ปปง.อายัด 12 บัญชี 7 แสน! คดี พล.อ.อ. อดีต สว. ถูกกลุ่มมิจฉาชีพลอบถอนเงิน 3.4 ล้าน ลวงแอดไลน์มอบบัตรสมนาคุณจากสายการบิน กดยืนยันสิทธิตามขั้นตอน กลับดูดเงิน 5 บัญชี โอนเข้า 2 บุคคล 8 ครั้ง แจ้งความ ตร.เอาผิดคดีข้อหาลักทรัพย์ใช้กลอุบาย เตรียมหมายจับผู้เกี่ยวข้อง 10 คน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) มีคำสั่งคณะกรรมการธุรกรรม ที่ ย. 200/2567 ลงวันที่ 18 กันยายน 2567 เรื่อง อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว รายบุคคลที่ใช้ชื่อบัญชีธนาคาร (ชื่อบัญชีนายรณณัฐฏ์ ทาจี และชื่อบัญชีนายธวัชชัย สุชาติ) รับโอนเงินที่ได้จากการลักทรัพย์และฉ้อโกง พลอากาศเอก ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นกรณีมีพฤติการณ์แห่งการกระทำความผิดเกี่ยวกับการลักทรัพย์ การฉ้อโกง ตามประมวลกฎหมายอาญาอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ อันเนื่องมาจาก ได้รับข้อความทางโทรศัพท์มือถือจากสายการบินไทยไลอ้อนแอร์ว่าจะมอบบัตรโดยสารสมนาคุณ โดยให้ติดต่อผ่านช่องทางแอปพลิเคชั่นไลน์ของสายการบิน พลอากาศเอกหลงเชื่อจึงได้แอดไลน์และได้ติดต่อขอรับของสมนาคุณดังกล่าว และเมื่อดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อยืนยันสิทธิกลับถูกดูดเงินจากบัญชีธนาคารรวม 5 บัญชีเป็นเงิน 3,499,948 บาท พบว่าเงินถูกโอนต่อไปยังบัญชีเงินฝากบุคคลต่างๆ รวม 11 คน พลอากาศเอกจึงร้องเรียนมายัง ปปง.เพื่อให้เนินการตามกฎหมาย ปปง.กับกลุ่มบุคคลดังกล่าว
ทรัพย์สินที่คณะกรรมการธุกรรม ปปง.มีคำสั่งอายัด เป็นเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร 12 บัญชี ในชื่อ นายรณณัฐฏ์ ทาจี นายธวัชชัย สุชาติ และบุคคลอื่นอีก 9 คนรวมเป็น 11 คน เป็นเงินรวม 706,653.90 บาท
คำสั่งมีรายละเอียดดังนี้
ด้วยสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) ได้รับเรื่องร้องเรียน จากพลอากาศเอก (ปกปิดชื่อสกุล) ตามเลขที่รับ สอ 45 ลงวันที่ 30 มกราคม 2566 และตามเลขรับ สอ 52 ลงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 ส่งข้อมูลกรณีพลอากาศเอก ผู้เสียหาย มีหนังสือ ร้องเรียนกล่าวหาว่าถูกมิจฉาชีพลักลอบถอนเงินจากบัญชีเงินฝากของธนาคาร ซึ่งเป็นกรณีมีพฤติการณ์แห่งการกระทำความผิดเกี่ยวกับการลักทรัพย์ การฉ้อโกง ตามประมวลกฎหมายอาญาอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ กล่าวคือ
สืบเนื่องจากพลอากาศเอกได้ร้องเรียนว่าก่อนเกิดเหตุได้รับข้อความทางโทรศัพท์มือถือจากสายการบินไทยไลอ้อนแอร์ว่าจะมอบบัตรโดยสารสมนาคุณให้แก่พลอากาศเอกโดยให้พลอากาศเอก ติดต่อผ่านช่องทางแอปพลิเคชั่นไลน์ของสายการบินไทยไลอ้อนแอร์ พลอากาศเอกหลงเชื่อจึงได้แอดไลน์และได้ติดต่อขอรับของ สมนาคุณดังกล่าวจากสายการบินไทยไลอ้อนแอร์
ต่อมาวันเกิดเหตุวันที่ 27 ธันวาคม 2565 สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ ได้ส่งข้อความทางไลน์ให้พลอากาศเอก กดยืนยันสิทธิ ซึ่งในการยืนยันสิทธิดังกล่าวมิจฉาชีพซึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของสายการบินไทยไลอ้อนแอร์ได้ให้พลอากาศเอก ดำเนินการตามคำแนะนำ หลังจากนั้นเงินในบัญชีเงินฝากธนาคารของพลอากาศเอก ได้แก่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เลขที่บัญชี 3512480xxx และเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร ไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เลขที่บัญชี 4341074xxx เงินในบัญชีเงินฝากธนาคารทหารไทยธนชาติ จำกัด (มหาชน) เลขที่บัญชี 0572250xxx เงินในบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เลขที่บัญชี 982967xxx และเงินในบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เลขที่บัญชี 6611704xxx ได้ถูกโอนออกไปยังบัญชีเงินฝากธนาคารที่มีชื่อนายรณณัฐฎ์ ทารี และนายธวัชชัย สุชาติ เป็นเจ้าของบัญชี รวมจำนวน 8 ครั้ง มูลค่าความเสียหายรวมประมาณ 3,499,948 บาท
ต่อมาพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2 ในคดีอาญาที่ 31/2566 ได้ออกหมายเรียกให้นายรณณัฐฎ์ ทาจี นายธวัชชัย สุชาติ กับพวก รวม 10 ราย ให้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหา แต่มีเพียงนางสาว รุ่งนภา บุญถนอม เพียงรายเดียวที่เดินทางมาตามหมายเรียก พนักงานสอบสวนจึงได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาแก่ นางสาวรุ่งนภา บุญถนอม ว่าร่วมกันกระทำความผิดเกี่ยวกับการลักทรัพย์โดยใช้กลอุบาย และความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ส่วนผู้ต้องหารายอื่นอยู่ระหว่างการเตรียมออกหมายจับเพื่อติดตามนำตัวมาดำเนินคดี อันเข้าลักษณะเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (18) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 และกรณีมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าบุคคลที่ใช้ชื่อบัญชีธนาคาร (ชื่อบัญชีนายรณณัฐฏ์ ทาจี และชื่อบัญชีนายธวัชชัย สุชาติ) รับโอนเงินที่ได้จากการลักทรัพย์และฉ้อโกงผู้เสียหาย ได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดดังกล่าว
คณะกรรมการธุรกรรม ปปง.จึงมีคำสั่งอายัดทรัพย์สินจำนวน 12 รายการเป็นเวลา 90 วันนับแต่วันที่ 18 กันยายน-วันที่ 16 ธันวาคม 2567
สำหรับ พล.อ.อ.ผู้เสียหาย เคยเป็นสมาชิกสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติและสมาชิกวุฒิสภา และเคยมีตำแหน่งสูงในกองทัพ