ศาล รธน. มีมติ 5 ต่อ 4 'เศรษฐา' ไม่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ปมตั้ง 'พิชิต ชื่นบาน' เป็นรัฐมนตรี ขีดเส้น 15 วัน ส่งเอกสารชี้แจงข้อกล่าวหา หลังถูก 40 สว.ยื่นสอบคุณสมบัติ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวเกี่ยวกับกรณีที่ 40 สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ได้ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญให้เข้าชื่อผ่านประธานวุฒิสภาส่งต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และนายพิชิต ชื่นบาน อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ จากกรณีที่นายเศรษฐาได้แต่งตั้งนายพิชิตเป็นรัฐมนตรี ด้วยการเลี่ยงและบิดเบือนข้อเท็จจริงในการให้ข้อมูลแก่สังคมและประชาชน ทำให้เข้าใจผิดว่าคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจสอบคุณสมบัติของนายพิชิต เรียบร้อยแล้วว่าไม่ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งหมายความรวมถึงไม่ขาดคุณสมบัติตามมาตรา 160 (4) และ (5)
ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 12.00 น.ศาลรัฐธรรมนูญได้มีมติ 6 ต่อ 3 ให้นายเศรษฐาส่งเอกสารชี้แจงข้อกล่าวหาภายในระยะเวลา 15 วัน และศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 5 ต่อ 4 เสียงระบุว่านายเศรษฐาต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่แต่อย่างใด
โดยเอกสารของศาลรัฐธรรมนูญระบุว่า ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้องแล้วเห็นว่า กรณีเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 วรรคหนึ่ง และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 7 (9)
ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก 6 ต่อ 3 เสียง (ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างน้อย ได้แก่ นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ นายอุดม รัฐอมฤต และนายสุเมธ รอยกุลเจริญ) มีคำสั่งรับคำร้องผู้ถูกร้องที่ 1 (นายเศรษฐา)ไว้พิจารณา และให้ผู้ถูกร้องที่ 1 ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้องตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 54
สำหรับกรณีของผู้ถูกร้องที่ 2 (นายพิชิต)ได้มีคำร้องของผู้ถูกร้องที่ 2 ลงวันที่ 23 พฤษภาคม 2567 แจ้งว่า เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2567 ผู้ถูกร้องที่ 2 ได้ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแล้ว ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า เมื่อความเป็นรัฐมนตรีของผู้ถูกร้องที่ 2 สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (2) กรณีไม่มีเหตุที่จะต้องวินิจฉัยคดีต่อไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 51
ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก 8 ต่อ 1 เสียง (ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างน้อย นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม) มีคำสั่งไม่รับคำร้องเฉพาะส่วนของผู้ถูกร้องที่ 2ไว้พิจารณาวินิจฉัย
ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณากรณีขอให้ผู้ถูกร้องที่ หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคสอง แล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้อง ในชั้นนี้ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก 5 ต่อ 4 เสียง (ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างน้อย นายปัญญา อุดชาชน นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม นายวิรุฬห์ แสงเทียน และนายจิรนิติ หะวานนท์) ไม่สั่งให้ผู้ถูกร้องที่ 1 หยุดปฏิบัติหน้าที่ แจ้งให้คู่กรณีทราบ