ป.ป.ช.รวบตัวแทนเอกชน หนีหมายจับคดีเอื้อประโยชน์ผู้เสนอราคาโครงการจัดซื้อสื่อการเรียนการสอน อบต. ดงเมืองแอม ขอนแก่น ทำราชการเสียหาร 847,000 บาท
สำนักข่าวอิศรา (www.isranws.org) รายงานว่าเมื่อวันที่ 27 มิ.ย.สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ออกเอกสารข่าวประชาสัมพันธ์กรณีเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.จับตัวแทนเอกชนที่มีพฤติกรรมสนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐให้เกิดการแข่งขันราคาอย่างไม่เป็นธรรม เนื้อหาระบุว่า
ภายใต้การอำนวยการของนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. นายประทีป จูฑะศร รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 4 นายจักรกฤช ตันเลิศ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. และนายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ ได้มอบหมายให้งานสืบสวนคดีทุจริตภาค 4 สำนักงาน ป.ป.ช.ภาค 4 และกลุ่มสืบสวนและปฏิบัติการข่าว 2 สำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ ทำการจับกุมนางสาวสุพัตรา หอมโคกค้อ บุคคลตามหมายจับของศาลอาญา คดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ที่ จ.22/2567 ลงวันที่ 24 เมษายน 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐกระทำการใดๆ
โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้ออำนวยแก่ผู้เข้าทำการเสนอราคารายใดให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ ตามพระราชบัญญัติ ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ 2542 มาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 86 ซึ่งสามารถดำเนินการจับตัวได้ในพื้นที่ตำบลหนองแปน อำเภอมัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่น
โดยนางสุพัตรา หอมโคกค้อ บุคคลตามหมายจับในฐานะผู้แทนของร้านขอนแก่นบุ๊คสโตร์ ได้ทำการเสนอราคาในการจัดซื้อสื่อการเรียนการสอน เครื่องเล่นเด็กและอุปกรณ์การพัฒนาเด็กปฐมวัย ในปีงบประมาณ พ.ศ 2554 ขององค์การบริหารส่วนตำบลดงเมืองแอม อำเภอเขาสวนกวาง จังหวัดขอนแก่น เพื่อเอื้อประโยชน์ แก่ผู้เสนอราคาบางราย อันเป็นการช่วยเหลือและสนับสนุนเจ้าหน้าที่ ในการพิจารณาอนุมัติกำหนดรายละเอียด หรือคุณลักษณะเฉพาะในการจัดซื้อฯ ทำให้เกิดความเสียหายแก่องค์การบริหารส่วนตำบลดงเมืองแอม อำเภอเขาสวนกวาง จังหวัดขอนแก่น เป็นเงินจำนวน 847,000 บาท
จากการสืบสวนทราบว่า ผู้ถูกกล่าวหาหรือบุคคลตามหมายจับได้หลบหนีไปพักอาศัยและทำงานอยู่ในพื้นที่อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ต่อมาสืบทราบว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้กลับไปพักอาศัยในพื้นที่ภูมิลำเนาจังหวัดขอนแก่น จึงได้ติดตามและดำเนินการจับกุมตามขั้นตอนของกฎหมาย แล้วนำตัวส่งไปยังพนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 4 เพื่อฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ต่อไป