อัยการเกาหลีใต้เดินหน้าสอบคดีสินบนตั้งอดีต ปธน.มุน แจ อินนั่งบริหารสายการบินไทยอีสตาร์ แลกแต่งตั้งเจ้าของสายการบินเป็นประธาน SME เกาหลีใต้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวการดำเนินคดีทุจริตที่เกี่ยวข้องกับอดีตประธานาธิบดีมุน แจ อินของเกาหลีใต้ (ดำรงตำแหน่ง 10 พ.ค.2560-9 พ.ค. 2565) ที่เชื่อมโยงกับประเทศไทยว่าสำนักอัยการเกาหลีใต้กำลังดำเนินการสืบสวนข้อกล่าวหากรณีการแต่งตั้งอดีตลูกเขยของอดีตประธานาธิบดีมุน แจ อิน นามสกุลว่าเซา (Seo) ให้นั่งบริหารสายการบิน Thai Eastar Jet หรือไทยอีสตาร์ เจ็ท โดยแลกกับการที่อดีตประธานาธิบดีเกาหลีใต้แต่งตั้งนักการเมืองผู้เป็นเจ้าของสายการบินไทยอีสตาร์ให้เข้าไปเป็นประธานบริหาร SME และสตาร์ทอัพของเกาหลีใต้
โดยการสอบสวนดังกล่าวเป็นการขยายการสอบสวนกรณีลูกสาวอดีตประธานาธิบดี ซึงนำไปสู่การเข้าตรวจค้นและยึดทรัพย์สินของเธอ
ตามรายงานของสำนักข่าว Cholsun Ilbo วันที่ 1 ก.ย. สำนักอัยการเขตจอนจูบุกค้นบ้านพักของนางมุนแตฮเยในเขตจงโน กรุงโซล บุกค้นบริษัทของเธอในเขตซอแดมุน และบุกค้นบ้านพักตากอากาศของเธอบนเกาะเจจูเมื่อวันที่ 30 ส.ค. ทั้งนี้มีรายงานว่ามุนแตโฮย ซื้อทรัพย์สินบนเกาะเจจูในราคา 380 ล้านวอน (9,706,537 บาท)ในเดือนกรกฎาคม 2565 จากบาทหลวง ซงกีอิน (Song Gi-in) ที่ปรึกษาของอดีตประธานาธิบดีและเป็นพ่อของเธอ
มีรายงานอ้างอิงจากหมายค้นระบุว่าอดีตประธานาธิบดีมุนเป็นผู้ต้องสงสัยในการสอบสวนนคดีสินบน ซึ่งเงินสินบนนั้นรวมถึงเงินเดือนและค่าครองชีพประมาณ 223 ล้านวอน (5,696,204 บาท) ที่นายเซาได้รับระหว่างการดํารงตําแหน่งผู้บริหารผู้ให้บริการสายการราคาประหยัดตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2561 ถึงเมษายน 2565 ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายให้ความเห็นว่าอดีตประธานาธิบดีมุนอาจเผชิญกับการสอบสวนในกรณีนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
อัยการสงสัยว่าอดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติของพรรค Democratic นายลีซังจิก ผู้เป็นเจ้าของสายการบินได้ดำเนินการว่าจ้างนายเซาและช่วยเหลือครอบครัวของเขาให้ย้ายมายังประเทศไทย โดยแลกกับการให้แต่งตั้งเขาให้ดำรงตำแหน่งเป็นประธานสํานักงานธุรกิจขนาดเล็กหรือ SMEs และสตาร์ทอัพของเกาหลี ในเดือน มี.ค.2561และต่อมานายเซาก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้บริหารสายการบินไทยอีสตาร์ เจ็ท ในเดือน ก.ค. 2561
อัยการมองว่าเงินเดือนของนายเซาเป็นสินบน โดยพิจารณาแล้วว่ามุนแจอินและภรรยาของเขาให้การสนับสนุนทางการเงินแก่ครอบครัวของลูกสาว แต่หยุดให้การสนับสนุนเมื่อนายเซาได้งานทํา เจ้าหน้าที่อัยการตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะมีติดสินบนโดยตรงหรือการติดสินบนหลังการจ้างงานนายเซามีผลบังคับใช้
สำหรับข้อมูลของสายการบินไทยอีสตาร์นั้น มีรายงานข่าวในช่วงเดือน ธ.ค. 2562 ว่านายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย(กพท.) ณ เวลานั้น เปิดเผยว่าในปี 2563 สายการบินไทย อีสตาร์ เจ็ทซึ่งเป็นสายการบินร่วมทุนระหว่างไทยและเกาหลีใต้จะได้รับใบอนุญาตให้ประกอบกิจการค้าขายในการเดินอากาศใหม่ (AOL) และเริ่มทำการบิน