‘ตำรวจสอบสวนกลาง’ ส่งสำนวน คดี ‘ดิไอคอนฯ’ ทั้งหมดให้ DSI 28 ต.ค.นี้ หลัง ‘บิ๊กก้อง’ เข้าพบรองนายกฯ เตรียมขยายผลเอาผิดผู้เกี่ยวข้อง ‘กลุ่มที่สอง’ ขณะยอดความเสียหายรวมพุ่ง 2.9 พันล.
..................................
เมื่อวันที่ 27 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานจากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ว่า หลังจากเมื่อวันที่ 26 ต.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้เดินทางเข้าพบ นายภูมิธรรม เวชชัย รองนายกรัฐมนตรี เพื่อรายงานความคืบหน้าและประชุมร่วมกันในคดีดิไอคอนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้ได้ข้อสรุปว่า จะโอนสำนวนคดีทั้งหมดในส่วนของตำรวจสอบสวนกลางไปให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เป็นผู้ดำเนินคดีต่อ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ DSI ได้แถลงว่าจะรับเพียงเฉพาะข้อหา พ.ร.บ.ฟอกเงิน ไปดำเนินคดีเท่านั้น
ทั้งนี้ มีรายงานว่า บช.ก. จะรวบรวมสำนวนการสอบสวนทั้งหมดส่งให้กับ DSI ในวันที่ 28 ต.ค.นี้ ซึ่งเบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหากับผู้ต้องหาไปแล้วทั้ง 18 คนจำนวน 2 ข้อหา คือ ข้อหาฉ้อโกงประชาชน และข้อหากระทำผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ทั้งนี้ หลังจากรับสำนวนคดีไปแล้ว พนักงานสอบสวนในส่วนของ DSI จะพิจารณาแจ้งข้อหาเพิ่มความผิดตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน รวมถึงการขยายผลการสืบสวนสอบสวนเพื่อหาความผิดของบุคคลอื่นๆที่อาจจะเข้าความผิดในกลุ่มที่สองและกลุ่มต่อๆไปด้วย
ด้าน พล.ต.ต.มนตรี เทศขับ ผู้บังคับการกองปราบปราม (ผบก.ป.) กล่าวว่า เรื่องของการส่งสำนวนให้ DSI ในวันที่ 28 ต.ค. คงมีความชัดเจน ขณะนี้ทีมพนักงานสอบสวนกำลังรอหารือกับ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รองผบช.ก.) ก่อนอีกครั้ง
ขณะที่พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานคดี ดิไอคอน กรุ๊ป เปิดเผยกรณีที่ตำรวจจะโอนสำนวนคดีให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ ว่า ตำรวจยินดีพร้อมให้ความร่วมมือเต็มที่หากมีการประสานความร่วมมือ ส่วนการออกหมายจับล็อต 2 นั้น ถ้าจะให้ตำรวจเป็นผู้ออกหมายเอง เกรงว่าจะไม่เหมาะสมอาจจะถูกฝั่งผู้ต้องหาร้องไม่ได้รับความเป็นธรรมได้ ดังนั้นเรื่องนี้จะต้องมาพิจารนากันอีกครั้ง สำหรับในช่วงนี้ตำรวจคงต้องช่วยในเรื่องการสอบปากคำผู้เสียหายไปก่อน
ด้านพล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. กล่าวถึงกรณีการโอนสำนวนคดีให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ ว่า วันพรุ่งนี้คณะพนักงานสอบสวนคดี ดิ ไอคอน กรุ๊ป ของบช.ก.จะตรวจสอบความเรียบร้อยแฟ้มคดีดิ ไอคอน ก่อนจะโอนส่งมอมให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หลังจากเมื่อตรวจทานเป็นที่เรียบร้อยจะประสานกันอีกทีว่า จะให้ไปส่งมอบที่บช.ก.หรือที่กรมสอบสสนคดีพิเศษ ส่วนอำนาจการควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดที่มี 4 ฝาก 48 วันนั้น ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะเจ้ากน้าที่สามารถแจ้งข้อเหาอื่นเพิ่มได้อีก เมื่อถึงตอนนั้นเวลาฝากขังจะเพิ่มขึ้นเป็น 7 ผัด 84 วัน ถือว่าเวลายังมีอีกมาก จะแจ้งก่อนหรือแจ้งตอนผัดฟ้องสุดท้ายล้วนสามารถทำได้
รองผบช.ก. กล่าวอีกว่าส่วนเรื่องการออกหมายจับล็อต 2 นั้น ต้องดูอีกทีว่า กรมสอบสวนพิเศษจะเป็นผู้ออกหมายเองหรือไม่ เพราะตามอำนาจของกรมสอบสวนพิเศษสามารถร้องขอให้ตำรวจช่วยทำได้ เช่น เรื่องการสอบสวนผู้เสียหาย แต่เรื่องหมายจับคงต้อมาดูกันอีกที คาดว่าจะมีความชัดเจนขึ้นในวันพรุ่งนี้
สำหรับยอดผู้เสียหาย หลอกลวงลงทุน ของ บริษัท “ดิไอคอนกรุ๊ป” ที่มาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ณ ห้องประชุม ชั้น 2 อาคารประชาอารักษ์ กองบังคับการปราบปราม วันที่ 27 ตุลาคม 2567 มีผู้เสียหายที่สอบปากคำแล้ว จำนวน 60 ราย มูลค่าความเสียหาย 23 ล้านบาทเศษ ยอดรวมสะสม ระหว่างวันที่ 10 – 27 ตุลาคม 2567 สรุปยอด ณ เวลา 17.00 น. มีจำนวนผู้เสียหายที่สอบปากคำแล้ว 3,500 ราย มูลค่าความเสียหายเฉพาะที่สอบปากคำแล้วรวม 1,201 ล้านบาทเศษ
โดยศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) สรุปข้อมูลการรับแจ้งความร้องทุกข์ในคดีดิ ไอคอน กรุ๊ป จากศูนย์รับแจ้งความร้องทุกข์ตำรวจภูธรจังหวัดและกองบังคับการตำรวจนครบาล ประจำวันที่ 26 ตุลาคม 2567 รวมผู้เสียหาย 211 ราย มูลค่าความเสียหาย 56 ล้านบาทเศษ ยอดรวมสะสม ระหว่างวันที่ 18 – 26 ตุลาคม 2567 มีจำนวนผู้เสียหายที่สอบปากคำแล้ว 5,999 ราย มูลค่าความเสียหายรวม 1,728 ล้านบาทเศษ
ปัจจุบัน ยอดรวมผู้เสียหายที่เข้าให้ปากคำกับศูนย์รับแจ้งความร้องทุกข์ในคดีดิไอคอน กรุ๊ป จากศูนย์รับแจ้งความร้องทุกข์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น 9,472 ราย มูลค่าความเสียหาย 2,918 ล้านบาทเศษ