ป.ป.ช.สนธิกำลัง ตร.ปปป. บุกจับตัวอดีตนายกอบต.นาทุ่ง สุโขทัย เรียกรับเงิน 40,000 บาท แลกใช้ตำแหน่งช่วยเหลือบุคคลให้เข้าทำงาน เมื่อปี 2560 ส่งตัวยื่นฟ้องศาลอาญาคดีทุจริตฯ ภาค 6 แล้ว
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 12 ก.ย.2567 สำนักงาน ป.ป.ช.ภาค 6 ได้เผยแพร่ข่าวเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ภาค 6 สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) บุกจับตัวอดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) นาทุ่ง สุโขทัย กรณีเรียกรับเงินจำนวน 40,000 บาท เพื่อแลกกับการใช้ตำแหน่งของตนช่วยเหลือบุคคลให้ได้เข้าทำงานเป็นพนักงานตำบล อบต.นาทุ่ง เมื่อปี 2560
ระบุว่า เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2567 นายศรชัย ชูวิเชียร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 6 ได้มอบหมายสั่งการให้งานสืบสวนคดีทุจริตภาค 6 ประสานงานกับ บก.ปปป. ติดตามบุคคลตามหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 ที่ จ 17/2566 ลงวันที่ 17 มีนาคม 2566 ซึ่งเป็นอดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาทุ่ง อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย โดยมีพฤติการณ์ทุจริตในการเรียกรับเงินจำนวน 40,000 บาท เพื่อแลกกับการใช้ตำแหน่งของตนช่วยเหลือบุคคลให้ได้เข้าทำงานเป็นพนักงานตำบลขององค์การบริหารส่วนตำบลนาทุ่ง เมื่อปี 2560 ซึ่งเป็นความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ และฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 และมาตรา 157 รวมทั้งมีความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ รับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากบุคคลนอกเหนือจากทรัพย์สิน หรือประโมชน์อันควรได้ตามกฎหมาย หรือกฎ ข้อบังคับที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย และฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนานาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพระระราชบัญญัติประกอมรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบันที่ 6) พ.ศ. 2554 มาตรา 103 ประกอบมาตรา 103/1 และมาตรา 122 และมาตรา 123/1
ทั้งนี้ ได้นำตัวเพื่อทำบันทึกการจับกุมและหนังสือส่งตัวผู้ถูกกล่าวหา หลังจากนั้นนำตัวไปพิมพ์ลายนิ้วมือและลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจภูธรจังหวัดสุโขทัย และนำไปควบคุมตัวที่สถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก เมื่อดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้วจะนำตัวยื่นฟ้องคดีต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 ต่อไป
อย่างไรก็ดี ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด
ขณะที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) เผยแพร่ข่าวระบุว่า เมื่อวันที่ 12 ก.ย. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. สั่งการ พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พ.ต.อ.ศานุวงษ์ คงคาอินทร์ ผกก.4 บก.ปปป. นำกำลังจับกุมนายณรงค์ (สงวนนามสกุล) นายก อบต. แห่งหนึ่งใน จ.สุโขทัย ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 ข้อหา “กระทำการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน หรือ ละเลยไม่ปฏิบัติตาม หรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่”
สืบเนื่องจากเมื่อปี 2559 นายณรงค์ ผู้ต้องหารายนี้มีตำแหน่งเป็นถึงนายก อบต.นาทุ่ง จ.สุโขทัย แต่กลับมีพฤติกรรมเรียกรับเงินจากผู้เสียหายรายหนึ่ง เพื่อแลกกับการเปิดตำแหน่งวิ่งเต้นโยกย้ายบุตรหลานมาทำงานที่ อบต.ได้ โดยเรียกเก็บเงินค่าดำเนินการ 50,000 บาท แต่สุดท้ายกลับไม่สามารถโยกย้ายตามที่กล่าวอ้างได้จริง ผู้เสียหายจึงยื่นเรื่องร้องเรียนไปยัง ป.ป.ช. เพื่อดำเนินคดี จนมีการออกหมายจับ และนำมาสู่การตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว
จากสอบสวน นายณรงค์ ให้การรับสารภาพว่าได้เรียกรับจริง แต่เนื่องจากไม่สามารถที่จะเปิดตำแหน่งให้บุตรหลานของผู้เสียหายได้ จึงได้คืนเงินให้จนครบตามจำนวนที่รับมา เบื้องต้นจึงนำตัวส่ง ป.ป.ช. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป