ป.ป.ช.เสียงเอกฉันท์ตีตก คดี 'พิชัย บุญฐี' อดีต สท.เมืองท่าใหม่ จันทบุรี ร่ำรวยผิดปกติ แจ้งรายได้เสียภาษีปีละ 198,000 บาท แต่ตนเอง-คู่สมรส มีเงินฝากเพิ่มขึ้นกว่า 10 ล้านเศษ หลังพิจารณาสำนวนไต่สวนพยานหลักฐานยังไม่เพียงพอ ให้ข้อกล่าวหาตกไป แต่มีรายได้อื่นที่ไม่ได้แสดงไว้ในแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดารอบปี 2555-2564 ให้มีหนังสือแจ้งสรรพากรดำเนินการตามหน้าที่อำนาจต่อไป
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. เสียงเอกฉันท์ตีตกคดีกล่าวหา นายพิชัย บุญฐี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาเทศบาลเมืองท่าใหม่ อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี ร่ำรวยผิดปกติ แจ้งรายได้สำหรับการเสียภาษีปีละ 198,000 บาท แต่ตนเองและคู่สมรส มีเงินฝากเพิ่มขึ้นกว่า 10 ล้านบาทเศษ
หลังพิจารณาสำนวนไต่สวนเบื้องต้น พยานหลักฐานยังไม่เพียงพอที่จะฟังได้ว่า นายพิชัย บุญฐี ร่ำรวยผิดปกติ ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป
สำนักงาน ป.ป.ช. ระบุพฤติการณ์ที่กล่าวหาว่ากระทำผิดโดยสรุป ว่า มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติไม่สัมพันธ์กับรายได้ โดยผู้ถูกกล่าวหาแจ้งรายได้สำหรับการเสียภาษีปีละ198,000 บาท แต่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าในวันพ้นตำแหน่ง ผู้ถูกกล่าวหาและคู่สมรส มีทรัพย์สินเป็นเงินฝากเพิ่มขึ้นกว่า 10 ล้านบาทเศษ จึงมีเหตุอันควรสงสัยว่าผู้ถูกกล่าวหาร่ำรวยผิดปกติ
คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้ว มีมติเป็นเอกฉันท์ ด้วยคะแนนเสียง 6 เสียง เห็นชอบตามความเห็นของคณะผู้ไต่สวนเบื้องต้น ว่า จากการไต่สวนเบื้องต้น พยานหลักฐานยังไม่เพียงพอที่จะฟังได้ว่า นายพิชัย บุญฐี ผู้ถูกกล่าวหา ร่ำรวยผิดปกติตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป
ส่วนกรณีผู้ถูกกล่าวหาและคู่สมรส มีรายได้อื่นที่ไม่ได้แสดงไว้ในแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในรอบปีภาษี 2555-2564 ให้มีหนังสือแจ้งกรมสรรพากรเพื่อดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจต่อไป
อนึ่งก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 27 มี.ค. 2567 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาว่า นายพิชัย บุญฐี ส.ท.เมืองท่าใหม่ จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ผู้ร้อง ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบและมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น กรณีพ้นจากตำแหน่งสมาชิกสภาเทศบาลเมืองท่าใหม่ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 114 วรรคสอง (1) ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดไป กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 167 จำคุก 2 เดือนและปรับ 8,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ มีกำหนด 1 ปี
ทรัพย์สินที่นายพิชัยไม่แสดงต่อ ป.ป.ช. ได้แก่ เงินฝากในบัญชีเงินฝากธนาคารในชื่อตัวเอง กับ ภรรยารวม 3 บัญชี 11,735,563.8 บาท รถยนต์ 1 คัน 350,000 บาท รวมมูลค่าทรัพย์สิน 12,085,563.8 บาท