'พีระพัฒน์ อิงพงษ์พันธ์ รองเลขา อสส.-กรรมการ ก.อ. สุดทน ส่งจดหมายเปิดผนึกเข้าห้องไลน์กลุ่มอัยการ ถูกบัตรสนเท่ห์ให้ร้าย ต้านนั่งกรรมการเนติบัณฑิตยสภา ลงคะแนนเลือกเดือน ส.ค.2567 นี้ เผยรู้ตัวคนทำ มีตำแหน่งใหญ่โตในองค์กรอัยการแต่ไร้วุฒิภาวะ จ่อได้รับบทเรียนเร็ววันนี้ เจ้าตัวยอมรับอิศรา แจงวัตถุประสงค์ให้เข้าใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 17 ก.ค.2567 ที่ผ่านมา มีการส่งจดหมายเปิดผนึก ของนายพีระพัฒน์ อิงพงษ์พันธ์ รองเลขานุการอัยการสูงสุดและกรรมการอัยการ (ก.อ.) ผู้ทรงคุณวุฒิเข้าไปในห้องไลน์ของอัยการ มีเนื้อหาเกี่ยวกับกรณีการกล่าวหาผู้สมัครกรรมการเนติบัณฑิตยสภา บางรายว่ามีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ไม่ควรเลือกเข้าไปทำหน้าที่กรรมการเนติฯ
ระบุว่า เรียน พี่น้องอัยการที่รักและเคารพทุกท่าน
ตามที่ช่วงนี้ได้มีบัตรสนเท่ห์ส่งไปตามสำนักงานต่าง ๆ ในสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวหาผู้สมัครกรรมการเนติฯ บางท่านว่ามีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ไม่ควรเลือกเข้าไปทำหน้าที่กรรมการเนติฯ และกล่าวหาผู้บริหารระดับสูงในหลายประเด็น ด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จทั้งสิ้น
ผมเป็นบุคคลหนึ่งที่ได้รับความเสียหายจากข้อมูลอันเป็นเท็จดังกล่าว
ผมเห็นว่าในระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมา มีบัตรสนเท่ห์ที่มีข้อความกล่าวหาบุคลากรทุกระดับในสำนักงานอัยการสูงสุด รวมถึงการนำข้อมูลความลับในสำนวนคดีส่งให้สำนักข่าวบางสำนัก หลายเหตุการณ์สร้างความเสียหายต่อภาพรวมขององค์กรอัยการเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่ปรากฏว่าสำนักงานอัยการสูงสุดได้ดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใด เพื่อแก้ไขปัญหาหรือป้องปรามไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว
ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ผมถูกนำความเท็จมาใส่ร้ายในบัตรสนเท่ห์จนผมได้รับความเสียหาย ผมขอเรียนพี่น้องอัยการว่า ผมเคยปล่อยผ่านบุคคลที่สร้างความเสียหายแก่บุคคลอื่นในองค์กรอัยการด้วยความคะนองมือแบบนักเลงคีย์บอร์ดในลักษณะบัตรสนเท่ห์มาแล้วหลายครั้ง แม้ผู้ใหญ่ในองค์กรจะทราบดีว่า บุคคลที่เป็นต้นเหตุในเรื่องดังกล่าวคือใคร แต่ก็ขาดพยานหลักฐานที่จะนำไปสู่การเอาผิดบุคคลดังกล่าวได้ จึงทำให้...ได้ใจ คึกคะนอง แม้จะมีตำแหน่งใหญ่โตในองค์กรอัยการ แต่กลับทำการโดยไม่มีสมองหรือสามัญสำนึกของความเป็นคน
แม้ผมจะเป็นคนที่ให้ความเคารพนอบน้อมต่อผู้ใหญ่ แต่ก็เฉพาะผู้ใหญ่ที่พึงให้ความเคารพ ผมเป็นคนสู้คน เป็นคนตรงไปตรงมา ที่จะไม่ยอมให้ใครมารังแก สู้ใครก็ต่อหน้าไม่มีลับหลัง
ผมขอประกาศแก่พี่น้องอัยการทุกท่านว่า ผมทราบดีว่าคนที่มีตำแหน่งใหญ่โตในองค์กรอัยการแต่ไม่มีวุฒิภาวะ ไร้สามัญสำนึกและสมอง และเป็นต้นต้นเหตุในการเผาบ้านตัวเองในหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคนนี้คือใคร และคนนี้เป็นคนทำหนังสือบัตรสนเท่น์โจมตีและดิสเครดิตผู้บริหาระดับสูง และ ก.อ. ตลอดมารวมถึงครั้งนี้ด้วย
ผมขอเขียนข้อความที่ไม่สุภาพมากนัก ผมอยากจะยืนยันว่า ในระยะเวลาอันสั้นนี้ ผู้ใหญ่ชั่วคนนี้ จะได้รับบทเรียนภายได้การดำเนินการโดยชอบด้วยกฎหมายที่สาสมแก่การกระทำของ... การที่..จะขอโทษด้วยการก้มกราบเท้าเหมือนที่เคยทำในอดีต ไม่มีทางที่จะได้รับการอภัยอีกต่อไป
พี่น้องอัยการทุกท่านจะได้รับทราบทุกอย่างโดยทั่วกันในเร็ววันนี้
ผมทำทุกอย่างตามหน้าที่ โดยสุจริตตลอดมา หากการทำหน้าที่จะทำให้ผู้ใหญ่ที่ดีบางท่านไม่สบายใจหรือไม่ชอบใจบ้าง ผมน้อมรับคำติติง และรับสภาพ เพราะรับเลือกตั้งมาแล้ว จะนั่งนิ่งเฉยต่อปัญหาและความไม่เป็นธรรม ผมทำไม่ได้ และกราบขอบพระคุณผู้ใหญ่หลายท่านที่เข้าใจ ให้กำลังใจ และสนับสนุนการทำงานที่ตรงไปตรงมา และขอบพระคุณพี่ๆเพื่อนๆน้องๆทุกคนที่ให้กำลังใจอย่างดียิ่งเสมอมา
นายพีระพัฒน์ อิงพงษ์พันธ์
กรรมการอัยการผู้ทรงคุณวุฒิ (ก.อ.)
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา รายงานว่า ได้โทรศัพท์ติดต่อไปยังนายพีระพัฒน์ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ นายพีระพัฒน์ ยอมรับว่าเป็นผู้ส่งจดหมายฉบับดังกล่าวจริงเพื่อชี้แจงให้อัยการได้เข้าใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเนติบัณฑิตยสภา ในพระบรมราชูปภัมภ์ เป็นสภาวิชาชีพนักกฎหมายเป็นองค์กรอิสระ ที่มีฐานะเป็นนิติบุคคล ถือเป็นสถาบันสำคัญที่มีบทบาทส่งเสริมการศึกษาและการวิจัยด้านวิชาการของการประกอบอาชีพทางกฎหมายรวมทั้งจัดหาทุน ส่งเสริมความสามัคคีและผดุงเกียรติของสมาชิก รวมถึงมีการช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย
มีคณะกรรมการ 23 คนประกอบด้วยประธานศาลฎีกา เป็นนายกเนติบัณฑิตยสภา ประธานศาลอุทธรณ์ เป็นอุปนายกฯคนที่ 1 และอัยการสูงสุด เป็นอุปนายกฯคนที่ 2 คณะกรรมการที่เหลือ 20 คนมาจากการเลือกตั้งจาก สายตุลาการ อัยการ ทนายความ เเละบุคคลอื่น สายละ 5 คน โดยกรรมการมีวาระ 4 ปี
โดยการเลือกกรรมการเนติบัณฑิตยสภาและให้สมาชิกลงคะแนนทางไปรษณีย์ซึ่งจะปิดหีบภายในต้นเดือนสิงหาคม 2567 นี้
ทั้งนี้บัตรเลือกตั้งกรรมการเนติบัณฑิตยสภา จะมี 4 ประเภทดังนี้
1.บัตรสีฟ้าเป็นประเภทข้าราชการตุลาการ
2.สีชมพูเป็นประเภทข้าราชการอัยการ
3.สีเหลืองเป็นประเภททนายความ
4.สีเขียวเป็นประเภทบุคคลอื่น
ภายในซองบัตรเลือกตั้งแต่ละประเภทจะประกอบด้วยบัญชีรายชื่อสามัญสมาชิกผู้มีสิทธิ์ได้รับเลือกตั้งเป็นกรรมการเนติบัณฑิตยสภา และส่งไปรษณีย์สำหรับใส่บัตรเลือกตั้งเพื่อส่งกลับมายังเนติบัณฑิตยสภา ซึ่งสามารถเลือกตั้งกรรมการเนติบัณฑิตยสภาจากบุคคลในประเภท จำนวนไม่เกิน 5 คน