‘ก.ตร.’ แต่งตั้ง-โยกย้าย ‘บิ๊กตำรวจ’ 41 ตำแหน่ง ‘พล.ต.ท.สยาม บุญสม’ รั้งตำแหน่ง ‘ผบช.น.’ ขณะที่ ‘พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ เลื่อนขึ้นเป็น ‘ผบช.สตม.’ ด้าน ‘นายกฯ’ ยันการแต่งตั้งไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจฯใหม่
.............................
เมื่อวันที่ 20 พ.ย ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 10/2567 โดยการประชุม ก.ตร. ดังกล่าว มีการหารือวาระสำคัญ คือ วาระที่ 4 เรื่องที่ 4 การคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ วาระประจำปี 2567 ระดับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ถึงผู้บัญชาการ (ผบช.) เป็นการใช้ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 เป็นครั้งแรก
น.ส.แพทองธาร กล่าวเริ่มต้นการประชุม ว่า การประชุม ก.ตร.ครั้งนี้ มีเรื่องที่ต้องพิจารณาหลายเรื่อง ตามกรอบ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติฯ ทั้งมีเรื่องการพิจารณาให้ความเห็นชอบ การแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติระดับผู้บัญชาการขึ้นไปที่จำเป็นต้องได้บุคลากรที่สามารถบริหารจัดการให้ตำรวจในรับผิดชอบตอบสนองต่อการบริการประชาชน และรักษาความสงบเรียบร้อยของสังคม ตามกรอบการพิจารณาที่กฎหมายกำหนดไว้ จึงขอให้ที่ประชุมร่วมกันพิจารณาด้วยความละเอียดรอบคอบ ตามระเบียบกฎหมายเพื่อให้การบริหารงานคนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นไปอย่างต่อเนื่อง โดยคำนึงถึงประโยชน์ราชการเป็นสำคัญ
รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนการประชุม ก.ตร. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) นำบัญชีรายชื่อที่ผ่านคณะกรรมการพิจารณารายชื่อตำรวจ ที่มีการประชุมวันที่ 19 พ.ย.ที่ผ่านมา หารือนายกรัฐมนตรี และมีกระแสข่าวว่า ก.ตร.ปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์การแต่งตั้งโยกย้ายจากเดิมที่ตำแหน่ง ผบช. นั้น ให้ผู้ที่ครองตำแหน่ง 2 ปีขึ้น มีมสิทธิ์ได้รับการแต่งตั้งเป็น ผบช. แต่หลักเกณฑ์ใหม่เป็นผู้ที่ครองตำแหน่ง 3 ปี
สำหรับตำแหน่งว่างระดับรอง ผบ.ตร. 4 ตำแหน่ง, ผู้ช่วย ผบ.ตร. 7 ตำแหน่ง ดังนี้
ระดับรอง ผบ.ตร. เป็นการพิจารณาแต่งตั้งเรียงตามลำดับอาวุโส โดยจะเลื่อน พล.ต.ท. ประจวบ วงศ์สุข, พล.ต.ท. นิรันดร เหลื่อมศรี, พล.ต.ท. กรไชย คล้ายคลึง และพล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. ขึ้นเป็นรอง ผบ.ตร.
ระดับผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นการพิจารณาแต่งตั้งเรียงตามลำดับอาวุโส โดยจะเลื่อน พล.ต.ท. ธนพล ศรีโสภา จตร. (หัวหน้าจเรตำรวจ), พล.ต.ท. ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ท. อภิชาติ เพชรประสิทธิ์ ผบช.ส., พล.ต.ท. กฤษฎา สุรเชษฐพงศ์ ผบช.สกบ., พล.ต.ท. อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม., พล.ต.ท. สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.2 และ พล.ต.ท. สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ภ.4 ขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร.
ทั้งนี้ ระดับ ผบช. พิจารณาแต่งตั้งจากผู้มีอาวุโสไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของตำแหน่งที่ว่าง คิดเป็น 7 ตำแหน่ง ได้แก่ 1.พล.ต.ต. บัณฑิต ตุงคะเศรณี รอง ผบช.ภ.6 2.พล.ต.ต. ภาณุมาศ บุญญลักษม์ รอง ผบช.สตม. 3.พล.ต.ต. วราวุธ สกลธนารักษ์ รอง ผบช.สตส. 4.พล.ต.ต. ฉัตรชัย สุรเชษฐพงษ์ รอง ผบช.ภ.2 ,5.พล.ต.ต. อาทิชา เปาอินทร์ รอง ผบช.ภ.7 ,6. พล.ต.ต. ไพศาล ลือสมบูรณ์ รอง ผบช.ภ.5 และ 7. พล.ต.ต.สุรจิต ชิงนวรรณ์ รอง ผบช.ภ.2
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุม ก.ตร. ช่วงแรก เป็นการพิจารณาตำแหน่งระดับ รอง ผบ.ตร.และ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ซึ่งพิจารณาตามหลักเกณฑ์กฎหมายใหม่ยึดตามลำดับอาวุโส แต่เมื่อถึงการพิจารณาในระดับ ผบช. ได้มีการพิจารณาไล่เลียงตำแหน่ง โดยคณะกรรมการกลั่นกรองชี้แจงหลักเกณฑ์การแต่งตั้งโยกย้าย จากเดิมตำแหน่ง ผบช. ให้ผู้ที่ครองตำแหน่ง 2 ปีขึ้น เป็น ผบช. ปรับเป็นผู้ที่ครองตำแหน่ง 3 ปี ยกเว้น พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี รอง ผบช.ภ.5 นรต.41 สายตรง ร.ต.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีต รมช.เกษตรและสหกรณ์ ซึ่งขยับขึ้นเป็น ผบช.
รวมทั้งมีการเสนอปรับเปลี่ยนตำแหน่ง ผบช.หลัก หลายตำแหน่ง ทำให้เกิดการวิจารณ์เป็นวงกว้างของ ก.ตร.เกี่ยวการแต่งตั้งรองผบช. นอกจากกลุ่มอาวุโส เป็นกลุ่มความรู้ ความสามารถที่มีชื่อข้ามคนอื่นขึ้นมา ก.ตร.บางคนเสนอให้เลื่อนการประชุม ก.ตร.ออกไปก่อน แต่ ก.ตร.มีมติประชุมต่อ จนกระทั่งเวลา 17.00 น. มีการพักการประชุมเป็นเวลา 30 นาที และการประชุมเสร็จสิ้นในเวลา 18.35 น.
ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม ก.ตร. น.ส.แพทองธาร ไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ส่วน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ นั้น ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า การจัดทำบัญชีนายพลเป็นไปอย่างเรียบร้อยหรือไม่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ไม่ได้ตอบคำถาม แต่ทำสัญลักษณ์มือ ยกนิ้วโป้งให้เท่านั้น
ด้าน พล.ต.ท.อนุชา รมยะนันทน์ เลขานุการ ก.ตร. ระบุว่า วันนี้ที่ประชุม ก.ตร. มีการพิจารณานายตำรวจระดับ รองผบ.ตร. จนไปถึง ผบช. รวมทั้งหมด 41 ตำแหน่ง ซึ่งการพิจารณาเป็นไปตามข้อกฎหมายและข้อระเบียบและวิธีปฏิบัติที่ยึดระดับความอาวุโส ความรู้ความสามารถประกอบกัน โดยที่ประชุมมีการหยิบยกรายชื่อตัวบุคคลทุกตำแหน่งมาพิจารณาอย่างทั่วถึง เชื่อได้ว่าหลังจบการประชุมบุคคลที่ได้รับการพิจารณาแต่ละตำแหน่งจะมีความเหมาะสม
ส่วนที่มีกระแสข่าวระบุว่า ในที่ประชุมฯมีการถกเถียงเรื่องการครองตำแหน่งอายุราชการที่นำมาใช้ประกอบการพิจารณาเลื่อนตำแหน่ง นั้น พล.ต.ท.อนุชา กล่าวว่า ที่ประชุมฯนำรูปแบบดังกล่าวมาพิจารณาจริง แต่ไม่ได้เป็นการตัดสิทธิ์ผู้มีอายุราชการ 2-3 และ 4 ปี แต่เป็นการพิจารณาทุกราย โดยทุกตำแหน่งเป็นไปด้วยความเหมาะสม ไม่ใช่ว่าให้นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นใดรุ่นหนึ่งมาดำรงตำแหน่งเป็นพิเศษ รวมทั้งกระแสที่ว่าจะคัดเลือกเฉพาะเพื่อน นรต. เดียวกับผบ.ตร.
พล.ต.ท.อนุชา กล่าวถึงการใช้เวลาพิจารณาวาระการคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจที่ใช้เวลานานกว่า 4 ชั่วโมง ว่า เนื่องจาก ก.ตร.ทุกท่านต้องการพิจารณาว่าคุณสมบัติแต่ละรายเป็นไปตามระเบียบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือไม่ ส่วนนายกฯในฐานะประธานได้นั่งควบคุมการประชุมตลอดเวลาจนแล้วเสร็จ พร้อมเปิดโอกาสให้คณะกรรมการทุกท่านได้ร่วมแสดงความคิดเห็น โดยไม่มีข้อท้วงติง หรือสั่งการเรื่องใดเป็นพิเศษ
ส่วนประเด็นที่ว่าการแต่งตั้งนายพลครั้งนี้ มีเรื่องของการเมืองเข้ามาแทรกแซงหรือไม่ พล.ต.ท. อนุชา กล่าวว่า ที่ประชุมฯ ไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องนี้ แต่หากบุคคลใดที่เห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมการฟ้องร้องเป็นสิทธิ์ที่สามารถทำได้
เมื่อถามว่า การแต่งตั้งครั้งนี้จะทำให้หลายคนผิดหวังจนเสียน้ำตาหรือไม่ พล.ต.ท. อนุชา กล่าวว่า ตนเองไม่เห็นรายชื่อบุคคลใดมาก่อน ตนเองมารับรู้ในฐานะเลขาฯในที่ประชุมเท่านั้น
สำหรับตำแหน่งที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษ ประกอบด้วย ผบช.น. คาดว่าเป็น พล.ต.ท.สยาม บุญสม นรต. รุ่น 46 จาก จเรตำรวจ ส่วน พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย จาก จตช. (สบ.8) นรต. รุ่น 48 ที่มีโผก่อนหน้านี้ โยกไป ผบช.ปส.
พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. (นรต.41) โยกมา ผบช.ภ.1
พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผบช.สกพ. (นรต.41)โยกมา ผบช.ภ.2
พล.ต.ท.ธรรมศักดิ์ ปิ่นทอง รอง ผบช.ภ.6 (นรต.43) เลื่อนขึ้นเป็น ผบช.ภ.3
พล.ต.ต.ฉัตรชัย สุรเชษฐพงษ์ รอง ผบช.ภ.2 (นรต.42) เลื่อนขึ้นเป็น ผบช.ภ.4
พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 (ที่เดิม)
พล.ต.ท.กิติศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ ผบช.ภ.6 (ที่เดิม)
พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 (ที่เดิม)
พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 (ที่เดิม)
พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภ.9 (ที่เดิม)
ส่วนตำแหน่งที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่
พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ รอง ผบช.สตม. (จต) (นรต.41) เลื่อนขึ้นเป็น ผบช.สตม.
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สพฐ. (นรต.46) โยกมาเป็น ผบช.สอท.
พล.ต.ต.อาทิชา เปาอินทร์ รอง ผบช.ภ.7 เลื่อนขึ้นเป็น ผบช.สพฐ.
พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผบช.สง.ผบ.ตร. (นรต.47) โยกมาเป็น ผบช.ศ.
พล.ต.ท.เสนิต สำราญสำรวจกิจ ผบช.รร.นรต. (ที่เดิม)
พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นรต.46) โยกมาเป็น ผบช.สกพ.
พล.ต.ท.อุดร ยอมเจริญ ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. โยกมาเป็น ผบช.ส.
พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท. (ที่เดิม)