สื่อฮ่องกงคาด 'ทรัมป์' คุยกับ รบ.เมียนมาหากได้รับเลือกเป็น ปธน.สหรัฐฯ เชื่อเจ้าตัวเมินเจรจาระดับพหุภาคี มุ่งเน้นทวิภาคีมากกว่า
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวเกี่ยวกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาที่อาจจะส่งผลต่อภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียนว่าเมื่อวันที่ 3 ส.ค. สำนักข่าวเซาธ์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ของฮ่องกงได้ออกบทความวิเคราะห์ว่าย้อนไปในช่วงที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปี 2560 นายทรัมป์ได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน 2017 แต่ไม่เข้าร่วมการประชุมสุดยอดที่ตามมาในอีกสามปีข้างหน้า การถอนตัวของสหรัฐฯ จากความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิกและการที่นายทรัมป์เห็นชอบในการเจรจาการค้าระดับทวิภาคีส่งสัญญาณถึงการการที่นายทรัมป์ไม่สนใจการเจรจาในระดับพหุภาคี
โดยเหตุผลที่นายทรัมป์ไม่สนใจในการเจรจาระดับพหุภาคีเนื่องจากไม่สามารถให้สัตยาบันได้ เพราะไม่มีสหรัฐฯ อยู่ในกรอบ และมีความเป็นไปได้ว่านายทรัมป์อาจสร้างความไม่สงบให้กับอาเซียนด้วยการมีส่วนร่วมกับรัฐบาลทหารเมียนมาในขณะที่สงครามกลางเมืองของประเทศยังคงดุเดือด
มีความเป็นไปได้ว่าประเทศกัมพูชาจะจับตาดูผลการเลือกตั้งของสหรัฐฯอย่างใกล้ชิด ย้อนไปเมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา พล.อ.ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้เดินทางไปเยือนกรุงพนมเปญ สิ่งนี้เป็นโอกาสว่าผู้นำคนใหม่ของทั้งสหรัฐฯและกัมพุชาอาจจะมีบทบาทในความสัมพันธ์ระดับทวิภาคี และความสัมพันธ์นี้น่าจะดำเนินต่อไปภายใต้การดำรงตำแหน่งของนายทรัมป์ถ้าหากได้รับการเลือกตั้ง และคาดว่ากัมพูชาจะเร่งสร้างสมดุลระหว่างการมีส่วนร่วมกับสหรัฐฯ และจีน เพื่อปกป้องลประโยชน์ระยะยาวของตัวเอง
ท้ายที่สุดแล้ว ภูมิภาคอินโดแปซิฟิกควรจะมีความกังวลมากขึ้นหากนายทรัมป์กลับมาใช้การทูตอเมริกามาก่อนอย่างแข็งขัน กลยุทธ์ของนายทรัมป์ในการปกป้องผลประโยชน์ของสหรัฐฯ โดยดึงเอาค่าใช้จ่ายจากประเทศอื่น ๆ นั้นตรงกันข้ามกับเสาหลักความยิ่งใหญ่ของสหรัฐฯ