กลุ่มแพทย์อินเดียจี้ รบ.อินเดียทบทวนผลข้างเคียงวัคซีนโควิดทั้งหมด พร้อมตั้งศาลพิเศษด้านวัคซีน หลังแอสตร้าเซนเนก้าเรียกคืนวัคซีนป้องกันโควิด-19 ทั่วโลก ย้ำที่ผ่านมา รบ.ละเลยเหตุผู้เสียชีวิตหลังฉีดวัคซีนป้องกันโควิด
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์วัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ในต่างประเทศว่าสืบเนื่องจากที่บริษัทแอสตร้าเซนเนก้ายอมรัฐในชั้นศาลอังกฤษว่าวัคซีนป้องกันโควิดของบริษัทนั้นสามารถทำให้เกิดผลข้างเคียงลิ่มเลือดได้เป็นบางกรณี ซึ่งโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยมาก ล่าสุดเมื่อวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา กลุ่มทีมแพทย์ในอินเดียได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของวัคซีนโควิชิลด์ (Covishield) ที่ผลิตโดยสถาบันเซรั่มแห่งอินเดีย ซึ่งเป็นหนึ่งในวัคซีนของบบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าที่ผลิตที่อินเดีย
โดยในงานแถลงข่าว ทีมแพทย์ที่รวมตัวกันในชื่อกลุ่มว่า Awaken India Movement (AIM) ได้เตือนไปยังรัฐบาลให้มีการทบทวนข้อมูลทางวิทยาศาสตร์เบื้องหลังวัคซีนทั้งหมดและตรวจสอบการค้าวัคซีนเหล่านี้ ตลอดจนการใช้กลไกการเฝ้าระวังและติดตามเชิงรุกเพื่อให้แน่ใจว่ามีการระบุเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์จากวัคซีนโดยเร็วที่สุด
“รัฐบาลเพิกเฉยต่อจํานวนผู้เสียชีวิตที่น่าเศร้าที่เพิ่มขึ้นหลังการฉีดวัคซีนโควิดมาโดยตลอด และยังคงส่งเสริมวัคซีนโควิดว่า 'ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ' โดยไม่มีการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์และทางระบาดวิทยา” นพ.ทารุน โกธารี (Tarun Kothari) นักรังสีวิทยาและนักเคลื่อนไหวกล่าวในงานแถลงข่าว
นพ.โกธารีกล่าวต่อไปว่าโลกกําลังรับรู้เกี่ยวกับผลข้างเคียงของวัคซีนโควิดที่เรียกว่า ภาวะหลอดเลือดมีลิ่มเลือดกับกลุ่มอาการเกล็ดเลือดต่ำ หรือ Thrombocytopenia Syndrome (TTS)
ทางด้าน พญ. สุชาตา มิตตาล (Sujata Mittal) นรีแพทย์และแพทย์ด้านเนื้องอกวิทยากล่าวว่าเมื่อมีการฉีดวัคซีนโควิด-19 คนจำนวนไม่น้อยที่ทราบดีว่าวัคซีนนั้นไม่ได้เสร็จสิ้นการทดลองในระยะที่ 3 อีกทั้งการบริหารวัคซีนเริ่มต้นขึ้นโดยที่ผู้ผลิตไม่มีข้อมูลที่ครบถ้วนเกี่ยวกับผลข้างเคียงหรือการเสียชีวิตที่อาจเกิดขึ้นในระยะสั้นหรือระยะยาว โดยมีรายงานว่าผู้หญิงหลายคนได้รับความผิดปกติในรอบประจําเดือน ซึ่งได้รับการยืนยันในภายหลังว่าเป็นผลข้างเคียงของวัคซีนในการศึกษาที่ตีพิมพ์ในเดือนกันยายน 2565
“เรายังเรียกร้องให้จัดตั้งศาลช่องทางพิเศษและศาลวัคซีนเพื่อให้ความยุติธรรมอย่างรวดเร็วแก่ผู้บาดเจ็บจากวัคซีนและครอบครัวของพวกเขา” พญ.มิตตาลกล่าว
อนึ่งการเคลื่อนไหวของ AIM เกิดขึ้นหลังจากที่บริษัทแอสตร้าเซนเนก้าที่อังกฤษได้มีการเรียกคืนวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของตัวเองทั่วโลก โดยวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าที่มีการแจกจ่ายในอินเดียมีชื่อว่าโควิชิลด์ และเป็นวัคซีนที่ทางแอสต้ราเซนเนก้าได้ดำเนินการร่วมกับสถาบันเซรั่มแห่งอินเดีย โดยการเรียกคืนวัคซีนป้องกันโควิด-19 เกิดขึ้นหลายวันหลังจากที่ทางบริษัทยอมรับกรณีผลข้างเคียงวัคซีนที่หากดังกล่าว