ป.ป.ช.เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา 'สมหมาย พงศ์ศิริพัฒน์' อดีตผอ.วิทยาลัยการอาชีพวังสะพุง เลย ลงนามรับรองการปฏิบัติงานลูกจ้างชั่วคราวเพื่อใช้เป็นหลักฐานสมัครสอบครูผู้ช่วยเป็นเท็จ ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 4 พิพากษาลงโทษจำคุก 6 เดือน ได้รอลงอาญา หลังรับสารภาพ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายสมหมาย พงศ์ศิริพัฒน์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการวิทยาลัยการอาชีพวังสะพุง จังหวัดเลย กับพวก ลงนามรับรองการปฏิบัติงานของลูกจ้างชั่วคราวเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการสมัครสอบครูผู้ช่วยเป็นเท็จ ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ 162 (1) ตั้งแต่เมื่อวันที่ 24 ส.ค.2565
ความคืบหน้าล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 มีคำพิพากษาว่า นายสมหมาย พงศ์ศิริพัฒน์ จำเลยมีความผิดตามกฎหมาย ตามมาตรา 157
ลงโทษจำคุก 1 ปี และปรับ 10,000 บาท
รับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษเหลือ 6 เดือน ให้โอกาสกลับตัวเป็นพลเมืองดี โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี
อย่างไรก็ดี คดีนี้ยังไม่สิ้นสุด จำเลย มีสิทธิ์ต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
เบื้องต้น ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 13 มี.ค.2567 ได้พิจารณาแล้วมีมติเห็นชอบตามความเห็นอัยการสูงสุด (อสส.) ที่จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษา
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ