ป.ป.ช.เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา 'สยาม วงศ์เส็ง' อดีตนายกเทศมนตรีตำบลบ้านเชี่ยน ชัยนาท เรียกรับเงินผู้สอบแข่งขันเพื่อแลกเปลี่ยนกับการบรรจุเป็นพนักงานเทศบาลฯ เมื่อปี 2556 ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 1 พิพากษาลงโทษจำคุก 5 ปี นับโทษต่อคดีเก่า
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายสยาม วงศ์เส็ง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลบ้านเชี่ยน อำเภอหันคา จังหวัดชัยนาท เรียกรับเงินจากผู้สอบแข่งขันเพื่อแลกเปลี่ยนกับการบรรจุเป็นพนักงานเทศบาลตำบลบ้านเชี่ยนเมื่อปี พ.ศ.2556 ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 และ 157 ตาม พ.ร.ป. ป.ป.ช. พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 123/1 ประกอบ พ.ร.ป. ป.ป.ช. พ.ศ.2561 มาตรา 192 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 30 ส.ค.2564
ความคืบหน้าล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 มีคำพิพากษาว่า นายสยาม วงศ์เส็ง จำเลยมีความผิดตามกฎหมาย เป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90
จำคุก 5 ปี ให้นับโทษจำคุกจำเลยต่อจากโทษจำคุกในคดีหมายเลขแดงที่ อท 95/2566
อย่างไรก็ดี คดีนี้ยังไม่สิ้นสุด จำเลย มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้อีกได้
เบื้องต้น ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 13 มี.ค.2567 ได้พิจารณาแล้วมีมติเห็นชอบตามความเห็นอัยการสูงสุด (อสส.) ที่จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษา
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท หรือประหารชีวิต