เผยความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา 'สมศักดิ์ แพรกม่วง' อดีตผอ.วิทยาลัยเกษตรเทคโนโลยีตรัง ทุจริตโครงการปรับปรุงห้องน้ำ-ส้วม 13 รายการ ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 9 พิพากษาลงโทษ จำคุก 2 ปี 6 เดือน พวก 6 ราย โดนคนละ 6 เดือน ได้รอลงอาญาทั้งหมด - ป.ป.ช.ค้าน อสส.ไม่อุทธรณ์สู้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายสมศักดิ์ แพรกม่วง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีตรัง กับพวก ทุจริตในการดำเนินโครงการปรับปรุงห้องน้ำ-ห้องส้วมภายในวิทยาลัย จำนวน 13 รายการ ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151, 157 , พ.ร.ป.ป.ป.ช. พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123 (ปัจจุบันเป็นความผิดตาม พ.ร.ป.ป.ป.ช.พ.ศ. 2561 มาตรา 172) ตั้งแต่เมื่อวันที่ 21 ก.ย.2565 ที่ผ่านมา
โดยคดีนี้ปรากฏชื่อจำเลย 9 ราย ประกอบไปด้วย 1. นายสมศักดิ์ แพรกม่วง , 2. นายจำลอง ยิ่งดำนุ่น , 3. นายจำนงค์ เกษรา, 4. นายสถาพร อนุกูลพันธ์ , 5. นายเอกวิทย์ มะสุวรรณ, 6. นางสาวจารุวรรณ อั้นทอง, 7. นายจำรัส สุขประทุม , 8. ห้างหุ้นส่วนจำกัด อติเทพโลหะกิจ และ 9. นายสุรพล จันทร์เพชร
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 26 มี.ค.2567 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9 มีคำพิพากษาดังนี้
1. นายสมศักดิ์ แพรกม่วง จำเลยที่ 1 มีความผิดตามกฎหมาย ลงโทษจำคุก 5 ปี และปรับ 40,000 บาท ลดโทษ ให้กึ่งหนึ่ง ตาม ปอ.ม.78 คงจำคุก 2 ปี 6 เดือน และปรับ 20,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี
2. นายจำลอง ยิ่งดำนุ่น จำเลยที่ 2 , นายจำนงค์ เกษรา จำเลยที่ 3 , นายสถาพร อนุกุลพันธ์ จำเลยที่ 4 , นายเอกวิทย์ มะสุวรรณ จำเลยที่ 5 , นางสาวจารุวรรณ อั้นทอง จำเลยที่ 6 และ นายจำรัส สุขประทุม จำเลยที่ 7 มีความผิดตามกฎหมาย ลงโทษจำคุก 1 ปี และปรับ 20,000 บาท ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตาม ปอ.ม.78 คงจำคุก 6 เดือน และปรับ 10,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี
อย่างไรก็ดี คดีนี้ ยังไม่สิ้นสุด จำเลยทั้งหมด มีสิทธิ์ต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
เบื้องต้น ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.2567 ได้พิจารณาแล้วมีมติไม่เห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 9
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท
มาตรา 157 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
อ่านประกอบ :