ปปง.ยึดเงินสด 80 ล.เครือข่ายแก๊งไฮบริดสแกม‘วาสนา อ่ำสุวรรณ’ กับพวก ตั้งฐานชายแดนปท.เพื่อนบ้านหลอกลวงเหยื่อให้ลงทุนซื้อขายแลกเปลี่ยนเหรียญคริปโทเคอร์เรนซีผ่านเว็บฯ เสียหาย 139.8 ล. โอนเงินทอโอนเงินทอดๆเข้าบัญชี 30 ราย พร้อมให้ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอรับเงินคืนชดใช้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) คำสั่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ที่ ย. 92 / 2567 วันที่ 17 เม.ย.2567 เรื่อง ยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว รายกลุ่มเครือข่ายองศ์กรอาชญากรรมไฮบริดสแกมข้ามชาติ (ชื่อบัญชี นางสาววาสนา อ่ำสุวรรณ กับพวก) เงินสด จำนวน 80 ล้านบาท ผู้ถือกรรมสิทธิ์และผู้ครอบครอง นายกิตติ์ธเนศ บุลชัยเตโชพัฒน์ มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน ความผิดเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมที่มีกฎหมายกำหนดเป็นความผิด และความผิดฐานฟอกเงิน โดยหลอกลวงให้ผู้เสียหายลงทุนในการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลหรือเหรียญคริปโทเคอร์เรนซีผ่านแพลตฟอร์มต่าง 1 ที่กลุ่มเครือข่ายดังกล่าวได้สร้างขึ้น โดยให้ผู้เสียหายโอนเงินลงทุนไปยังบัญชีเงินฝากธนาคารที่เปิดไว้เพื่อใช้รับโอนเงิน และส่งต่อไปยังบัญชีเงินฝากธนาคารอื่นซึ่งใช้ในการกระทำความผิดต่อไปเป็นทอด ๆ ตั้งแต่วันที่ 28 พฤษภาคม 2564 ถึงวันที่ 15 ธันวาคม 2566 จำนวน 30 ราย
ขณะเดียวกันราชกิจจานุเบกษา วันที่ 29 เม.ย.2567 เผยแพร่ ประกาศสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเรื่อง ให้ผู้เสียหายยื่นคำร้องเพื่อขอรับคืนหรือชดใช้คืนซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดหรือชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหายในความผิดมูลฐานราย กลุ่มเครือข่ายองศ์กรอาชญากรรมไฮบริดสแกมข้ามชาติ (ชื่อบัญชี นางสววาสนา ย่ำสุวรรณ กับพวก) ยื่นคำร้องเพื่อขอรับคืนหรือขดใช้คืนซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดหรือชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหายในความผิดมูลฐานต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินภายใน 90วัน
เนื้อหาระบุว่า กลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ได้หลอกลวงให้ผู้เสียหายลงทุนในการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลหรือเหรียญคริปโทเคอร์เรนซีผ่านแพลตฟอร์มต่าง 1 ที่กลุ่มเครือข่ายดังกล่าวได้สร้างขึ้น โดยให้ผู้เสียหายโอนเงินลงทุนไปยังบัญชีเงินฝากธนาคารที่เปิดไว้เพื่อใช้รับโอนเงิน และส่งต่อไปยังบัญชีเงินฝากธนาคารอื่นซึ่งใช้ในการกระทำความผิดต่อไปเป็นทอด ๆ ตั้งแต่วันที่ 28 พฤษภาคม 2564 ถึงวันที่ 15 ธันวาคม 2566 ซึ่งประกอบด้วยชื่อบัญชี ดังนี้
1.นางสาววาสนา อ่ำสุวรรณ2.นายฐานวัฒน์ พีริยพัชรรัฐ 3.นายวายุ สว่างภพ4.นางสาวสุภาพร แสนสุข 5.นางสาวจุฑาทิพย์ หาญณรงค์ 6.นายวันชัย สีม่วง 7.นางสาวรุ้งตะวัน ศรีวัจนะ 8.นายสหัสวรรษ มีบุญ 9.นางสาวสุภาวดี กุลคำแสง 10.นายฤทธิ์ชัย สุธรรม
11.นายวศิษฎ์ ชลอำนวย 12.นางสาวกัญญาภัค แสนไทย 13.นายวีรวัชร์ อภิฉัตรนิรันดร์ 14.นายนพสิทธิ์ ล้ำเลิศอภิวงศ์ 15.นายนภนต์ โสมทอง 16.นายเนตีพน โสมทอง 17.นายพงศธร พงษ์วิจารย์ 18.นางสาวปั่นมนัส เชิงหอม 19.นายชิตพล ช่วยสุ่น 20.นายอภิสิทธิ์ ตระกูลมา
21.Mr. QIUJIAN YANG 22.Mrs. MENG XUE 23.Mr. CHENG - HAN HSIEH 24.Miss ZHOU LU 25.Mr. QINGBO TANG 26.Mr. YIN HONGZHI 27.Mr. HAN LIN ZHANG 28.Mr. JULIAN FOO JU MIN 29.Mr. GUIYANG LUO 30.FANFAN ZHANG
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 49/1 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2565 และข้อ 3 แห่งกฎกระทรวงการคืนหรือการชดใช้คืนซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดและการชดดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหายในความผิดมูลฐาน พ.ศ. 2567 จึงขอให้บุคคลผู้ได้รับความเสียหาย โดยตรงจากการกระทำความผิดมูลฐานในรายคดีดังกล่าวและไม่มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดนั้น ยื่นคำร้องเพื่อขอรับคืนหรือชดใช้คืนซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดหรือชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหายในความผิดมูลฐานต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินภายใน 90วัน (เก้าสิบวัน) นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา ดูคำสั่งในลิงก์https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/27769.pdf
ทึ่มาคำสั่ง ปปง.ยึด 80 ล.
สำหรับคำสั่งปปง.ยึดดเงินสด 80 ล้านบาทมีรายละเอียดดังนี้
ด้วยสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง) ได้รับรายงานจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล ตามเลขรับสำนักงาน ปปง. ที่ 3086 ลงวันที่ 30 มกราคม 2566และรายงานจากศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตามหนังสือที่ ตช 0066/1374 ลงวันที่ 10 เมษายน 2566 เรื่อง รายงานการกระทำความผิดฐานมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และแจ้งกำหนดการปฏิบัติการจับกุมและยึดทรัพย์เครือข่ายแก๊งไฮบริดสแกมและตามหนังสือที่ ตช 0066/283 ลงวันที่ 24 มกราคม 2567 เรื่อง รายงานการกระทำความผิดฐานมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และแจ้งรายละเอียดการจับกุมและยึดทรัพย์เครือข่ายแก๊งไฮบริดสแกม ซึ่งเป็นกรณีมีพฤติการณ์แห่งการกระทำความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา ความผิดเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมที่มีกฎหมายกำหนดเป็นความผิดและความผิดฐานฟอกเงิน กล่าวคือ
แฉตั้งฐานชายแดน สปป.ลาว
นายสุธี รักสันติภาพ ผู้เสียหาย ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลบางเขน เพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มเครือข่ายที่หลอกลวงให้ลงทุนแลกเปลี่ยนเหรียญคริปโทเคอร์เรนซี ผ่านเว็บไซต์ https:/www.ontos.vip รวมมูลค่าความเสียหายทั้งสิ้น 139,850,000 บาท ซึ่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลบางเขนรับไว้เป็นคดีอาญาที่ 1471/2565
จากการตรวจสอบ และสืบสวนเส้นทางการเงินของเจ้าพนักงานตำรวจ พบกลุ่มบุคคลที่รับโอนเหรียญคริปโทเคอร์เรนชี ซึ่งประกอบด้วย นางสาววาสนา ร่ำสุวรรณ นางสาวอัจฉรา เหล่าเกษกรรม และนายนิติ เตชอภิโซค จากการสืบสวนพบว่ามีความเชื่อมโยงกับแก๊งไฮบริดสแกม ซึ่งมีฐานที่ตั้งอยู่ที่ชายแดนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
ต่อมา เจ้าพนักงานตำรวจได้ดำเนินการสืบสวนขยายผลจนพบความเชื่อมโยงกับกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมไฮบริดสแกมข้ามชาติเพิ่มเติมเป็นจำนวนมาก กล่าวคือ
โยงคดีเงินสด 80 ล. แม่สอด
จากการสืบสวนเส้นทางการเงินของเจ้าพนักงานตำรวจ กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 พบความเชื่อมโยงกับกลุ่มเครือข่ายที่หลอกลวงให้ลงทุนในเหรียญคริปโทเคอร์เรนซีบนแพลตฟอร์มที่สร้างขึ้น สำหรับใช้ในการหลอกลวงผู้เสียหายในลักษณะไฮบริดสแกม ในคดีอาญาที่ 462/2564 ของสถานีตำรวจนครบาลดินแดง คดีอาญาที่ 727/2564 ของสถานีตำรวจภูธรหนองขาม และคดีอาญาที่ 452/2565 ของสถานีตำรวจนครบาลศาลาแดง ผ่านบัญชีไบแนนซ์ของนายวศิษฎ์ ชลอำนวย กับพวก ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาที่ 1858/2566 ลงวันที่ 16 มิถุนายน 2566 ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนอันเป็นปกติธุระโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น ร่วมกันเป็นอั้งยี่ ร่วมกันเป็นช่องโจร ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ
โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ร่วมกันฟอกเงินและสมคบฟอกเงิน และพบความเชื่อมโยงกับการตรวจยึดเงินสด จำนวน 80,000,000 บาท ณ วันที่ 15 ธันวาคม 2566 ที่ด่านห้วยยะอุ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ของนายกิตติ์ธเนศ บุลชัยเตโชพัฒน์ ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบของพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรพะวอ อันเข้าลักษณะเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (3) (10) มาตรา 3 วรรคสอง และความผิดฐานฟอกเงินตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และความผิดเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พ.ศ. 2556 ซึ่งมาตรา 66 บัญญัติให้เป็นความผิดมูลฐานตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และกรณีมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่ากลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมไฮบริดสแกมข้ามชาติ (ชื่อบัญชี นางสาววาสนา อ่ำสุวรรณ กับพวก) ได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดดังกล่าว
หลักฐานฟอกเงิน- ช้าเกรงไม่ทัน จำเป็นต้องรีบยึด
พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตรวจสอบรายงานการทำธุรกรรมหรือข้อมูลเกี่ยวกับการทำธุรกรรมของบุคคลดังกล่าวแล้วปรากฏหลักฐานเป็นที่เชื่อได้ว่ากลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมไฮบริดสแกมข้ามชาติ (ชื่อบัญชี นางสาววาสนา อ่ำสุวรรณ กับพวก) มีพฤติการณ์แห่งการกระทำอันเข้าลักษณะเป็นความผิดมูลฐาน ตามมาตรา 3 (3) (10) มาตรา 3 วรรคสอง และความผิดฐานฟอกเงินตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และความผิดเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พ.ศ. 2556 ซึ่งมาตรา 22 บัญญัติให้เป็นความผิดมูลฐานตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 หรือเป็นผู้ซึ่งเกี่ยวข้องหรือเคยเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับผู้กระทำความผิดมูลฐานหรือความผิดฐานฟอกเงิน
และจากการตรวจสอบข้อมูลการทำธุรกรรมหรือทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด รวมทั้งจากการรวบรวมพยานหลักฐาน ปรากฎว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดจำนวน 1 รายการ พร้อมดอกผล และเนื่องจากทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดในคดีนี้ เป็นสังหาริมทรัพย์ประเภทเงินสดอันเป็นทรัพย์สินที่มีสภาพคล่อง สามารถปกปิด ซ่อนเร้น หรือโอนเปลี่ยนมือได้โดยง่าย หากมีได้มีการออกคำสั่งให้ยึดทรัพย์สินดังกล่าวไว้ชั่วคราว เมื่อเจ้าของหรือผู้มีส่วนได้เสียหรือผู้มีสิทธิในทรัพย์สินดำเนินการโอน จำหน่าย ยักย้าย ปกปิด หรือซ่อนเร้นทรัพย์สินดังกล่าวไปเสียและหากต่อมาศาลได้มีคำสั่งให้ทรัพย์สินดังกล่าวตกเป็นของแผ่นดิน
สำนักงาน ปปง. อาจไม่สามารถติดตามทรัพย์สินดังกล่าวกลับคืนมาได้ จึงเป็นกรณีที่มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่ากลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมไฮบริดสแกมข้ามชาติ (ชื่อบัญชี นางสาววาสนา อ่ำสุวรรณ กับพวก) ได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดและอาจมีการโอน จำหน่าย ยักย้าย ปกปิด หรือซ่อนเร้นทรัพย์สินดังกล่าว รวมทั้งหากเนิ่นช้ากว่าจะประชุมคณะกรรมการธุรกรรมเพื่อพิจารณายึดทรัพย์สินในกรณีดังกล่าว ทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดในคดีนี้อาจมีการโอน จำหน่าย ยักย้าย ปกปิด หรือซ่อนเร้นเสียได้ อันเป็นกรณีจำเป็นเร่งด่วน
ใช้อำนาจ เลขาฯปปง.
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 48 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และระเบียบคณะกรรมการธุรกรรม ว่าด้วยการรับเรื่อง การตรวจสอบ การพิจารณาดำเนินการ และการควบคุมตรวจสอบการปฏิบัติงานของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2556 ข้อ 25 เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินจึงมีคำสั่งยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว จำนวน 1 รายการ พร้อมดอกผล คือ เงินสด จำนวน 80,000,000 บาท (แปดสิบล้านบาทถ้วน) ณ วันที่ 15 ธันวาคม 2566 ผู้ถือกรรมสิทธิ์และผู้ครอบครอง นายกิตติ์ธเนศ บุลชัยเตโชพัฒน์ มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน (เก้าสิบวัน) นับตั้งแต่เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินมีคำสั่ง กล่าวคือ นับตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน 2567 ถึงวันที่ 15 กรกฎาคม 2567 ทั้งนี้ ให้รวมถึงเงินหรือทรัพย์สินที่ได้มาจากการจำหน่าย จ่าย โอนด้วยประการใด ๆ ซึ่งทรัพย์สินดังกล่าวหรือสิทธิเรียกร้องหรือผลประโยชน์หรือดอกผลของเงินหรือทรัพย์สินดังกล่าวด้วย