบสวนกลาง เจ้าพนักงานตำรวจศาล นำหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้าน 'เฉลิมชัย โควสุรัตน์' หาตัว 'พรชัย' อดีตนายก อบจ.อุบลฯ พี่ชาย ผู้ต้องหาหลบหนีหมายจับคดีทุจริต แต่ไม่พบตัว ก่อนลงบันทึกประจำวัน สภ.วารินชำราบไว้เป็นหลักฐาน  

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2567 เวลาประมาณ 06.30 น. พนักงานเจ้าหน้าที่งานสืบสวนคดีทุจริตภาค 3 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ร่วมสนธิกำลัง พ.ต.ต.นเรนทร์ คำวิ่ง หัวหน้าชุดตรวจค้น เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และเจ้าพนักงานตำรวจศาล ลงพื้นที่ตรวจค้นบุคคลตามหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 ที่ จ.21,จ.22/2565 ลงวันที่ 8 พฤศจิกายน 2565, จ.14/66 ลงวันที่ 27 กันยายน 2566, จ.8,จ.9/2567 ลงวันที่ 9 มกราคม 2567 รายนายพรชัย โควสุรัตน์ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุบลราชธานี ณ บ้านเลขที่ 58/1 ตำบลวารินชำราบ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นที่อยู่ตามภูมิลำเนาก่อนการถูกย้ายชื่อเข้าทะเบียนบ้านกลาง ตามหมายค้นของศาลจังหวัดอุบลราชธานี ที่ 188/2567 ลงวันที่ 11 ธันวาคม 2567

รายงานข่าวแจ้งว่า ในการตรวจค้นดังกล่าว พบนายเฉลิมชัย โควสุรัตน์ น้องชายนายพรชัย โควสุรัตน์ แสดงตัวเป็นเจ้าบ้าน  โดยพนักงานเจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวและแจ้งวัตถุประสงค์ต่อนายเฉลิมชัยฯ เพื่อขอเข้าตรวจค้น นายเฉลิมชัย รับทราบและยินดีอำนวยความสะดวกนำพนักงานเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น

ผลการตรวจค้น ไม่พบตัวนายพรชัย บุคคลตามหมายจับ ทั้งนี้ ภายหลังการตรวจค้น จึงได้ลงบันทึกประจำวัน ณ สถานีตำรวจภูธรวารินชำราบไว้เป็นหลักฐาน  

ส่วนข้อมูลเกี่ยวกับ นายพรชัย นั้น สำนักข่าวอิศรา รายงานไปแล้วว่า ปัจจุบันอยู่ระหว่างหลบหนีโทษจำคุก 20 ปี และ 2ปี จากคดีทุจริตจัดซื้อครุภัณฑ์ส่งเสริมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี งบอุดหนุนจากกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น 2550 ที่มีองค์การค้าของคุรุสภา ศึกษาภัณฑ์พาณิชย์ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) และคดีทุจริตก่อสร้างสะพาน วงเงิน 2.7 ล้านบาท ตามลำดับ และยังมีคดีค้างที่อยู่ระหว่างการสอบสวนจาก ป.ป.ช. อีกกว่า 25 คดี

ที่ผ่านมา มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสี่หน่วยงานได้ตั้งรางวัลสำหรับผู้ชี้ช่องหรือชี้เบาะแสเป็นจำนวน 400,000 บาท ให้สามารถจับกุม นายพรชัย ซึ่งหลบหนีหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 ในคดีทุจริตหลายคดีซึ่งศาลได้ตัดสินให้ลงโทษจำคุกไปแล้ว 

ขณะที่ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 12 ก.ย.2567 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 มีคำพิพากษาให้ยึดทรัพย์สินที่ดินจำนวน 34  แปลง รวมมูลค่า 93,473,640 บาท ของ นายพรชัย ตกเป็นของแผ่นดิน อันเป็นผลสืบเนื่องจากคดีร่ำรวยผิดปกติ ที่ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิด และส่งเรื่องให้ อัยการสูงสุด (อสส.) ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 ขอให้ศาลฯ สั่งทรัพย์สินเหล่านี้ตกเป็นของแผ่นดิน