ป.ป.ช.ทำแถลงการณ์โต้ หลังถูกวิจารณ์ปล่อยคดีผู้บริหารวิทยาลัยพลศึกษาชลบุรีเบียดบังเงินหลวงขาดอายุความ ม.157 แล้วไปฟ้อง ม.147 แทน เผยพฤติการณ์อีกฝ่ายไม่ยอมส่งคืนเงินยืม ปล่อยเวลาผ่านไปนานกว่า 5 ปี ดังนั้นชี้มูล ม.147 จึงถูกต้องแล้ว
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าเมื่อวันที่ 28 มิ.ย. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ทำเอกสารแถลงข่าวระบุว่านายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. ชี้แจงกรณีมีการนำเสนอข่าว การร้องเรียนการทำหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่าขาดความยุติธรรม ไม่สุจริต ไม่เที่ยงธรรม ไม่ปราศจาก อคติ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ในประเด็นที่ศาลอาญาคดีทุจริตฯ ภาค 2 พิพากษายกฟ้อง นายณรงค์ คำหงส์ อดีตผู้บริหารวิทยาลัยพลศึกษาชลบุรี กับพวก 15 คน คดีกล่าวหาทุจริตเบียดบังเงินยืมทดรองราชการ ป.ป.ช. ได้รับเรื่องไต่สวนชี้มูลความผิดกว่า 13 ปี ปล่อยปะ ละเว้น ทำให้ป.อาญา ม.162, ป.อาญา ม.157 ขาดอายุความไปแล้ว แต่กลับไปดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาชี้มูล ป.อาญา ม.147 เพื่อให้มีโทษสูงกว่าทำให้คดีไม่ขาดอายุความนั้น
สำนักงาน ป.ป.ช. ขอชี้แจงว่า เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2565 คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลกรณี เจ้าหน้าที่ของวิทยาลัยพลศึกษาชลบุรี ทุจริตในการยืมเงินทดรองราชการ ประจำปีงบประมาณ 2544 – 2548 โดยพิจารณาแล้วเห็นว่าเงินยืมทดรองราชการ เป็นเงินที่หน่วยงานราชการจ่ายให้แก่ผู้ยืม เพื่อใช้จ่ายในการเดินทาง ไปราชการ หรือดำเนินโครงการตามที่ได้รับอนุมัติจากผู้บังคับบัญชา
อันเป็นการยืมไปเพื่อใช้จ่ายตามวัตุประสงค์ และกิจการของราชการ ซึ่งเป็นการปฏิบัติหน้าที่ราชการตามตำแหน่งหน้าที่ของผู้ยืม การยืมเงินทดรองราชการจึงเป็นการยืมไปใช้เพื่อประโยชน์ในกิจการของราชการทั้งสิ้น ซึ่งผู้ยืมต้องปฏิบัติตามระเบียบการเบิกจ่ายเงินจากคลัง พ.ศ. 2520
ดังนั้นเงินที่วิทยาลัยพลศึกษาจังหวัดชลบุรี จ่ายให้ผู้ถูกกล่าวหา ยังคงเป็นเงินงบประมาณแผ่นดินเป็นเงิน ของทางราชการ การที่ผู้ถูกกล่าวหาไม่ส่งใช้เงินยืมภายในระยะเวลาที่กำหนด ปล่อยให้ระยะเวลาล่วงเลยนานถึง 5 ปี อันเป็นการเบียดบังเงินยืมไปเป็นของตนหรือของผู้อื่นโดยทุจริต การกระทำจึงครบองค์ประกอบความผิดตามมาตรา 147 แล้ว
คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วคดีนี้มีพยานหลักฐานเพียงพอ จึงนำคดีมาฟ้องเองต่อศาลภายในอายุความตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 ประกอบมาตรา 95 (1) โดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปราบการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 77 ประกอบมาตรา 93 ดังนั้นการแจ้งข้อกล่าวหา การไต่สวนและการฟ้องคดีของคณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงเป็นการใช้ดุลพินิจ โดยชอบด้วยกฎหมาย ในรูปแบบขององค์คณะบุคคลมีความเห็นเป็นอิสระ โดยรับฟังพยานหลักฐานที่ปรากฏในสำนวน