ก.คลังสหรัฐฯ สั่งคว่ำบาตร 3 ชาวจีน- 3 บริษัทไทย เอี่ยวบ็อตเน็ตขู่วางระเบิด ฉ้อโกงความช่วยเหลือโควิด ทำรัฐบาลสหรัฐฯสูญเสียนับพันล้านดอลลาร์
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวจากต่างประเทศไทยว่าเมื่อวันที่ 28 พ.ค. ที่ผ่านมา กระทรวงการคลังสหรัฐอเมริกาได้ประกาศคว่ำบาตรนิติบุคคล 3 แห่งในประเทศไทย และชาวจีนอีก 3 คน ด้วยข้อหาว่ากลุ่มบุคคลเหล่านี้มีส่วนในบ็อตเน็ตที่เป็นอันตราย ซึ่งจะเอื้อให้ผู้ควบคุมบ็อตเน็ตเหล่านี้กระทำการอาชญากรรมทางไซเบอร์ต่างๆได้ รวมถึงการขู่วางระเบิด และหลอกลวงเพื่อสมัครขอรับความช่วยเหลือในช่วงการระบาดของโควิด-19 ซึ่งพฤติการณ์ดังกล่าวทำให้รัฐบาลสหรัฐฯได้รับความสูญเสียไปเป็นมูลค่านับพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
(บ็อตเน็ตมีความหมายว่าเป็นกลุ่มของอุปกรณ์ที่ติดมัลแวร์และถูกเปลี่ยนเป็น Bot (ย่อมาจาก Robot) ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ เว็บแคม เราท์เตอร์ หรืออุปกรณ์อื่นๆ ในบ้าน เพื่อรอรับคำสั่งจากแฮ็กเกอร์ )
ตามข้อมูลของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ บ็อตเน็ตตัวนี้มีชื่อว่า 911 S5 ได้ทำการเข้าบุกรุกผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตประมาณ 19 ล้านไอพีแอดเดรส และยังเอื้อให้ผู้ใช้งานบ็อตเน็ตสามารถส่งแอปพลิเคชันหลอกลวงจำนวนนับหมื่นรายการที่เกี่ยวข้องกับการโครงการช่วยเหลือทางการเงินในช่วงโควิดและโครงการที่เกี่ยวกับกฎหมายความมั่นคงทางเศรษฐกิจ
“บ็อตเน็ตช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถกระทําการฉ้อโกงทางไซเบอร์อย่างกว้างขวางโดยใช้คอมพิวเตอร์เหยื่อที่ถูกบุกรุกซึ่งเชื่อมโยงกับที่อยู่ตามไอพีแอดเดรส” รายงานกระทรวงการคลังระบุ
ไอพีแอดเดรสที่ถูกบ็อตเน็ต 911 S5 โจมตี ยังพบว่ามีความเชื่อมโยงกับการขู่วางระเบิดทั่วสหรัฐฯในช่วงเดือน ก.ค. 2565
สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯหรือเอฟบีไอ, หน่วยสืบสวนคดีอาญากลาโหมหรือ DCIS,สํานักงานบังคับใช้กฎหมายด้านการส่งออกของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รวมไปถึงหน่วยงานพันธมิตรในสิงคโปร์และในไทยได้มีการร่วมมือกันเพื่อคว่ำบาตรทั้งบุคคลและนิติบุคคลเหล่านี้
ทางด้านของสํานักงานควบคุมทรัพย์สินต่างประเทศของกระทรวงการคลังสหรัฐฯหรือ OFAC ได้ระบุว่าบุคคลจำนวน 3 คนได้แก่นายหยุนเหอหวัง (Yunhe Wang), นางจิงผิงหลิว (Jingping Liu), และ นายเหยียนหนี่เจิ้ง (Yanni Zheng) ทั้ง 3 คนนี้ นั้นเป็นเป้าหมายของการคว่ำบาตรเนื่องจากพวกเขามีส่วนเชื่อมโยงกับบ็อตเน็ตที่เป็นอันตรายที่ผูกกับพร็อกซีซึ่งเป็นบริการบ็อตเน็ตซึ่งรู้จักกันในชื่อ 911 S5
OFAC ยังได้มีการคว่ำบาตรนิติบุคคลอีกสามแห่งชื่อว่าบริษัท Spicy Code Company Limited, บริษัท Tulip Biz Pattaya Group Company Limited, และบริษัท Lily Suites Company Limited ซึ่งทั้งสามบริษัทเป็นบริษัทในไทยที่อยู่ภายใต้การควบคุมของนายหยุนเหอหวัง โดยมีรายงานว่า 3 บริษัทนี้ได้มีส่วนในการเข้าไปซื้อคอนโดมิเนียมที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี
“บุคคลเหล่านี้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีบ็อตเน็ตที่เป็นอันตรายเพื่อเข้าบุกรุกอุปกรณ์ใช้งานส่วนตัวทําให้อาชญากรไซเบอร์สามารถหาผลประโยชน์จากความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจที่มีไว้สําหรับผู้ที่ต้องการและข่มขู่พลเมืองสหรัฐฯด้วยการขู่วางระเบิดได้” นายไบรอัน อี เนลสัน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐ ฝ่ายต่อต้านการก่อการร้ายและข่าวกรองทางการเงินกล่าว
โดยผลจากการคว่ำบาตร ตามประกาศนี้ จะทำให้ทรัพย์สินและผลประโยชน์ทั้งหมดของบุคคลและนิติบุคคลซึ่งอยู่ในสหรัฐอเมริกาหรืออยู่ในความครอบครองหรือการควบคุมของบุคคลในสหรัฐอเมริกาจะต้องถูกอายัดและรายงานไปยัง OFAC