เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา 'เสาวนีย์ สว่างอารมณ์' อดีตผอ.โรงเรียนวัดศิริมงคล สมุทรสาคร -พวก แจ้งรับรองข้อมูลจำนวนนักเรียน-เบิกค่าตอบแทนครูอัตราจ้างเป็นเท็จ ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 7 พิพากษาลงโทษจำคุกรวม 2 กระทง 4 ปี 12 เดือน แต่ได้รอลงอาญา -ป.ป.ช.ขออสส.อุทธรณ์สู้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นางเสาวนีย์ สว่างอารมณ์ หรือณิชนันทน์ ขวัญดี หรือฐิตานันท์ ขวัญดี หรือฐิตานันท์ สว่างอารมณ์ หรือฐิตานันท์ มณฑลจิระกุล เมื่อครั้งดำรตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนวัดศิริมงคล อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร กับพวก แจ้งและรับรองข้อมูลจำนวนนักเรียนเป็นเท็จและเบิกค่าตอบแทนครูอัตราจ้างเป็นเท็จ ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 , 148 , 151 และ 157 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.2564
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 1 ส.ค.2567 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 มีคำพิพากษาว่า นางเสาวนีย์ สว่างอารมณ์ หรือณิชนันทน์ ขวัญดี หรือฐิตานัน ท์ ขวัญดี หรือฐิตานันท์ สว่างอารมณ์ หรือฐิตานันท์ มณฑลจิระกุล จำเลยมีความผิดตามกฎหมาย ลงโทษตามมาตรา 148 บทหนักสุด จำคุก 5 ปี และปรับ 20,000 บาท
จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้เหลือ 2 ปี 6 เดือน และปรับ 10,000 บาท รวมสองกระทง คงจำคุก 4 ปี 12 เดือน ปรับ 20,000 บาท ให้โอกาสกลับตัวเป็นพลเมืองดี โทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี ยกคำร้องขอให้จำเลยคืนเงิน 256,656 บาท แก่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 18 ก.ย.2567 มีมติเห็นควรมีหนังสือขอความอนุเคราะห์อัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อพิจารณาอุทธรณ์คำพิพากษาดังกล่าว
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท หรือประหารชีวิต