เกาหลีใต้ออกประกาศเตือนนักท่องเที่ยวระวังตัวเมื่อเดินทางมายังประเทศไทย แนะหลีกเลี่ยงร้านขายกัญชา หลังเกิดเหตุฆาตกรรมที่พัทยา คาดเชื่อมโยงกับกัญชา ชี้ชัดนโยบายกัญชาถูกกฎหมายทำไทยเป็นพื้นที่อันตราย ขณะสถานทูตเกาหลีประจำประเทศไทยแนะติดต่อสถานทูตหากสงสัยว่าเกิดเหตุคนหาย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวกรณีทางสถานทูตเกาหลีใต้ประจำประเทศไทยเตือนนักท่องเที่ยวเกาหลีใต้ให้ระวังตัวเมื่อเดินมายังประเทศไทย และหลีกเลี่ยงจากร้านขายกัญชาต่างๆ
สำนักข่าว Koreatimes รายงานข่าวว่าเหตุฆาตกรรมนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีที่พัทยา มีผู้ก่อเหตุคือชาวเกาหลีอีกคน สิ่งนี้ทำให้มีการออกคำแนะนำการเดินทางกับนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีที่จะมายังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยให้ระวังชาวเกาหลีเพื่อนร่วมชาติในภูมิภาค แม่ว่าการก่อเหตุที่ว่านี้จะลดลงในช่วงการระบาดใหญ่ก็ตาม
มีการเตือนชาวเกาหลีที่มาฟิลิปปินส์ให้ระวังกรณีกรรโชกทรัพย์ และเตือนชาวเกาหลีที่มาประเทศไทยให้ระวังเหตุอาชญากรรมรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งอาชญากรรมที่ว่ามานี้เชื่อมโยงกับการทำให้กัญชาถูกกฎหมาย
เหตุฆาตกรรมที่ว่านี้เกิดเมื่อวันที่ 11 พ.ค. นักท่องเที่ยวเกาหลีถูกฆาตกรรมอย่างโหดร้าย แสดงให้เห็นถึงปัญหาอาชญากรรมที่ร้ายแรง
โดยในช่วงก่อนการระบาดใหญ่ของโควิด-19 วัฒนธรรมการพนันและสถานบันเทิงยามค่ำคืน ทำให้จุดรวมตัวของกลุ่มอาชญากรรมพุ่งเป้าไปยังชาวเกาหลี
ประเทศไทยกลายเป็นพื้นที่อันตราย โดยเฉพาะปัญหายาเสพติด เนื่องจากในเดือน มิ.ย. 2565 ประเทศไทยได้ออกกฎหมายการใช้กัญชาอย่างมีประสิทธิภาพโดยนํากัญชาออกจากรายการยาเสพติด
ผลกระทบด้านลบจากการออกกฎหมายดังกล่าวนั้นมีมาอย่างรวดเร็ว โดยชาวต่างชาติตกเป็นเหยื่อมากขึ้น เมื่อปีที่แล้วนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตหลังจากดื่มชากัญชาที่ร้านกาแฟกัญชาบนถนนคนเดินพัทยากลาง
มีรายงานว่านักท่องเที่ยวชาวเกาหลีที่เสียชีวิตนั้นอาจจะตกเป็นเหยื่อของยาเสพติด เนื่องผู้กระทำผิดได้เรียกเงินค่าไถ่เป็นจำนวน 11.2 ล้านวอน (299,431 บาท) จากแม่ของผู้เสียชีวิต โดยอ้างว่า “ลูกของคุณทิ้งยาเสพติดผิดกฎหมาย และได้รับผลกระทบที่ตามมา”
ขณะที่นายลี ชายชาวเกาหลีรายหนึ่งในวัย 30 ปี อาชีพพนักงานออฟฟิศ ได้ให้สัมภาษณ์ว่าตัวเขาเคยวางแผนมาเที่ยวประเทศไทยช่วงฤดูร้อน แต่เขาอาจจะเปลี่ยนใจแล้ว เพราะกังวล ไม่เพียงแต่เหตุการณ์ที่เคยถูกนำเสนอบนภาพยนตร์เท่านั้นแต่ยังมีเรื่องของอาชญากรรมเลียนแบบด้วย
ทางสถานทูตเกาหลีหลายแห่งเองก็ได้มีการออกประกาศเตือนภัยในระดับสูงเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวชาวเกาหลี โดยสถานทูตเกาหลีประจำประเทศไทยได้ให้คำแนะนำว่า “ควรตรวจสอบสัญลักษณ์ที่เกี่ยวกับกัญชาหรือส่วนผสมกัญชาที่อยู่ในผลิตภัณฑ์และอยู่ในเมนูอาหาร และควรระวังร้านที่ขายผลิตภัณฑ์โดยเฉพาะในด้านกัญชา”
โดยถ้าหากมีกรณีต้องสงสัยว่าจะมีการหายตัวไปเกิดขึ้น เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องแจ้งตำรวจท้องถิ่นหรือไม่ก็สถานทูต
สถานทูตเกาหลีประจำประเทศไทยยังได้กล่าวว่าตำรวจไทยจะรับแจ้งความคนหายหลังจากไม่มีการติดต่อ 24 ชั่วโมงเท่านั้น และจําเป็นอย่างยิ่งที่ผู้ซึ่งมีความกังวลจะต้องรายงานโดยตรงต่อหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในท้องถิ่น
ดังนั้นในเบื้องต้นผู้ที่มีความกังวลควรแจ้งความดำเนินคดีไปยังสถานีตำรวจเกาหลีที่เกี่ยวข้องและแจ้งสถานทูตในพี้นที่เพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานะของคนหาย
เรียบเรียงจาก:https://www.koreatimes.co.kr/www/nation/2024/05/113_374835.html