อินโดฯ เตรียมส่งทีม ตร.ล่าตัว 'เฟรดดี้ ปราตามา' เจ้าพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ซ่อนตัวป่าในไทย หลังบรรลุข้อตกลงกับไทยให้ส่งตัว 'แป้ง นาโหนด' กลับประเทศ ด้านหัวหน้าชุดปราบยาเสพติดอินโดฯ เผย ไทยจะดำเนินข้อหาฟอกเงินภรรยาเฟรดดี้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวความคืบหน้าเกี่ยวกับความคืบหน้าการจับกุมนายเชาวลิต ทองด้วง หรือแป้ง นาโหนด ที่เกาะบาหลีเมื่อวันที่ 30 พ.ค. ว่าสืบเนื่องจากข้อตกลงการแลกเปลี่ยนผู้ต้องหา ทำให้ในวันนี้ (4 มิ.ย.) กองบัญชาการตํารวจปราบปรามยาเสพแห่งชาติอินโดนีเซียจะส่งทีมบินมาประเทศไทย โดยพวกเขาจะดำเนินการไล่ล่าตัวนายเฟรดี้ ปราตามา ผู้ต้องหาคดีค้ายาเสพติดรายใหญ่ของอินโดนีเซีย
สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นของอินโดนีเซียรายงานข่าวว่าทีมดังกล่าวนั้นจะช่วยดูแลในเรื่องของการส่งตัวนายเชาวลิตกลับมายังประเทศไทยด้วย
ขณะที่พลจัตวา มุคตี จูฮาร์ซา หัวหน้าฝ่ายปราบปรามยาเสพติด สำนักงานสอบสวนคดีอาชญากรรมกล่าวว่าทีมสอบสวนชุดนี้จะทำงานร่วมกับทีมงานในประเทศไทย เพื่อตามตัวนายเฟรดดี้ ซึ่งมีรายงานว่า ณ ตอนนี้เขากำลังหลบซ่อนตัวในพื้นที่ป่าในประเทศไทย
“คำสัญญาจากทางตำรวจไทยก็คือเมื่อเฟรดดี้ถูกจับ เขาจะถูกนำตัวกลับมายังอินโดนีเซีย” พลจัตวามุคตีกล่าวและกล่าวต่อว่า "เราตกลงกันเมื่อวานนี้ (3 มิ.ย.) ว่าในกรณีของเฟรดี้ ปราตามา เราจะดําเนินการตามคําขอของประเทศไทย ประเทศไทยจะดําเนินการในข้อหาเกี่ยวกับการฟอกเงินกับภรรยาของเฟรดี้ ปราตามา"
สำนักงานสอบสวนคดีอาชญากรรมยังได้เปิดโปงเครือข่ายยาเสพติดของนายเฟรดดี้ ซึ่งมีนามแฝงว่านาย Miming และนาย Cassanova โดยในช่วงปี 2565-2566 ได้มีการยึดยาเสพติดเมทแอมเฟตามีนที่อยู่ในเครือข่ายของนายเฟรดดี้ได้เป็นจำนวน 10.2 ตัน และคาดกันว่าในทุกๆเดือนเครือข่ายของนายเฟรดดี้น่าจะขนยาเสพติดเข้ามายังประเทศอินโดนีเซียได้เป็นจำนวน 100-500 กิโลกรัม โดยใช้วิธีการซุกซ่อนในถุงบรรจุชา
สำนักข่าวอิศรารายงานเพิ่มเติมว่าสำหรับกรณีขั้นตอนการคุมขังนายชวลิตนั้น ทาง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่าหลังจากที่นายชวลิตถึงประเทศไทยในช่วงเวลาประมาณ 14.00 น. จะมีการส่งตัวนายชวลิตไปยังจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อเข้าสู่กระบวนการสอบสวน โดยจ้าหน้าที่ตำรวจจะควบคุมตัว 48 ชั่วโมง เนื่องจากเป็นการจับกุมตามหมายแดง ส่วนขั้นตอนหลังจากนั้น ทางอธิบดีกรมราชทัณฑ์จะขอตัวมาควบคุมตัวที่เรือนจำบางขวางหรือเรือนจำคลองเปรม เนื่องจากเป็นเรือนจำที่มีการควบคุม ซึ่งขณะนี้ขั้นตอนอยู่ระหว่างการประชุมหารือของรักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คาดว่าภายในสัปดาห์นี้น่าจะได้ข้อยุติ