ราชกิจจาฯแพร่ประกาศ ปปง.ให้ผู้เสียหายยื่นคําร้องขอรับคืนชดใช้คืนทรัพย์สินคดีคอลเซนเตอร์ ราย‘พิมานมาศ สุขขาว’ หลัง คกก.ธุรกรรมสั่งยึดอายัดทรัพย์ แฉพฤติกรรมโทร.ลวงชาวบ้านใน จ.ขอนแก่น อ้าง จนท.บริษัทขนส่งดังมีพัสดุตกค้าง จ.ตากไปอุบลฯ หลงเชื่อโอนเงินเข้าบัญชี 3 คน 9 ครั้ง
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า ราชกิจจานุเบกษา วันที่ 19 กรกฎาคม 2567 เผยแพร่ ประกาศสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เรื่อง ให้ผู้เสียหายยื่นคำร้องเพื่อขอรับคืนหรือชดใช้คืนซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดหรือชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหายในความผิดมูลฐานคดีคอลเซ็นเตอร์ ราย นางสาวพิมานมาศ สุขขาว กับพวก ขอให้บุคคลผู้ได้รับความเสียหายโดยตรงจากการกระทำความผิดมูลฐานในรายคดีดังกล่าวและไม่มีส่วนร่วมในการกระทำความผิด ยื่นคําร้องเพื่อขอรับคืนหรือชดใช้คืนซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดหรือชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหายในความผิดมูลฐานต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ภายใน 90 วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
เนื้อหาคำประกาศระบุพฤติการณ์ดังนี้
ด้วยคณะกรรมการธุรกรรมได้มีมติในการประชุมครั้งที่ 9/2567 เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2567 ให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว ประธานกรรมการธุรกรรมได้มีคำสั่ง ที่ ย.126/2567 ลงวันที่ 9 กรกฎาคม 2567 ให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน (เก้าสิบวัน) นับตั้งแต่วันที่คณะกรรมการธุรกรรมมีมติในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ และสมคบกันโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันและร่วมกันฟอกเงิน ราย นางสาวพิมานมาศ สุขขาว กับพวก กรณีเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2566 ขณะที่นางพัสเกนทร์ พยัตติกุล อยู่บ้านพักในหมู่ที่ 17 ตำบลบ้านเป็ด อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น ได้มีคนร้ายโทรศัพท์มาที่นางพัสเกนทร์ พยัตติกุล อ้างว่าเป็นพนักงานส่งพัสดุของบริษัทเคอรี่ แจ้งนางพัสเกนทร์ พยัตติกุล ว่ามีพัสดุส่งในนามชื่อนางพัสเกนทร์ พยัตติกุล ส่งจากจังหวัดตากไปจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งพัสดุมีบัญชีธนาคารชื่อนางพัสเกนทร์ พยัตติกุล จำนวน 3 บัญชี และมีหนังสือเดินทางของชาวจีน จำนวน 15 เล่ม โดยกลุ่มคนร้ายได้หลอกลวงว่า นางพัสเกนทร์ พยัตติกุล เกี่ยวข้องกับพัสดุดังกล่าวซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดทางอาญา และแจ้งนางพัสเกนทร์ พยัตติกุล ว่าให้โอนเงินทุกบัญชีไปตรวจสอบ นางพัสเกนทร์ พยัตติกุล หลงเชื่อจึงโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของกลุ่มคนร้าย รวมจำนวน 9 ครั้ง โดยโอนไปยังบัญชีธนาคาร ของคนร้ายประกอบด้วยชื่อบัญชี ดังนี้
(1) นางสาวพิมานมาศ สุขขาว
(2) นางสาวซานียา กุบแปะ
(3) นายพนมวัน โม้ลีย์
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 49/1 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2565 และข้อ 3 แห่งกฎกระทรวงการคืนหรือการชดใช้คืนซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดและการชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหายในความผิดมูลฐาน พ.ศ.2567 จึงขอให้บุคคลผู้ได้รับความเสียหายโดยตรงจากการกระทำความผิดมูลฐานในรายคดีดังกล่าวและไม่มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดนั้น ยื่นคําร้องเพื่อขอรับคืนหรือชดใช้คืนซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดหรือชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหายในความผิดมูลฐานต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานป้องกัน และปราบปรามการฟอกเงิน ภายใน 90 วัน (เก้าสิบวัน) นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา ทั้งนี้ รายละเอียดการยื่นคําร้องปรากฏตามเอกสารแนบท้ายประกาศนี้
ดูประกาศในลิงก์
https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/37312.pdf