เผยมติ ป.ป.ช. ตีตกคดี 'ธนากร อารยะธนะ' เลขานุการนายก อบจ.น่าน ร่ำรวยผิดปกติ มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นไม่สัมพันธ์กับรายได้ หลังพิจารณาสำนวนไต่สวนเบื้องต้นไม่ปรากฏข้อเท็จจริงพยานหลักฐาน ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ตกไป
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. เสียงเอกฉันท์ตีตกคดีกล่าวหา นายธนากร อารยะธนะ เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดน่าน ร่ำรวยผิดปกติ มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นไม่สัมพันธ์กับรายได้
หลังพิจารณาสำนวนไต่สวนเบื้องต้น ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่จะฟังได้ว่าผู้ถูกกล่าวหาร่ำรวยผิดปกติ ข้อกล่าวหาไม่มีมูลให้ข้อกล่าวหาตกไป
สำนักงาน ป.ป.ช. ระบุว่า พฤติการณ์ที่กล่าวหาว่ากระทำผิดโดยสรุป ว่า นายธนากร อารยะธนะ ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดน่าน จำนวน 2 วาระ วาระที่ 1 เข้ารับตำแหน่ง วันที่ 1 พฤษภาคม 2555 พ้นจากตำแหน่ง วันที่ 1 กันยายน 2556 และพ้นจากตำแหน่งครบหนึ่งปี วันที่ 31 สิงหาคม 2557
จากการตรวจสอบความเปลี่ยนแปลงของทรัพย์สินและหนี้สิน กรณีเข้ารับตำแหน่งกับพ้นจากตำแหน่ง และพ้นจากตำแหน่งครบหนึ่งปี ปรากฏว่ามีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นสุทธิ 1,565,863.32 บาท และจำนวน 112,195.90 บาท โดยทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ คือ รายการเงินลงทุนในหลักทรัพย์ จำนวน 1,876,000 บาท โดยพิจารณาจากการประมาณการรายได้ตั้งแต่เข้า - พ้น จำนวน 203,876.13 บาท และกรณีเข้า - พ้นครบหนึ่งปี จำนวน 417,716.13 บาท เมื่อเปรียบเทียบกับทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นกับประมาณการรายได้ ตาม ภ.ง.ด.แล้ว ปรากฏว่ามีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นไม่สัมพันธ์กับรายได้ตาม ภ.ง.ด.
โดยนายธนากร อารยะธนะ ชี้แจงว่า เงินลงทุนที่เพิ่มขึ้นมาจากนายประสงค์ เหล่าอารยะ บิดา ที่ฝากให้ตนนำไปลงทุนซื้อหุ้นในบริษัทหลักทรัพย์แทน แต่จากการตรวจสอบไม่ปรากฏหลักฐานที่พิสูจน์ว่ารายการเงินลงทุนที่เพิ่มขึ้นได้มาจากนายประสงค์ เหล่าอารยะ
สำหรับการดำรงตำแหน่งวาระที่ 2 เข้ารับตำแหน่ง วันที่ 1 ตุลาคม 2556 พ้นจากตำแหน่ง วันที่ 1 ตุลาคม 2557 และพ้นจากตำแหน่งครบหนึ่งปี วันที่ 30 กันยายน 2558 ผลการตรวจสอบความเปลี่ยนแปลงของรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ปรากฏว่ากรณีพ้นจากตำแหน่ง และพ้นจากตำแหน่งครบหนึ่งปี เงินลงทุนของผู้ยื่นลดลง โดยผู้ยื่นชี้แจงว่าได้ขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์และนำเงินไปคืนนายประสงค์ เหล่าอารยะ ผู้ซึ่งเป็นบิดา
ผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ระบุว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติเอกฉันท์ด้วยคะแนนเสียง 6 เสียง เห็นชอบตามความเห็นของคณะผู้ไต่สวนเบื้องต้นว่าไม่ปรากฏข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่จะฟังได้ว่าผู้ถูกกล่าวหาร่ำรวยผิดปกติ ข้อกล่าวหาไม่มีมูลให้ข้อกล่าวหาตกไป