ป.ป.ช.ชี้มูลอดีตนายก อบจ.เพชรบุรี พร้อมพวก-สมาชิก อบจ.จัดซื้อ 3 โครงการสื่อการเรียน ใช้วิธีพิเศษชี้ชัดเป็นการดำเนินการผิดระเบียบ เพราะตามหลักต้องประกวดราคา เผยตัวอดีตนายกฯรอดความผิดตาม กม.เสนอราคาฯ ปี 42 เพราะคดีหมดอายุความแล้ว แต่เจ้าตัวยังมีความผิดฐานละเลยปฏิบัติหน้าที่
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าเมื่อวันที่ 17 ก.ย. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์กรณีที่ ป.ป.ช.จังหวัดกำแพงเพชรชี้มูลนายนายจุลพันธ์ ทับทิม อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกำแพงเพชร กับพวกได้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัดกำแพงเพชรดำเนินการจัดซื้อหนังสือและสื่อการเรียนการสอนกับองค์การค้าของ สกสค. โดยวิธีกรณีพิเศษ จำนวน 3 โครงการ โดยทั้ง 3 โครงการดังกล่าว มีวงเงินที่ดำเนินการจัดซื้อแต่ละโครงการเกินกว่า 2 ล้านบาท
เอกสาร ป.ป.ช.ระบุว่าตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการพัสดุของหน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 15 องค์การบริหารส่วนจังหวัดกำแพงเพชรจะต้องดำเนินการจัดซื้อโดยวิธีประกวดราคาทุกโครงการ แต่ปรากฏว่าทั้ง 3 โครงการได้จัดซื้อโดยวิธีกรณีพิเศษ ตามข้อ 19 ของระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการพัสดุของหน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
ทั้งที่การจัดซื้อโดยวิธีกรณีพิเศษจะต้องเป็นการจัดซื้อหรือจ้างจากส่วนราชการ หน่วยงานตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการส่วนท้องถิ่นอื่น หน่วยงานอื่นซึ่งมีกฎหมายบัญญัติให้มีฐานะเป็นราชการบริหารส่วนท้องถิ่น หรือรัฐวิสาหกิจ ในกรณีดังต่อไปนี้ (1) เป็นผู้ผลิตพัสดุหรือทำงานจ้างนั้นเอง และนายกรัฐมนตรีอนุมัติให้ซื้อหรือจ้าง (2) มีกฎหมายหรือมติคณะรัฐมนตรีกำหนดให้ซื้อหรือจ้าง และกรณีนี้ให้รวมถึงหน่วยงานอื่นที่มีกฎหมายหรือมติคณะรัฐมนตรีกำหนดด้วย การที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดกำแพงเพชรได้จัดซื้อหนังสือและสื่อการเรียนการสอนกับองค์การค้าของ สกสค. โดยวิธีกรณีพิเศษ จำนวน 3 โครงการ ดังกล่าวทั้งที่มติคณะรัฐมนตรีที่ให้สิทธิพิเศษกับองค์การของ สกสค. ยกเลิกไปแล้ว จึงเป็นการจัดซื้อที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและระเบียบดังกล่าว
การกระทำของนายจุลพันธ์ ทับทิม ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 นางสาวชุลีพร ดีบู่ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 และนางสุพาศรี ยวนแห่ว ผู้ถูกกล่าวหาที่ 4 นายบำเรอ ภานุวงศ์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 5 มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 83 พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 4 มาตรา 7 และมาตรา 12
แต่ความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 4 มาตรา 7 ได้ขาดอายุความแล้ว สิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไป ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39 (6)
จึงให้ยุติการดำเนินคดีอาญากับนายจุลพันธ์ ทับทิม ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ในความผิดฐานดังกล่าว และการกระทำของนายจุลพันธ์ ทับทิม ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 มีมูลเป็นการจงใจทอดทิ้งหรือละเลยไม่ปฏิบัติการตามอำนาจหน้าที่อันจะเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง หรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ หรือประพฤติตนฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อย ตามพระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ.2540 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 77