ตัวแทน ‘ผู้นำเข้า-ส่งออก’ ยื่นหนังสือถึง ‘นายกฯ-รัฐมนตรี 5 กระทรวง’ ขอความเป็นธรรม หลัง ‘บมจ.โทรคมนาคม’ ประกาศขึ้นค่าบริการ NSW ทำต้นทุนผู้ประกอบการเพิ่มขึ้น 100% ขอยกเลิก NT ผูกขาดให้บริการผ่านระบบ NSW แต่เพียงรายเดียว
.............................................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 5 ส.ค. นางกอบกาญจนา วีระพงษ์ประดิษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เน็ตเบย์ (NETBAY) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา บมจ.เน็ตเบย์ ในฐานะตัวแทนผู้นำเข้าและส่งออกสินค้า ได้ยื่นหนังสือถึงนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องใน 5 กระทรวง เพื่อขอความเป็นธรรม หลังจาก บมจ.โทรคมนาคม (NT) ประกาศปรับอัตราค่าใช้บริการระบบ National Single Window (NSW) ทำให้ต้นทุนผู้ประกอบการเพิ่มขึ้นมาก
“ด้วยผู้ประกอบการ อันได้แก่ ผู้นำเข้า, ผู้ส่งออก, ผู้ประกอบการตัวแทนออกของ, ผู้ประกอบการสินค้าเร่งด่วน (e-Express) ทั้งทางอากาศยาน และทางบก, ผู้ประกอบการคลังสินค้าทางอากาศยาน (Airport Terminal Operator) เป็นต้น เป็นผู้ใช้บริการผ่านผู้ให้บริการเชื่อมโยงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ (NSP) ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง จากการกำหนดอัตราค่าใช้บริการระบบ National Single Window (NSW) ตามประกาศของ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) ตามคำสั่งคณะกรรมการบริษัท ที่ 3/2564 ที่กำหนดอัตราค่าบริการของแต่ละประประเภทธุรกรรม ทำให้ผู้ประกอบการมีภาระต้นทุนเพิ่มสูงขึ้น ภายใต้สถานการณ์เศรษฐกิจที่ตกต่ำในปัจจุบัน อาทิ
1.มีการกำหนดอัตราค่าใช้บริการที่สูงเกินไปในประเภทธุรกรรมที่สำคัญ สำหรับกลุ่มผู้ประกอบการสินค้าเร่งด่วน (e-Express)
2.มีรูปแบบการคิดค่าบริการที่ไม่สอดคล้องกับกระบวนการดำเนินการทางธุรกิจ ส่งผลให้ต้นทุนของผู้ประกอบการเพิ่มสูงขึ้น และการดำเนินธุรกิจเป็นไปด้วยความยากลำบาก
3.มีการเรียกเก็บค่าใช้บริการ แต่ยังไม่ได้รับคุณภาพจากการให้บริการหรือความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีที่ดี จากเดิมที่กรมศุลกากรเป็นผู้ดูแลและบริหารจัดการระบบ NSW
4.ผู้ประกอบการต้องแบกรับความเสี่ยงในการใช้บริการผ่านระบบ NSW ของประเทศที่มีเพียงระบบเดียวที่ให้บริการ ซึ่งหากเกิดปัญหาระบบล่ม ส่งผลให้การประกอบธุรกิจหยุดชะงัก และผู้ประกอบการจะต้องสูญเสียรายได้จากการประกอบธุรกิจปกติระหว่างที่ต้องกู้คืนระบบ
จากประเด็นดังกล่าวข้างต้น มีผู้ประกอบการดังกล่าวทั้งรายใหญ่ และรายย่อยมากกว่า 65 เปอร์เซ็นต์ของประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการกำหนดอัตราค่าใช้บริการระบบ NSW และรูปแบบการคิดค่าใช้บริการที่ไม่เหมาะสมและไม่เป็นธรรม โดยหากใช้รูปแบบการคิดค่าใช้บริการตามที่บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) กำหนดไว้ ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ จะมีภาระต้นทุนเพิ่มสูงขึ้นมากกว่า 100 เปอร์เซ็นต์
บริษัท เน็ตเบย์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นตัวแทนในการสำรวจความคิดเห็นต่อเรื่องการกำหนดอัตราค่า National Single Window (NSW) โดยได้รับการตอบกลับความคิดเห็นจากผู้ประกอบการทั้งรายใหญ่ และรายย่อย จำนวน 289บริษัท มีผู้ประกอบการที่ไม่เห็นด้วยกับการกำหนดอัตราค่าใช้บริการระบบ NSW จำนวน 284 บริษัท คิดเป็น 98 เปอร์เซ็นต์ ของผู้ประกอบการที่ตอบกลับความคิดเห็นรวมถึงผู้ประกอบการรายใหญ่ และมีเพียงผู้ประกอบการรายย่อยจำนวน 5 บริษัท ที่เห็นด้วยกับการกำหนดอัตราค่าบริการดังกล่าว
บริษัท เน็ตเบย์ จำกัด (มหาชน) ใคร่ขอให้ ฯพณฯ ท่าน นายกรัฐมนตรี ได้มีคำสั่งให้กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงการคลัง รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง เร่งรัดพิจารณาให้ความเป็นธรรมกับผู้ประกอบการดังกล่าวข้างต้น ให้เสร็จสิ้น ภายใต้หลักคุณธรรม อย่างมีธรรมาภิบาล พร้อมแจ้งผลให้บริษัท เน็ตเบย์ จำกัด (มหาชน) ทราบต่อไปจึงเรียนมาเพื่อได้โปรดพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย จะเป็นพระคุณยิ่ง” หนังสือของ บมจ.เน็ตเบย์ ลงวันที่ 26 ก.ค.2567 ลงนามโดย นางกอบกาญจนา วีระพงษ์ประดิษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NETBAY ระบุ
นางกอบกาญจนา กล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีที่ NT กำหนดอัตราค่าบริการธุรกรรมแต่ละประเภทดังกล่าว ทำให้ผู้ประกอบการแบกรับภาระต้นทุนสูงขึ้น โดยเฉพาะประเภทธุรกรรมสำคัญ สำหรับผู้ประกอบการสินค้าเร่งด่วน (e-Express) ที่มีอัตราค่าบริการสูงเกินไป ในขณะที่รูปแบบการคิดค่าบริการไม่สอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจ ทำให้ต้นทุนผู้ประกอบการเพิ่มสูงขึ้นมาก การดำเนินธุรกิจเป็นไปด้วยความยากลำบาก แต่การให้บริการกลับไม่ได้คุณภาพ อีกทั้งการพัฒนาระบบบริการอื่นๆ ที่จำเป็นอีกหลายบริการ ยังไม่พัฒนาให้เสร็จสิ้น ไม่มีความก้าวหน้ากว่าที่กรมศุลกากรเคยดูแล
นอกจากนี้ การที่ NT ยังคงผูกขาดในการให้บริการผ่านระบบ NSW แต่เพียงรายเดียว ทำให้ผู้ประกอบการต้องแบกรับความเสี่ยงหากเกิดปัญหาระบบล่ม ธุรกิจต้องหยุดชะงักทำให้เกิดความเสียหาย ดังนั้น จึงควรยกเลิกการผูกขาด Gateway และเปิดให้มีการแข่งขันอย่างเสรี เพื่อให้มีการพัฒนาเทคโนโลยีและการบริการ รวมถึงสามารถเชื่อมต่อกับกรมศุลกากรได้โดยตรง
“บมจ.เน็ตเบย์ ซึ่งเป็นตัวแทนในการยื่นหนังสือมีในฐานะเป็น Gatekeeper ดูแลระบบในการให้บริการและให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ ตั้งแต่การเชื่อมโยงระบบ NSW อยู่แล้ว และไม่มีการจัดเก็บค่าบริการหรือค่าธรรมเนียมในการดูแลระบบมากกว่า 10 ปี กระทั่งกรมศุลกากรได้โอนระบบ NSW ให้ NT เป็นผู้ดูแลแต่เพียงรายเดียว แต่การพัฒนาบริการอื่นที่จำเป็นตามการมอบหมายของกรมศุลกากรก็ยังไม่มีความคืบหน้า ทำให้ผู้ประกอบการไม่ได้รับความสะดวกในการทำธุรกรรมสำคัญได้อย่างครบถ้วนในคราวเดียว ผู้ประกอบการจึงมีความเห็นว่า อยากจะได้รับความร่วมมืออย่างดีเหมือนเมื่อครั้งที่กรมศุลกากรเคยดูแลระบบ” นางกอบกาญจนา กล่าว
นางกอบกาญจนา ระบุด้วยว่า ต้องขอขอบคุณนายกฯเศรษฐา กระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่เห็นถึงความเดือดร้อนของผู้ประกอบการ และได้ให้ความสำคัญกับผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ มาโดยตลอด
ด้าน แหล่งข่าวระดับสูงจากกลุ่มผู้ประกอบการ สินค้าเร่งด่วน (e-Express) กล่าวว่า บริษัทได้รับผลกระทบและเดือดร้อนอันเนื่องจากการประกาศอัตราค่าบริการ NSW ของ NT อย่างมาก เพราะในการทำธุรกิจต้องมีสัญญาระหว่างกันมีการคำนวณต้นทุนค่าใช้ที่จ่ายชัดเจนผู้ประกอบการจึงจะสามารถทำธุรกิจได้ แต่อยู่ๆ กลับมีค่าใช้จ่ายที่ไม่ได้คาดการณ์ล่วงหน้าเป็นการซ้ำเติมผู้ประกอบการให้ไม่สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ หรือลำบากขึ้น ประกาศดังกล่าวไม่ได้กระทบแค่ผู้ประกอบการ แต่อาจจะกระทบความเชื่อมั่นของประเทศอีกด้วย
“รัฐชอบมองว่าผู้ประกอบการต้องมีแผนรองรับ แต่กลับลืมคิดไปว่า ภาครัฐมีหน้าที่ให้การสนับสนุนและกำกับ วางแผนเพื่อให้ต้นทุนโลจิสติกส์ของประเทศลดลง ไม่ใช่ปล่อยให้หน่วยงานรัฐจะออกระเบียบหรือประกาศ หรือคิดถึงผลประโยชน์ตัวเอง โดยให้ผู้ประกอบการเป็นผู้รับภาระ หรือแก้ปัญหาเอง จึงทำให้เติบโตช้าและล้าหลัง จึงอยากให้ภาครัฐคิดให้รอบคอบก่อนออกมาตรการหรือระเบียบอะไรออกมา และเตรียมทางออกต่างๆ ให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้” แหล่งข่าวกล่าว
ขณะที่ ผู้ประกอบการสินค้าเร่งด่วนทางอากาศยานรายหนึ่ง กล่าวว่า ประกาศของ NT ดังกล่าว ส่งผลกระทบกับบริษัทฯเป็นอย่างมาก หากต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มจะทำให้มีผลกระทบกับลูกค้าผู้นำเข้าและส่งออกสินค้า และยอดการส่งออกอาจลดลงตามไปด้วย ตลอดเวลาที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันการส่งออกเป็นการทำรายได้เข้าประเทศ ส่วนใหญ่หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องจะส่งเสริมการส่งออก ด้วยการยกเว้นค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น บีโอไอ ให้สิทธิประโยชน์ด้านภาษีต่างๆ เช่น ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสูงสุด 13 ปี ลดหย่อนภาษีเงินได้ 50% อีก 5 ปี เฉพาะเขตส่งเสริมการลงทุน ยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักร ยกเว้นอากรขาเข้าวัตถุดิบเพื่อการส่งออกอื่นๆ เป็นต้น เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการ
“สภาพเศรษฐกิจทุกวันนี้ คิดว่าผู้ประกอบการไม่พร้อมจะชำระค่าบริการเพิ่มเติม ดังนั้น คิดว่าทาง NT น่าจะมีทางออกที่ดีที่สุด ที่จะทำให้ไม่มีผลกระทบกับธุรกิจโดยรวมของประเทศ” แหล่งข่าวกล่าว