ขสมก.กางแผนจัดหารถเมล์ใหม่ เน้นเช่าทั้งหมด 3,040 คัน ระยะที่ 1 ของบจัดหาก่อน 1,520 คัน วงเงิน 1.5 หมื่นล้าน เตรียมชงครม.ให้เร็วที่สุดภายในเดือน ธ.ค. 67 ขณะที่การจัดหาเฟสที่ 2 ทำ PPP รอของบศึกษา 30 ล้าน หวังรีดไขมันองค์กร ลดภาระขาดทุน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 13 พฤศจิกายน 2567 นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ความคืบหน้าการจัดหารถโดยสารประจำทางขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ในรูปแบบเช่า จำนวน 3,040 คัน สำหรับระยะแรกวงเงิน 15,355 ล้านบาท ปัจจุบัน ขสมก.เสนอเรื่องมาที่กระทรวงคมนาคมแล้ว เพื่อเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ โดยอยู่ระหว่างการพิจารณาของสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) คาดว่าจะเสนอครม.ได้ในเดือน ธ.ค. 2567 ขณะเดียวกัน ขสมก.ก็ได้ตั้งคณะกรรมการจัดทำทีโออาร์รอไว้ มีการประชุมเบื้องต้นไปแล้ว 2 ครั้ง คาดว่าช่วงเดือน ส.ค.-ต.ค. 2568 น่าจะบรรจุรถเฟสแรกได้แล้วประมาณ 500 คัน อาจจะทยอยรับรอบละ 500 คันจนครบ ทั้่งนี้ ขึ้นอยู่กับกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างและการลงนามในสัญญาว่าจะดำเนินการได้ช้าเร็วแค่ไหน
ขณะที่การจัดหารถโดยสารประจำทาง ระยะที่ 2 จำนวน 1,520 คัน นายกิตติกานต์ จอมดวง จารุวรพลกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กล่าวว่า เบื้องต้นวางไว้เป็นโครงการแบบเอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (PPP) สถานะของโครงการ กระทรวงคมนาคมมีหนังสือไปถึงกระทรวงการคลัง เพื่อขอให้บรรจุโครงการนี้อยู่ในแผนที่จะผลักดันแล้ว และอยู่ระหว่างขอรับเงินสนับสนุนจากคณะกรรมการกองทุนส่งเสริมการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (กองทุน PPP) วงเงิน 30 ล้านบาท เพื่อจ้างที่ปรึกษาทำการศึกษาการดำเนินโครงการ เนื่องจาก ขสมก. มีผลประกอบการขาดทุน
เมื่อถามว่าการเช่ารถของ ขสมก.ออกแบบแนวทางทางการเงินและการร่วมลงทุน PPP อย่างไร เพราะขสมก.ก็ขาดทุนอยู่ ผอ.ขสมก.กล่าวว่า ที่ผ่านมา ขสมก. การได้รถมานั้น ไม่เคยได้รับงบประมาณจากรัฐบาลเลย มีแต่การกู้เงินจัดหารถตลอด กลายเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ ขสมก. ขาดทุนมาโดยตลอด แต่ ครม.ชุดนี้เสนอขอรับงบประมาณเป็นครั้งแรก ขสมก.ไม่ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายและทำให้เกิดสภาพคล่องทางการเงินมากขึ้น รวมถึงสามารถนำส่วนต่างของการจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้กับการลดค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิงและค่าเหมาซ่อมได้รวมมูลค่าประมาณ 2,500 ล้านบาท/ปี ส่วนการจัดหารถแบบ PPP รอผลการศึกษาก่อน
@เล็งรีดไขมันองค์กร ลดขาดทุน
ส่วนสุดท้าย ขสมก.จะกลับมาไม่ขาดทุนหรือไม่นั้น นายกิตติกานต์กล่าวว่า ปี 2567 มีภาระขาดทุน 2,900 ล้านบาท ซึ่งถือว่าน้อยที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งมา เพราะธรรมดาแต่ละปีจะขาดทุน 3,000-4,000 ล้านบาท ดังนั้น ถ้าได้รถเมล์ใหม่เข้ามา ต้นทุนค่าใช้จ่ายต่างๆจะลดลง ค่าน้ำมันจากเดิมปีละ 2,000 ล้านบาท จะเหลือ 700 ล้านบาท, ค่าเหมาซ่อมจากปีละ 1,800 ล้านบาท จะเหลือ 1,000 ล้านบาท ส่วนค่าบุคลากร นโยบายมีแนวโน้มจะลดจำนวนคนลง เพราะปัจจุบัน ขสมก.มีจำนวนบุคลากรประมาณ 14,000 คน มีค่าใช้จ่ายรวม 4,000 ล้านบาท/ปี จำนวนนี้เป็นพนักงานเก็บค่าโดยสารมีจำนวน 5,000 คน ก็ได้ให้พนักงานบางส่วนไปฝึกขับรถ โดยพนักงานเก็บค่าโดยสาร ขสมก.ไม่ได้รับเพิ่ม ถ้าลดตรงนี้ได้ จะทำให้ ขสมก.ประหยัดต้นทุนได้สูงถึง 2,000-2,500 ล้านบาท