ไม่มีมูล! ป.ป.ช.ตีตกคดี อดีตผู้ว่าฯ กระบี่-พวก ออกโฉนดที่ดิน ต.อ่าวนาง มิชอบ 

เผยมติ ป.ป.ช. เสียงเอกฉันท์ตีตกคดี 'ศิวะ ศิริเสาวลักษณ์' อดีตผู้ว่าฯ กระบี่-พวก ออกโฉนดที่ดิน ตำบลอ่าวนาง กระบี่ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยมิชอบ หลังพิจารณาสำนวนไต่สวนเบื้องต้นพยานหลักฐานไม่เพียงพอที่จะฟังได้ว่ากระทำความผิด ไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป 

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 30 เม.ย.2567 เสียงเอกฉันท์ตีตกข้อกล่าวหา นายศิวะ ศิริเสาวลักษณ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กับพวก ออกโฉนดที่ดินเลขที่ 50181 เลขที่ดิน 12 ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติและในเขตป่าไม้ถาวร โดยมิชอบ  

หลังพิจารณาสำนวนไต่สวนเบื้องต้นพยานหลักฐานไม่เพียงพอที่จะฟังได้ว่ากระทำความผิดตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป

คดีนี้ มีผู้ถูกกล่าวหา 4 ราย คือ 

1. นายศิวะ ศิริเสาวลักษณ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการ จังหวัดกระบี่ 

2. นายวิรัช ดวงแก้ว ตำแหน่งเจ้าพนักงานที่ดิน จังหวัดกระบี่

3. นายโกศล บุญพ่อมี

4. นายอุเส็น ติระนนท์

สำนักงาน ป.ป.ช. ระบุพฤติการณ์ที่กล่าวหาว่ากระทำผิดโดยสรุป ว่า ออกโฉนดที่ดินเลขที่ 50181 เลขที่ดิน 12 ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่โดยไม่ชอบ กล่าวคือ เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2552 นายโกศล บุญพ่อมี ได้ยื่นคำขอออกโฉนดที่ดินต่อเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดกระบี่ โดยอาศัยหลักฐาน ส.ค.1 เลขที่ 48 ซึ่งมีชื่อนายเหม บุตรแขก เป็นผู้แจ้งการครอบครองเมื่อ พ.ศ. 2498 และนายโกศลฯ อ้างว่าได้ซื้อที่ดินจากนายฤทธิ์ศักดา บุตรแขก (บุตรของนายเหมฯ) เมื่อ พ.ศ. 2540 แล้วครอบครองและทำประโยชน์เป็นสวนยางพารา สวนปาล์มน้ำมันตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แต่จากการวิเคราะห์ภาพถ่ายทางอากาศ พบว่าที่ดินที่ขอออกโฉนดไม่มีร่องรอยการทำประโยชน์ และอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าอ่าวนาง - หางนาค เป็นเขตเขามีความลาดชันเกิน 35 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งไม่สามารถออกโฉนดได้ จึงมีเหตุควรสงสัยอย่างยิ่งว่าที่ดินที่ขอออกโฉนดเป็นแปลงเดียวกับที่ดิน ส.ค.1 เลขที่ 48 หรือไม่ ซึ่งเจ้าพนักงานต้องตรวจสอบกับระวางแผนที่รูปถ่ายทางอากาศหรือระวางรูปถ่ายทางอากาศ ตามมาตรา 56/1 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน แต่ในวันที่ 30 มิถุนายน 2552 ผู้ถูกร้องกลับเสนอเรื่องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่โดยไม่ดำเนินการตามมาตรา 56/1 และลงนามในโฉนดที่ดินเลขที่ 50181 ในวันเดียวกัน

ผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ระบุว่า ที่ประชุมพิจารณาแล้ว มีมติเป็นเอกฉันท์ ด้วยคะแนน 5 เสียง เห็นชอบตามความเห็นของคณะผู้ไต่สวนเบื้องต้น ว่าจากการไต่สวนเบื้องต้น พบว่าจากการตรวจสอบทะเบียนครอบครองที่ดินซึ่งเก็บรักษาอยู่ที่กรมที่ดินก็ปรากฏชื่อนายเหม บุตรแขก แจ้งการครอบครองไว้ เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2558 เป็นสวนยางพารา เนื้อที่ 47-2-0 ไร่ และสกุลบุตรแขกก็เป็นชื่อสกุลดั้งเดิมที่พบมาก ในหมู่ที่ 3 และการสอบสวนเจ้าของที่ดิน เจ้าของที่ดินข้างเคียงในขณะนั้น ซึ่งเมื่อผ่านไประยะเวลานาน จึงเป็นการยาก ที่จะพิสูจน์ว่าข้างเคียงที่ดินในปัจจุบัน ตรงกันกับข้างเคียงตามที่แจ้งไว้ใน ส.ค. 1 เมื่อปี พ.ศ 2498 หรือไม่

จึงต้องอาศัยการสอบถามจากทายาทเจ้าของที่ดิน ทายาทที่ดินข้างเคียง รวมถึงบุคคลผู้สูงอายุดั้งเดิมในพื้นที่ มาประกอบการพิจารณา โดยปรากฏถ้อยคํายืนยันของทายาทผู้แจ้ง ส.ค. 1 ทายาทเจ้าของที่ดินข้างเคียง ผู้ปกครองท้องที่ และเจ้าของที่ดินในปัจจุบันต่างยืนยันว่าที่ดินดังกล่าวมีนายเหม บุตรแขก เป็นผู้ครอบครอง ทําประโยชน์ และเมื่อนํามาประกอบกับผลการอ่าน แปล ภาพถ่ายทางอากาศ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2510, 2519, 2527, 2538, 2542 และ 2545 พบว่ามีการทําประโยชน์ในที่ดินเต็มทั้งแปลง 

จึงเป็นข้อเท็จจริง ที่มีน้ำหนักเพียงพอให้เชื่อได้ว่า ตําแหน่งของ ส.ค. 1 เลขที่ 48 หมู่ที่ 3 อยู่ในบริเวณที่ได้นําไปออกโฉนดที่ดิน เลขที่ 50174, 50180 และ 50181 ตําบลอ่าวนาง อําเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่

นอกจากนี้ คณะกรรมการตรวจพิสูจน์ที่ดินตามกฎกระทรวงฉบับที่ 43 (พ.ศ. 2537) ต ได้ตรวจสอบพื้นที่ที่ขอออกโฉนดที่ดินแล้ว เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2552 ซึ่งผลการตรวจสอบปรากฏว่า มีการทําประโยชน์ในที่ดินที่ขอออกโฉนดจริง แต่หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี และผู้แทนจากสํานักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ ได้ทักท้วงว่าควรให้มีการอ่าน แปล ภาพถ่ายทางอากาศเพื่อพิสูจน์ร่องรอยการทําประโยชน์ก่อน แม้ไม่ปรากฏว่าสํานักงานที่ดินจังหวัดกระบี่ได้เสนอเรื่องให้มีการอ่าน แปล ภาพถ่ายทางอากาศ กลับเสนอให้ นายศิวะ ศิริเสาวลักษณ์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่พิจารณาอนุมัติให้ออกโฉนดที่ดินต่อไป โดยผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 เห็นชอบให้ออกโฉนดที่ดินให้แก่ผู้ขอได้ นายวิรัช ดวงแก้ว ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 เจ้าพนักงาน ที่ดินจังหวัดกระบี่ จึงได้ลงนามออกโฉนดที่ดินเลขที่ 50179 ให้แก่นายอุเห็น ติระนนท์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 4 และเลขที่ 50180 และ 50181 ให้แก่นายโกศล บุญพ่อมี ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2552 แต่เมื่อผลการตรวจสอบของคณะกรรมการฯ สอดคล้องกับผลการอ่าน แปล ภาพถ่ายทางอากาศ ของสํานักงาน ป.ป.ช. จึงเห็นว่า คณะกรรมการตรวจพิสูจน์ที่ดินตามกฎกระทรวงฉบับที่ 43 (พ.ศ. 2537) ตามคําสั่งจังหวัด กระบี่ ที่ 883/2550 ลงวันที่ 29 มิถุนายน 2550 รวมถึงผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 และที่ 2 ได้พิจารณาและมีความเห็น ไปตามข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่ปรากฏโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว

ดังนั้น จากการไต่สวนเบื้องต้น พยานหลักฐานไม่เพียงพอที่จะฟังได้ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 4 ราย ได้กระทำความผิดตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป