ป.ป.ช.รวบเจ้าของร้าน สมคบอดีตนายก อบต.แก่งเลิงจาน ทำใบเสนอราคาเป็นเท็จ จัดซื้ออุปกรณ์โครงการรับเสด็จ พบรายการของมีทั้งธงชาติ เหล็ก ตราสัญลักษณ์ แต่ไม่มีการจัดซื้อตามระเบียบ รวมความเสียหาย 423,450 บาท
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าวันที่ 18 ตุลาคม สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปรามปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ออกเอกสารข่าวประชาสัมพันธ์กรณีเจ้าหน้าที่งานสืบสวนคดีทุจริตภาค 4 สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 4 และงานสืบสวนคดีทุจริตจังหวัดมหาสารคาม สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดมหาสารคาม ทำการจับกุมนายชลทิพย์ ทันบาล ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ที่ จ.28/2564 ลงวันที่ 23 ธันวาคม 2564 ซึ่งต้องหาว่าเป็นผู้สนับสนุนฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใดๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริตอันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ฐานเป็นผู้สนับสนุนเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการใด เข้ามีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นเนื่องด้วยกิจการนั้น ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานมีหน้าที่ ทำเอกสาร รับเอกสารหรือกรอกข้อความลงในเอกสาร กระทำการรับรองเป็นหลักฐานว่าตนได้กระทำการอย่างใดขึ้นหรือว่าการอย่างใด ได้กระทำต่อหน้าตนอันเป็นเท็จและรับรองเป็นหลักฐาน ซึ่งข้อเท็จจริงอันเอกสารนั้น มุ่งพิสูจน์ความจริงอันเป็นเท็จ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 มาตรา 152 มาตรา 157 และมาตรา 162 (1) (4) ประกอบมาตรา 86 และฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 มาตรา 123/1 ประกอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 192 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86
นายชลทิพย์ ในฐานะเจ้าของร้านหรือผู้จัดการร้านธนพรรณ พานิชย์ ผู้เสนอราคาวัสดุอุปกรณ์ได้ร่วมกับนายรุ่งอรุณ ครองกรณ์ชัยญา อดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบลแก่งเลิงจาน อำเภอเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม จัดทำเอกสารใบเสนอราคาร้านธนพรรณ พานิชย์ จำนวน 2 ฉบับ โดยเสนอราคาวัสดุ อุปกรณ์โครงการเตรียมการรับเสด็จฯ ประเภทธงต่างๆ เช่น ธงชาติ ธงตราสัญลักษณ์ และเป็นกลมอลูมิเนียม เหล็กข้ออ้อยพร้อมตัด ในราคา 277,540 บาท และราคา 146,000 บาทตามลำดับ รวม 423,540 บาท ทั้งที่ยังมิได้มีการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบแต่อย่างใด แต่การจัดทำเอกสารการจัดซื้อจัดจ้างทั้งหมดเกิดขึ้นภายหลังที่การจัดทำซุ้มเตรียมรับเสด็จฯ เสร็จเรียบร้อยแล้ว ดังนั้น กรณีดังกล่าวจึงน่าเชื่อว่ามิได้มีการเสนอราคาเพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่ใช้ประกอบการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างแต่อย่างใด โดยใบเสนอราคาของร้านธนพรรณ พาณิชย์ ซึ่งได้มีการเสนอราคาจำนวน2 รายการนั้น ได้จัดทำขึ้นภายหลังตามที่นายรุ่งอรุณฯ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบลแก่งเลิงจานสั่งการ
โดยมีเจตนาเพื่อปกปิดการกระทำความผิดที่นายรุ่งอรุณ ได้เข้ามีส่วนได้เสียในการจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ โดยใช้ร้านอื่น เป็นคู่สัญญาแทนตน จึงมิได้มีการจัดทำเอกสารหรือดำเนินการจัดซื้อให้ถูกต้องตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการพัสดุของหน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2535 เละที่แก้ไขเพิ่มเติม ดังนั้น กรณีที่นายชลทิพย์ ทันบาล ที่ได้จัดทำเอกสารในเสนอราคาประกอบการจัดซื้อจัดจ้างในโครงการดังกล่าว จึงเป็นการกระทำที่ร่วมกับ นายรุ่งอรุณฯ แสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่น
ทั้งนี้ ก่อนการจับกุม เจ้าหน้าที่งานสืบสวนคดีทุจริตภาค 4 สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 4 ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่านายชลทิพย์ ทันบาล ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ที่ จ.28/2564 ลงวันที่ 23 ธันวาคม 2564 มีนัดพบแพทย์ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม และงานสืบสวนคดีทุจริตจังหวัดมหาสารคาม ดำเนินการร่วมวางแผนและจับกุมตัวผู้ต้องหา โดยได้เฝ้าสังเกตการณ์จนกระทั่งเวลา 09.45 น. พบนายชลทิพย์ ทันบาล เดินอยู่บริเวณหน้าโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ในจังหวัดมหาสารคาม เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวว่าเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ จากนั้นจึงได้แสดงหมายจับให้นายชลทิพย์ ทันบาล ดูและได้อ่านให้ฟังแล้ว นายชลทิพย์ ทันบาล รับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกันกับหมายจับนี้จริง และยังไม่เคยถูกจับตามหมายจับนี้มาก่อนแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งสิทธิ แจ้งพฤติการณ์แห่งการกระทำความผิด และแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับให้ทราบดีแล้ว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงควบคุมตัวไปทำบันทึกจับกุมที่กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธร จังหวัดมหาสารคาม เพื่อบันทึกการจับกุม และจักได้นำตัวส่งอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 4 เพื่อดำเนินการฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ต่อไป
อนึ่งการจับกุมดังกล่าวเกิดขึ้นภายใต้การอำนวยการของนายสาโรจน์ พึงรำพรรณ รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. นายประทีป จูฑะศร รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 4 และนายเสกสรรณ์ สมมาตย์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดมหาสารคาม