รถบัสทัศนศึกษานักเรียนไฟไหม้ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 23 คน เป็นเด็ก 20 คนน ครู 3 คน ทุกส่วนเร่งเข้าช่วยเหลือ ดูแล-เยียวยาผู้เสียหาย-ญาติ ด้านตำรวจเผยต้องมีคนรับผิดชอบ ล่าสุดยังไม่พบตัวคนขับ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2567 จากเหตุการณ์อุบัติเหตุไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษาของนักเรียนโรงเรียนวัดเขาพระยา จ.อุทัยธานี บริเวณหน้าเซียร์รังสิต ตรงข้ามซอยพหลโยธิน 72 บริเวณถนนวิภาวดี
เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย แจ้งว่า รถบัสเดินทางมาจาก จ.อุทัยธานี เพื่อมาทัศนศึกษาที่ จ.นนทบุรี โดยเดินทางมาทั้งหมด 3 คัน ในจำนวนนี้มี 1 คันเกิดไฟไหม้เป็นรถบัส 2 ชั้น คาดว่ายางระเบิดและเสียดสีกับแท่งแบริเออร์ ประกอบกับด้านล่างมีแก๊สทำให้ไฟลุกลาม โดยรถคคันดังกล่าว เป็นรถดัดแปลง ตัวถัง จาก รถ อีซูซุ แต่ โลโก้ หน้าเเละหลังรถ เป็น เบนซ์ ยางหน้าเเตก ชน เเบริเอ้อ เเล้วเกิดไฟไหม้ แต่ครูแจ้งว่าเปิดประตูฉุกเฉินรถไม่ได้
ขณะนี้มีเด็ก ครู ยังหาไม่พบ 25 คน บางส่วนนำส่งโรงพยาบาลแล้ว โดยจะเร่งติดตามเพื่อสรุปยอดที่ชัดเจน และเคลียร์พื้นที่ใช้มความปลอดภัย เนื่องจากรถบัสมีแก๊สและน้ำมัน จากนั้นจะเก็บกู้ร่างที่ติดค้าง โดยทำผังโครงสร้างรถบัส ตำแหน่งที่นั่ง เพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล
ล่าสุด พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ รักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลง นักเรียนเสียชีวิต 20 ครูเสียชีวิต 3 รวม 23 ราย ผู้ ขับขี่ได้หลบหนีจากที่เกิดเหตุขณะนี้ได้มอบหมายให้กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ดำเนินการดำเนินการสืบสวนติดตามจับกุมตัวโดยไม่ต้องรอให้มามอบตัวแต่อย่างใด
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ว่า เบื้องต้นจากการสอบสวนพยานและอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ทราบว่าสาเหตุที่เกิดขึ้นจากเหตุครั้งนี้ ซึ่งก่อนอื่นตนต้องขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ นายกรัฐมนตรีเสียใจมากและได้เดินทางมาดูที่เกิดเหตุและไปที่โรงพยาบาลแพทย์รังสิตเพื่อดูเด็กและพบญาติเด็กที่ได้รับบาดเจ็บและเดินทางมาที่สำนักพัฒนาโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
“สำหรับสาเหตุเบื้องต้นที่เราได้สอบสวนพยาน ขณะสันนิษฐานว่าเกิดจากยางล้อรถยนต์ระเบิดขึ้นมาทำให้เกิดประกายไฟและมีถังแก๊สที่เป็นเชื้อเพลิงอยู่ในรถดังกล่าวจึงทำให้เพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็วเข้าไปในห้องโดยสาร” พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าว
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวถึงคนขับรถว่า ขณะนี้เราให้เจ้าหน้าที่ส่วนหนึ่งตรวจสอบข้อมูลบุคคลเกี่ยวกับคนขับรถและบริษัทซึ่งเราจะนำมาประกอบการสอบสวนและออกหมายจับซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนและติดตามซึ่งเรามีทีมและกำลังทุ่มกำลังไปเกี่ยวกับการกู้ภัย
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวถึงขั้นตอนหลังจากนี้สำหรับการตรวจอัตลักษณ์บุคคล ว่า เมื่อเรานำร่างผู้เสียชีวิตออกมาทั้งหมดซึ่งเมื่อสักครู่ตนทราบว่าไม่สามารถพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลได้ภายในที่เกิดเหตุจะนำร่างผู้เสียชีวิตไปที่สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ โดยสั่งการผู้บัญชาการพิสูจน์หลักฐานให้เราร่วมมือกับแพทย์นิติเวชในการเก็บดีเอ็นเอของร่างผู้เสียชีวิตและจะประสานกับทางญาติผู้ปกครองโดยสายเลือดเพื่อที่จะนำดีเอ็นเอไปเปรียบเทียบและตนได้สั่งการหากได้รับดีเอ็นเอของสองฝ่ายเป็นที่เรียบร้อยต้องตรวจให้เสร็จสิ้นโดยเร็วภายในสองวัน ซึ่งทำให้ญาติผู้เสียชีวิตได้รับร่างไปดำเนินการตามประเพณี
สำหรับการเก็บดีเอ็นเอของญาตินั้นต้องดูความสะดวกว่าเราจะให้แพทย์ที่จังหวัดอุทัยธานีเก็บได้หรือไม่แต่หากจะให้แน่นอน 100% อาจจะประสานงานขอให้เดินทางมาที่นิติเวชโรงพยาบาลตำรวจเพื่อให้เกิดความชัดเจนในการเก็บดีเอ็นเอต่อหน้าแพทย์และผู้เชี่ยวชาญ
กรณีรถบัสมีประตูฉุกเฉินแต่ทำไมเปิดไม่ได้นั้น พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ เปิดเผยว่า จากการสอบถามคุณครูทราบว่าเหตุที่เกิดขึ้นเร็วมากประกายไฟที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้ขึ้นมาเกิดได้อย่างรวดเร็วขณะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมายังไม่ทันส่วนประตูนั้นมีทั้งเด็ก และครูลงมาได้นั่นหมายถึงว่าประตูเปิดได้และมีเด็กบางคนกระโดดออกทางหน้าต่างและส่วนที่เหลือคิดว่ายังอยู่ในอาการตกใจจึงไม่สามารถออกมาได้ทัน และขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นเด็กคนใดบ้าง
“รถคันที่ 2 นี้เกิดเหตุมีเด็กอยู่จำนวน 39 มีทั้งระดับอนุบาล และประถม มีทั้งเด็กผู้หญิงและเด็กผู้ชาย ส่วนครู6 คน สำหรับผู้สูญหายในรถคันที่ 2 มีครู 6 คน ขณะนี้พบครู 3 อีก 3 คนยังไม่พบส่วนนักเรียนมี 39 คนเจอที่โรงพยาบาล 3 คน และอยู่ที่ศูนย์ 16 ดังนั้นนักเรียนยังหาไม่เจอ 20 คน หลังจากนี้จะมีการตรวจสอบว่าสภาพรถ เป็นอย่างไรและจะอยู่ในขั้นตอนความประมาทหรือไม่" พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าว
สำหรับกระแสข่าวที่บอกว่าขับรถเป็นภารโรงไม่ใช่คนขับรถที่มีความเชี่ยวชาญ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า เรื่องนี้จะต้องมีการตรวจสอบให้มีความชัดเจนว่าเป็นพนักงานที่บริษัทรถส่งมาหรือไม่อย่างไร และรถที่ใช้เป็นของเอกชน ทั้งนี้ตนย้ำทางผู้การจังหวัดปทุมธานีว่าการสอบสวนต้องหาข้อเท็จจริงว่าเกิดจากความประมาทและบริษัทรถหรือไม่อย่างไรหากไม่มีอุปกรณ์ในการป้องกันแสดงว่าไม่มีความพร้อมในการแก้ปัญหาเมื่อเกิดเหตุเบื้องต้น ซึ่งเข้าข้อกฎหมายเรื่องการประมาทหรือไม่ และตนย้ำว่าทั้งบุคคลและบริษัทจะต้องถูกดำเนินคดี และช่วงเกิดเหตุเรายังไม่ทราบข้อมูลว่าในขณะนั้นคนขับได้มีการช่วยเหลือเด็กและผู้ปกครองหรือไม่ ส่วนคนขับทราบว่าเป็นคน จ.สิงบุรี
สำหรับเรื่องการตรวจสอบสภาพรถ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า มีมานานแล้วเป็นมาตรการทั้งขนส่ง ตำรวจ รวมถึงรถสาธารณะที่มีมาตรการปฏิบัติอย่างเคร่งครัด และในกระบวนการสอบสวนจะดูประเด็นพวกนี้ด้วยถ้าบริษัทเจ้าของผู้ขับขี่ละเลยถือว่าเป็นองค์ประกอบความผิด และยืนยันว่ากองพิสูจน์หลักฐานจะดูรายละเอียดทุกประเด็นทั้งเรื่องความเร็วของรถทั้ง 3 คัน เหตุการณ์เช่นนี้ทำให้เกิดความเศร้า สลด การจะไปช่วยปกปิดเป็นไปไม่ได้
ด้าน อัจฉรา นิสัยสัตย์ ขนส่งจังหวัดจังหวัดสิงห์บุรี เปิดเผยว่า เจ้าของรถคือ น.ส.ปานิสรา ส่วนผู้ขับขี่คือ นายสมาน จันทร์คุด รถตรวจสภาพล่าสุดเมื่อ 23 พ.ค. ปีนี้ ความเร็วขณะเกิดเหตุคือ 81 กม./ชม. เป็นรถแก๊ส NGV มีอายุ 15 ปี จะหมดอายุปี 2569 สาเหตุขณะเกิดอุบัติเหตุตำรวจกำลังสืบสวนสอบสวน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบพบรถบัสไม่ประจำทาง ยี่ห้อเบนซ์ บริษัทชินบุตร แผ่นป้ายทะเบียนเหลือง หมายเลขทะเบียน 30-0423 สิงห์บุรี ได้เกิดเพลิงลุกไหม้ลุกลามมาครึ่งคันรถอย่างรุนแรง ทางเจ้าหน้าเร่งระดมฉีดน้ำและอยู่ระหว่างการเข้าช่วยเหลือ และจากการสอบถาม ผู้โดยสารมากับรถและเป็นผู้รับว่าจ้างเหมารถบัส ทราบว่า ตนเป็นผู้ติดต่อขอเช่าเหมารถบัส เพื่อจะนำนักเรียนและคณะครู จากรร.เขาพระยาสังฆาราม อ. ลานสัก จ.อุทัยธานี เพื่อจะพาไปทัศนศึกษาที่การไฟฟ้าพระราม 6
โดยภายในรถบัสมีนักเรียนโดยสารมาจำนวน 38 รายพร้อมด้วยคณะครูจำนวน 6 ราย รวม ทั้งหมด 44 คน จากการตรวจสอบเบื้องต้นมีผู้ที่ออกมาจากตัวรถจำนวนหนึ่ง ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้แล้วอยู่ระหว่างเข้าไปตรวจสอบภายในรถบัส จากการตรวจสอบ พบนักเรียนที่สูญหายคาดว่าถูกไฟคลอกเสียชีวิตติดอยู่บนรถบัสเป็นนักเรียนทั้ง ชายและหญิง จำนวน 20 ราย และเป็นคุณครูอีกจำนวน 3 ราย รวมทั้งสิ้นจำนวน 23 ราย อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่จะได้ตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
ตร.เผยต้องมีคนรับผิดชอบ-ยังไม่เจอตัวคนขับ
พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รักษาราชการแทนรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่เกิดเหตุไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา ทำให้เด็กนักเรียนและครูของโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม เสียชีวิตนับสิบราย
พล.ต.อ.ประจวบ เปิดเผยว่า ทุกหน่วยงานกำลังลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบรายละเอียดรวมถึงเก็บรวบรวมพยานหลักฐานถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น รวมถึงตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่ขบวนรถทัศนศึกษารวม 3 คัน เดินทางกลับจังหวัดอุทัยธานี ว่ารถคันดังกล่าวเกิดอุบัติเหตุจากสาเหตุอะไร เช่นมีการเฉี่ยวชนกับคันอื่นหรือไม่
พล.ต.อ.ประจวบ กล่าวอีกว่า ทราบว่ารถคันเกิดเหตุมีแก๊สรั่ว ดังนั้นก็จะต้องมีการตรวจสอบกับกรมการขนส่งทางบกว่ามีการติดตั้งก่อน หรือมีการดัดแปลงภายหลังและได้มาตรฐานหรือไม่อีกด้วย
ทั้งนี้ ในทางคดีหากมีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตตำรวจก็จะต้องดำเนินการกับคนขับจากนั้นก็จะต้องตรวจสอบว่ารถคันดังกล่าวเป็นของผู้ประกอบการรายใดที่จะต้องมีส่วนรับผิดชอบในเรื่องความเสียหาย แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถพิสูจน์ทราบได้และยังไม่พบคนขับรถคันเกิดเหตุ
พล.ต.อ.ประจวบ กล่าวด้วยว่า ในส่วนของการตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์ทางนิติเวช รพ.ตำรวจ ก็จะส่งทีมไปร่วมตรวจพิสูจน์กับทางนิติเวช รพ.ธรรมศาสตร์ เนื่องจากอยู่ใกล้พื้นที่เกิดเหตุ พร้อมฝากถึงผู้ประกอบการรถบัสโดยสารให้ตรวจสอบรถที่จะนำไปใช้บริการให้ได้มาตรฐานและอยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด เพราะการที่รถโดยสารขนาดใหญ่ที่นำออกมาใช้บริการ มีการให้บริการประชาชนโดยสารจำนวนมาก เพื่อป้องกันไม่เกิดการสูญเสียในภายหลัง
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รรท.ผบ.ตร. กล่าวแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์เพลิงไหม้รถบัสนักเรียน พร้อมสั่งการด่วนให้ตำรวจภูธรภาค 1 และ สภ.คูคต จ.ปทุมธานี ดูแลช่วยเหลืออย่างเต็มที่เหตุเพลิงไหม้รถบัส
โดยในพื้นที่ พ.ต.อ.กานตภณ วรรณณา ผกก.สภ.คูคต จ.ปทุมธานี นำกำลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ นำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง ประสานหน่วยงานและสนับสนุนในการดับเพลิง ตลอดจนอำนวยความสะดวกและดูแลการจราจร โดยมีการปิดถนนวิภาวดีรังสิตคู่ขนานถาวร ทั้งช่องเลนด่วน และเลนปกติ เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าทำงานในจุดเกิดเหตุ ขอให้พี่น้องประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าว ทั้งนี้จะได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อหาสาเหตุต่อไป
นายกฯ สั่งเยียวยา
ทางด้าน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊ก Ing Shinawatra แสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ไฟไหม้รถบัสที่นำนักเรียนจาก จ.อุทัยธานี เข้ามาทัศนศึกษาในกรุงเทพฯ พร้อมระบุว่า ในฐานะแม่ ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ต่อครอบครัวผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต และในฐานะรัฐบาล ได้สั่งการให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และ น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ ลงพื้นที่เกิดเหตุด้วยตัวเอง โดยรัฐบาลจะดูแลค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลและเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิต
โรงเรียนตั้งศูนย์ประสานงาน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี โพสต์ประกาศให้ผู้ปกครองทุกคนไปที่โรงเรียน โดยขณะนี้ผู้ว่าฯ จะตั้งศูนย์ประสานงานที่โรงเรียน
ส่วน น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ ฝากถึงผู้ปกครองเด็กนักเรียนที่ไปทัศนศึกษาที่ประสบเหตุ หากต้องการความช่วยเหลือ หรือจะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ โทร. 064-424-4455 และ 090-462-8951สธ.ส่งทีมดูแลจิตใจ
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข เปิดเผยว่า จากกรณีเกิดเหตุไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษาของนักเรียน โรงเรียนแห่งหนึ่ง บริเวณถนนวิภาวดี ส่งผลให้มีทั้งผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิต ซึ่งตนขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต โดยตนได้สั่งการให้สาธารณสุข ลงพื้นที่ด่วน เพื่อสนับสนุนช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บแล้ว โดยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี ได้รายงานว่า ทีมสาธารณสุข ได้ลงพื้นที่ช่วยเคลื่อนย้ายผู้ได้รับบาดเจ็บแล้ว ซึ่งขณะนี้ ได้นำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงที่เกิดเหตุแล้ว จำนวน 8 คน แบ่งเป็น ที่โรงพยาบาลแพทย์รังสิต 6 คน และ โรงพยาบาลราชวิถี 2 จำนวน 2 คน
พร้อมกำชับให้ทีมสาธารณสุข ปฏิบัติตามมาตรการช่วยเหลือเวลาเกิดเหตุแบบเคร่งครัด คือ
-
ส่งทีมเข้าช่วยเหลือรักษาพยาบาลเบื้องต้น
-
เคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บไปรักษาต่อยังโรงพยาบาล
-
ดูแลจิตใจผู้บาดเจ็บ และญาติของผู้เสียชีวิต
สั่ง อัยการ สคช.เตรียมพร้อมช่วยเหลือกฎหมาย
ขณะที่ นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง อธิบดีอัยการสำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน สคช.เปิดเผยกรณี จากเหตุสุดเศร้าไฟไหม้รถนักเรียนวันนี้ ทางสำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน
สำนักงานอัยการสูงสุด ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวนักเรียนและคุณครูที่ต้องสูญเสียคนรัก เป็นที่สุด และสิ่งที่สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิ์และช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชนจะให้ความช่วยเหลือ ในแนวทางการปฏิบัติหน้าที่ของอัยการได้
ขอฝากแจ้งถึงผู้ปกครองนักเรียน ครอบครัวคุณครูผู้สูญเสีย ท่านสามารถติดต่อ อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิ์และช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน จังหวัดอุทัยธานี
นายโกศลวัฒน์ กล่าวว่า ได้สั่งการ ให้ศูนย์อัยการช่วยเหลือทางกฎหมาย ที่ศูนย์ราชการอาคารแจ้งวัฒนะ และอัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิ์ จังหวัดอุทัยธานี ซึ่งเป็นภูมิลำเนาของโรงเรียนเตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือทุกรูปเเบบ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยประสานงาน ช่วยติดตาม กรณีชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจากประกันภัย หรือเงินเยียวยา ช่วยเหลือ จากกองทุนยุติธรรม
ตลอดจนจนถึงการเรียกร้องค่าเสียหายตามกฏหมาย ตามที่ขอบเขตอำนาจเราทำได้ซึ่งเมื่อพนักงานสอบสวน ได้ดำเนินการแล้ว จะได้ความชัดเจนถึงความรับผิดชอบทางคดี และอัยการจะคอยให้ความช่วยเหลือแก่ครอบครัว ผู้เสียหายทั้งหมด อย่างสุดความสามารถต่อไป