‘อโนชา ชีวิตโสภณ’ ประธานศาลฎีกา ลงนามคำสั่งย้ายด่วน ‘อธิบดีผู้พิพากษา’ ไปช่วยราชการสำนักงาน ปธ.ศาลฎีกาชั่วคราว มีผลตั้งแต่ 8 ก.ค. 2567 ตามข้อเสนอ ก.ต. หลังถูกร้องเรียน เผยให้ ‘จุมพล ชูวงษ์’ ผู้พิพากษาศาลฎีกา ไปช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งแทน
แหล่งข่าวจากสำนักงานศาลยุติธรรม เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ว่า เมื่อวันที่ 2 ก.ค. 2567 นางอโนชา ชีวิตโสภณ ประธานศาลฎีกาได้ลงนามคำสั่งย้ายอธิบดีผู้พิพากษาศาลรายหนึ่ง ไปช่วยราชการสำนักงานประธานศาลฎีกาเป็นการชั่วคราว โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 8 ก.ค. 2567 และให้นายจุมพล ชูวงษ์ ผู้พิพากษาศาลฎีกา ไปช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งอธิบดีผู้พิพากษาศาลดังกล่าว
แหล่งข่าวกล่าวว่า การใช้อำนาจของประธานศาลฎีกา ย้าย อธิบดีผู้พิพากษาศาลรายนี้ เป็นไปตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการฝ่ายตุลาการมาตรา 21 และจะต้องนำไปให้คณะกรรมการตุลาการ(ก.ต.) ให้ความเห็นชอบต่อไป
แหล่งข่าวกล่าวว่า สำหรับสาเหตุที่ประธานศาลฎีกามีคำสั่งย้ายด่วน อธิบดีผู้พิพากษาศาล รายนี้ เนื่องจาก ใน การประชุม ก.ต. เมื่อวันวันที่ 1 ก.ค. มีกรรมการตุลาการบางรายเสนอให้โยกย้าย เพราะมีการร้องเรียนเกี่ยวกับพฤติกรรมบางประการ ซึ่งอาจกระทบกับการสอบสวนข้อเท็จจริงซึ่งประธานศาลฎีกาได้มีการแต่งตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงขึ้นมาสอบสวนแล้ว ซึ่ง ในที่ประชุม นางอโนชาเพียงแต่ว่าจะรับข้อเสนอ ของกรรมการ ตุลาการไปพิจารณา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับมาตรา 21 แห่ง พระราชบัญญัติระเบียบ ข้าราชการ ฝ่าย ตุลาการบัญญัติว่า “ให้ประธานศาลฎีกามีอำนาจสั่งให้ข้าราชการตุลาการไปช่วยทำงานชั่วคราวในกรณีจำเป็นเพื่อประโยชน์แก่ราชการศาลยุติธรรมในตำแหน่งตุลาการที่ไม่ต่ำกว่าตำแหน่งที่ผู้นั้นดำรงอยู่ได้โดยมีกำหนดระยะเวลาไม่เกินหกเดือน หากกำหนดระยะเวลาดังกล่าวเกินกว่าหกเดือน ประธานศาลฎีกาต้องขอความเห็นชอบจาก ก.ต.ก่อน
การสั่งให้ข้าราชการตุลาการไปช่วยทำงานชั่วคราวตามวรรคหนึ่ง ต้องได้รับความยินยอมจากข้าราชการตุลาการผู้นั้นด้วย เว้นแต่เป็นกรณีที่หากให้ผู้นั้นอยู่ปฏิบัติหน้าที่ในศาลนั้นต่อไปจะกระทบกระเทือนต่อความยุติธรรมในการพิจารณาพิพากษาอรรถคดีของศาลนั้น หรือมีเหตุจำเป็นอื่นอันมิอาจก้าวล่วงได้ตามระเบียบที่ ก.ต. กำหนด และเมื่อมีการสั่งในกรณีเช่นนี้แล้ว ให้ประธานศาลฎีกานำเรื่องเข้าขอความเห็นชอบจาก ก.ต. ในการประชุมนัดแรกนับแต่วันมีคำสั่งห้ามมิให้สั่งให้ข้าราชการตุลาการซึ่งดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาอาวุโสตามมาตรา 12ไปช่วยทำงานชั่วคราวตามวรรคหนึ่งในตำแหน่งอื่น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้ติดต่อไปยังนายสรวิศ ลิมปรังษี โฆษกศาลยุติธรรม เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเรื่องนี้ นายสรวิศ ตอบเพียงสั้นๆ ว่า ยังไม่ทราบข้อเท็จจริงเรื่องนี้