‘พิธา’ ลงพื้นที่ราชบุรี หาเสียงช่วยเลือกตั้งนายก อบจ. ระบุวันพิพากษา 7 สิงหานี้ จะเดินทางไปศาลรัฐธรรมนูญด้วยตัวเอง ก่อนปลุกขวัญแฟนคลับ อย่ายอมผู้มีอำนาจ เก็บความแค้น รอวันชนะขาด
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 3 สิงหาคม 2567 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ลงพื้นที่ จ.ราชบุรี เพื่อช่วยหาเสียงเลือกตั้งให้กับนายชัยรัตน์ ศักดิ์อิสระพงศ์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.ราชบุรี ในนามพรรคก้าวไกล
นายพิธากล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนชาว จ.ราชบุรี ที่ให้ความไว้วางใจพิธาและเลือกพรรคก้าวไกลกว่า 2.3 แสนเสียง เป็นอันดับหนึ่งสำหรับคะแนนบัญชีรายชื่อในการเลือกตั้งใหญ่ 14 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา
แต่การเลือกตั้งท้องถิ่นไม่เหมือนกับเลือกตั้งระดับประเทศ เพราะเลือกตั้งท้องถิ่นไม่มีเลือกตั้งล่วงหน้าและเลือกตั้งนอกเขต ดังนั้นจึงขอให้พี่น้องใช้เวลาที่เหลือร่วมกันรณรงค์ บอกกับทุกคนว่าให้กลับบ้านมาเลือกตั้งให้มากที่สุด "1 กันยากาเบอร์ 1" ไม่ว่าท่านจะอยู่ทั่วประเทศหรือทั่วโลก โดยตนและผู้สมัครนายก อบจ. ราชบุรี พรรคก้าวไกล จะใช้เวลาหลังจากนี้ไปจนกว่าจะถึงวันที่ 1 กันยายน เพื่อเดินหน้ารณรงค์ทำให้พี่น้องไว้วางใจพวกเราถล่มทลายเกิน 2.5 แสนเสียง โดยการทำงานของท้องถิ่นก้าวไกลจะเชื่อมกับผู้แทนราษฎร เชื่อมกับพรรคก้าวไกล ดังนั้นพี่น้องที่กาเลือกนายก อบจ. ก้าวไกลคนเดียว ก็ได้พวกเราทุกคนเข้าไปทำงานด้วย นั่นคือจุดแข็งของพวกเรา
@ปลุกมวลชน อย่ายอมผู้มีอำนาจ รอวันชนะขาด
ต่อมานายพิธากล่าวถึงสถานการณ์คดียุบพรรคก้าวไกลที่ศาลรัฐธรรมนูญมีนัดอ่านคำวินิจฉัยในวันที่ 7 สิงหาคม 2567 ว่า พรรคการเมืองคือตัวแทนของประชาชน พรรคก้าวไกลเราได้รับความไว้วางใจมาใช้อำนาจแทนประชาชน แต่ในประเทศไทยในช่วง 20 ปีที่ผ่านมามีความพยายามทำให้พรรคการเมืองอ่อนแอลง เมื่อพรรคการเมืองอ่อนแอลงก็หมายความว่าอำนาจของประชาชนอ่อนแอลงด้วย และเมื่อมันมีผลกระทบต่ออำนาจของพี่น้องประชาชน นั่นคือผลกระทบต่อระบอบประชาธิปไตยที่พวกเราหวงแหนเป็นอย่างยิ่ง
“เพราะฉะนั้นอย่ายอมเขา อย่าสิ้นหวัง เก็บความโกรธแค้นเอาไว้ ชนะทั้งทีให้มันถูกต้อง ชนะให้มันขาด เราจะชนะให้เขาปฏิเสธเราไม่ได้อีกต่อไป พรรคการเมืองคือตัวแทนคือตัวแทนอำนาจประชาชน ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกพรรค เป็นผู้แทนราษฎรของพรรค ไม่ว่าจะเป็นอาสาสมัครของพรรค ดังนั้นประเทศแบบไหนที่เขาอยากให้พรรคการเมืองอ่อนแอนั่นก็หมายความว่าเขาอยากให้ประชาชนอ่อนแอ” นายพิธากล่าว
@7 สิงหา ไปฟังคำวินิจฉัยเอง
อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกลกล่าปราศรัยต่อไปว่า พี่น้องต้องไม่ยอม แต่ไม่ใช่ไม่ยอมเพื่อพรรคก้าวไกล เพื่อพิธา หรือพรรคการเมือง 33 พรรคที่เคยถูกยุบมาก่อน แต่ต้องไม่ยอมเพราะมันคืออำนาจของพี่น้องประชาชน ไม่ว่าพี่น้องจะเคยเลือกพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน พรรคไทยรักษาชาติหรืออนาคตใหม่ พรรคเหล่านั้นล้วนเป็นตัวแทนประชาชนทั้งสิ้น การทำลายพรรคเหล่านั้นก็คือทำลายอำนาจพี่น้องประชาชน ถ้าวันพุธนี้ (7 ส.ค. 67) ไม่มีโอกาสกลับมาหาพี่น้องในฐานะผู้แทนราษฎรอีกต่อไป ก็ขอให้นายพิธาและพรรคก้าวไกลเป็นคนสุดท้าย ที่เกิดโดยประชาชนแต่ถูกยุบลงไปจากอำนาจอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับพี่น้องประชาชน
นายพิธากล่าวทิ้งท้ายว่า ขอพี่น้องประชาชนไม่ต้องกังวลใจ พรรคก้าวไกลได้ทำเต็มสุดความสามารถแล้ว ไม่มีอะไรค้างคาใจอีกต่อไป และวันพุธนี้ (7 ส.ค. 67) จะขอไปฟังคำวินิจฉัยที่ศาลรัฐธรรมนูญด้วยตนเอง แต่ระหว่างนี้ตนเองและพรรคก้าวไกลจะไม่เสียสมาธิ ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ทุกวันแน่นอน 1 กันยา เข้าคูหากาเบอร์ 1 จัดหนักจัดเต็ม ทำให้ถึง ทำให้ถล่มทลาย ยิ่งกว่าปี 2566