‘พิชิต ชื่นบาน’ รมต.สำนักนายกฯ ร่ายยาวขอโอกาสสื่อมวลชนทำงาน รับสิ่งที่ถูกกล่าวหาเป็นอุบัติเหตุของชีวิต ให้หน่วยงานที่มีคนไปยื่นร้องเรียนเป็นผู้พิสูจน์ ปัด ‘ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์’ พามาถึงตำแหน่งรัฐมนตรี ชี้ตัวเองก็มีความสามารถ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 7 พฤษภาคม 2567 นายพิชิต ชื่นบาน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นัดสื่อมวลชนแถลงข่าวที่ทำเนียรัฐบาล
ตอนหนึ่ง นายพิชิตระบุว่า วันนี้ปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นวันแรก ซึ่งจากการประชุม ครม.วันนี้ ได้มีมติมอบหมายงานสำคัญให้กับตน คือ เป็นผู้ตรวจร่างมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) รวมถึงดูเรื่องกฎหมายเสนอนายกรัฐมนตรี ก่อนนำเข้าสู่ ครม. นอกจากนี้ ยังมีคำสั่งมอบหมายให้ดูแลรับผิดชอบสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ราชบัณฑิตยสถาน และองค์กรมหาชนที่พระนคร ถือเป็นหน้าที่ที่จะต้องทำให้ดีที่สุด ยืนยันว่า รักประเทศชาติไม่น้อยกว่าคนอื่น และจะทำหน้าที่ให้บรรลุเป้าหมาย
นายพิชิต กล่าวต่อว่า เคยอยู่ที่นี่มา 6 - 7 เดือนแล้ว ในฐานะที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เพราะฉะนั้นไม่ใช่คนหน้าใหม่ ซึ่งที่ผ่านมาอยู่ในที่ประชุม ครม.ตลอดไม่เคยขาด แม้แต่ครั้งเดียว รวมถึงการประชุมครม.สัญจรในจังหวัดต่างๆ ได้รับรู้นโยบายของรัฐบาล และความตั้งใจของนายกรัฐมนตรี ที่จะทำตามนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภา ดังนั้น ไม่จำเป็นต้องเรียนรู้เรื่องงาน ขอให้สบายใจได้ สื่อจะเห็นว่าตั้งแต่อยู่มา ก็อยู่ด้วยความสงบเรียบร้อย ตั้งหน้าตั้งตาทำงาน วันนี้แม้จะเปลี่ยนตำแหน่ง แต่ก็ยังนั่งอยู่ที่ห้องทำงานชั้น 2 เหมือนเดิม
“ยืนยันว่าที่ผ่านมาทำงานไม่เคยหยุด แม้จะไม่ใช่นักกฎหมายแพ่ง อาญา แต่ตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดิน และมีความรู้เรื่องรัฐธรรมนูญ กฎหมายพรรคการเมือง มีทีมงานช่วยตลอด และทำมาอย่างน้อย 6 - 7 ปี เพราะฉะนั้นกรอบงานของตนคงเป็นเรื่องเกี่ยวกับกฎหมาย และขอให้คำสัญญาว่าจากที่สื่อเคยเจอตนแต่ที่ประตูด้านหลัง จากนี้ตนจะขึ้นประชุม ครม.ด้านหน้าตึกบัญชาการทุกครั้ง ถ้ามีอะไรคุยกันได้ทุกเรื่องแบบพี่น้องเพื่อสื่อสารให้เป็นประโยชน์ต่อประชาชน” นายพิชิตกล่าว
@ฟื้นศูนย์ร้องเรียนประชาชน ‘ทำเนียบช่วยได้'
นายพิชิต กล่าวต่อว่า วันนี้จะ Kick Off Quick Win ในฐานะที่ตนรับผิดชอบสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี พลิกฟื้นศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์จากประชาชน ภายใน 30 วัน ซึ่งอยู่ภายใต้โครงการ "ทำเนียบช่วยได้" เพราะทำเนียบต้องเป็นที่พึ่งของประชาชน โดยจะรับแจ้งเบาะแสอาชญากรรม ทุกประเภท และตนพร้อมรับเรื่องเพื่อไปติดตามงาน ทั้งต้นน้ำและปลายน้ำ ซึ่งจะนำผลมาแจ้งให้ประชาชนทราบ
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ยืนยันว่าจากนี้จะเริ่มสตาร์ทเครื่องได้เลยเพราะรู้ทันนโยบาย และข้อสั่งการของนายก ในแต่ละเรื่อง เก็บข้อมูลทุกอย่างทั้งเรื่องยาเสพติดและพนันออนไลน์ ซึ่งปัญหาเหล่านี้ทำเนียบจะช่วยได้ ตนก็เปรียบเสมือนมือไม้ของนายกรัฐมนตรี แล้วจะเอาข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีมาทำเป็นโครงการ "ทำเนียบช่วยได้" ด้วยการสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน
นายพิชิต กล่าวว่า นอกจากนี้ จะไปทำความเข้าใจกับทางสำนักพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) รวมถึงพระเถระชั้นผู้ใหญ่ และจะเดินทางไปรับทราบนโยบาย จาก พศ.ทันที และต้องขอบคุณ นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ได้ไปประชุมการจัดงานวันวิสาขบูชา และจัดงานวันวิสาขบูชาโลก
@ยกมือไหว้ ขอโอกาสทำงาน
นายพิชิต กล่าวถึงกรณีที่มีผู้ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรีกับหน่วยงานต่างๆ ว่า
"ชีวิตผม สิ่งที่ทุกฝ่ายตั้งข้อสงสัย ทุกคนมันมีอุบัติเหตุในชีวิตได้ 6 - 7 เดือนที่ผ่านมา สื่อให้พื้นที่ผมมาก ผมเคยอธิบายผ่านสื่อต่างๆ อย่างชัดแจ้ง ถ้าให้ความเป็นธรรมกับชีวิตผม ไปศึกษาเรื่องราวต่างๆ ให้ดี พอจะทราบว่ามันเกิดอะไรขึ้น ถ้าผมเป็นคนไม่ดีอย่างที่มีการกล่าวหา คนที่ชื่อ พิชิต ชื่นบาน จะไม่เดินเข้าทำเนียบฯ ผมมั่นใจว่า 10 กว่าปีที่ผ่านมา หัวใจของผมมั่นใจว่าไม่ใช่คนผิด ไม่ใช่คนชั่วร้าย จึงทำให้ชีวิตผมยืนอยู่ได้ด้วยความรู้ความสามารถ ถ้าผมไม่มีความรู้ความสามารถ คงไม่มีใครให้ผมมายืนได้ ผมทำงานกับนายกฯ มาหลายคน วันนี้ขอพูดจากใจ. (ยกมือไหว้ต่อหน้าสื่อมวลชน) ขอโอกาสประชาชนให้ผมได้ทำงาน”
@ปมร้องเรียน ให้หน่วยงานต่างๆออกมาวินิจฉัยดีกว่า
นายพิชิต กล่าวว่า ประเด็นต่างๆ เคารพฝ่ายที่ตั้งข้อสงสัย โดยเฉพาะการเมืองภาคประชาชนที่ไปยื่นเรื่องต่อองค์กรต่างๆ อาทิ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้รอฟังดุลยพินิจของแต่ละหน่วยงานจะว่าอย่างไรทุกอย่างให้เป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย วันนี้ขอก้าวไปทำงานจากหัวใจที่ออกมาพูดโดยไม่มีสคริป
เมื่อถามอีกว่า กังวลหรือไม่ที่มีการยื่นเรื่องต่อองค์กรต่างๆ จะไปกระทบถึงนายกฯที่เป็นคนเสนอแต่งตั้ง นายพิชิต กล่าวว่า ปล่อยให้หน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมายได้ใช้ดุลยพินิจดีกว่า เราอยู่กับปัจจุบัน ขอทำหน้าที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ให้ดีที่สุด และไม่กระทบกับการทำงาน เพราะตนมีสมาธิสูง
เมื่อถามว่า หากถอดหมวกความเป็นนายพิชิตออกแล้วมองในฐานะนักกฎหมาย มองว่าสิ่งที่ถูกร้องมีความผิดหรือไม นายพิชิต ตอบว่า คิดไม่ได้เพราะมีส่วนได้เสีย รอให้หน่วยงานต่างๆ วินิจฉัยดีกว่า ไม่คิด ถ้าคิดก็เข้าข้างตัวเองจะไปคิดทำไม เราคิดอย่างเดียวถ้าไม่มีปัญญาอย่ามายืนอยู่ตรงนี้
เมื่อถามว่า หลังจากนี้ถ้ามีคนออกมาวิพากษ์วิจารณ์เรื่องคุณสมบัติจะฟ้องร้องหรือไม่ นายพิชิต กล่าวว่า ขอปล่อยให้หน่วยงานที่ตรวจสอบอยู่ได้ทำหน้าที่ดีกว่า ตอนนี้ใจตนที่กำกับสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สิ่งที่ดีที่สุดคือการให้อภัย การอโหสิกรรม โมทนาบุญ เอาเป็นว่า ว่ากันได้เลย แต่ตอนนี้ต้องให้ความเป็นธรรม นับแต่วันนี้ขอให้ดูการทำงาน
@มาเพราะความสามารถ ‘ทักษิณ-ปู’ ไม่เกี่ยว
เมื่อถามว่า หวั่นไหวหรือไม่ที่มีคนมองกันว่าการเข้ารับตำแหน่งครั้งนี้เพราะมีความใกล้ชิด นายทักษิณ และ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ นายพิชิต ตอบว่า ตนยืนตรงนี้ได้เพราะความรู้ความสามารถ ทุกคนมีสิทธิคิด ถ้าตนไม่มีความรู้ความสามารถไม่มีใครให้ตนมายืนตรงนี้ เรื่องการบริหารราชการแผ่นดินไม่ใช่เรื่องเส้นสาย หรือเอาพวกเอาพ้อง และหน่วยงานที่ตนได้รับมอบหมายให้กำกับดูแล ถ้าไม่มีความรู้ตนไม่เข้ามาขอให้สบายใจได้
เมื่อถามอีกว่า มองหรือไม่ว่าจะเป็นสายล่อฟ้าของคณะรัฐมนตรี นายพิชิต กล่าวว่า ตนมองตัวเองว่าเป็น พิชิต ชื่นบาน ที่พร้อมพิสูจน์ตัวเองด้วยผลงาน
เมื่อถามว่า ทำไมไม่ได้รับมอบหมายให้ดูสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา นายพิชิต กล่าวว่า คิดว่างานที่ได้รับมอบหมายก็หนักพออยู่แล้ว และตนก็ทำงานประสานกับเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาได้อยู่แล้ว
เมื่อถามอีกว่า ก่อนหน้านี้รัฐบาลเคยเสนอให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาดูคุณสมบัติของนายพิชิต ในเรื่องข้อกฎหมาย แต่ไม่ได้ดูเรื่องจริยธรรมตามรัฐธรรมนูญมาตรา 160 (4)(5) นายพิชิต กล่าวว่า ตนคิดว่าเขาดูทั้งหมดการกระทำทางฝ่ายบริหารมีการดูหลายหน่วยงาน "แต่ผมมั่นใจ ในความเป็น พิชิต ชื่นบาน ผมเป็นคนดี และตั้งใจทำงาน ขอเอาผลงานเป็นเรื่องพิสูจน์"
เมื่อถามอีกว่า ยืนยันได้หรือไม่ว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ นายพิชิต กล่าวว่า "อย่างที่บอก ถ้าคุณบอกว่าตัวเองเป็นคนดี อีกคนบอกว่าคุณเป็นคนไม่ดี แต่เพื่อนของคุณบอกว่าคุณเป็นคนดี อันนี้ถือเป็นเรื่องนามธรรม รักกันชอบกันมีฝักมีฝ่าย สมาธิผมสูง 6 - 7 ปี ทำงานมาเยอะ ไปถามได้คนที่รู้จักผม ว่าผมเป็นคนอย่างไร ผมอยู่ในจุดที่พิสูจน์หัวใจของตัวเองมาแล้วว่าผมไม่หวั่นไหว แม้มีอะไรมาล่อใจจึงยืนได้อยู่ทุกวันนี้"