‘เศรษฐา’ แถลงหลังประชุม ก.ตร. มอบเรื่องร้องเรียนของ ‘บิ๊กโจ๊ก’ มอบฝ่ายวินัย-กฎหมายดู ส่วนกรณี ‘พิชิต ชื่นบาน’ นั่งรัฐมนตรี ยืนยัน ‘กฤษฎีกา’ การันตีแล้ว เป็นได้ ส่วน ‘มาริษ เสงี่ยมพงษ์’ นั่งรมว.ต่างประเทศคนใหม่หรือไม่ ให้รอโปรดเกล้าฯ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 30 เมษายน 2567 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 3/2567 ว่า วาระสำคัญของการประชุมนอกจากแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิ ยังมีเรื่องที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร้องขอความเป็นธรรมทั้งหมด ทั้งที่มีต่อตนในฐานะนายกรัฐมนตรี และประธาน ก.ตร.
ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาแล้วตามที่มีการร้องเรียนมา เพื่อให้เกิดความรอบคอบเป็นธรรมต่อคณะกรรมการ ก.ตร. โดยเฉพาะเลขาฯ ก.ตร. และกองวินัยตำรวจ จึงมีข้อเสนอต่อที่ประชุม ก.ตร. ดังนี้ เรื่องขอความเป็นธรรมของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ทั้งหมด ส่งเรื่องให้ฝ่ายวินัยและฝ่ายกฎหมายไปพิจารณา ตรวจสอบให้รอบคอบเป็นธรรมและนำมาเสนอ ก.ตร. ในโอกาสต่อไป
“ผมขอยืนยันในเรื่องนี้จะพิจารณาและดำเนินการ ให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมโปร่งใส สุจริต ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย” นายเศรษฐากล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ร้องมากี่เรื่อง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ร้องในกรณีที่มีการย้ายไปย้ายมา โดยเห็นว่าไม่เป็นธรรม จึงให้กองวินัยไปพิจารณาอีกครั้ง โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ร้องเรียนมาแค่เรื่องเดียวตามที่ได้กล่าวไป
@’กฤษฎีกา’ การันตี ‘พิชิต ชื่นบาน’ เป็นรัฐมนตรีได้
ส่วนกรณีที่มีการร้องเรียนให้มีการตรวจสอบคุณสมบัติของนายพิชิต ชื่นบาน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และเตรียมร้องคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบวินัยร้ายแรง นายกรัฐมนตรี เพราะเป็นผู้เสนอชื่อนั้น นายเศรษฐากล่าวว่า ยังไม่ทราบเรื่อง แต่เข้าใจว่าในสิ่งที่เป็นข่าวอยู่ ก่อนที่จะมีการเสนอชื่อก็ได้ส่งรายชื่อให้ตรวจสอบ โดยคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว
เมื่อถามว่ามั่นใจในข้อกฎหมายเรื่องคุณสมบัติของนายพิชิต ใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าได้ถามคณะกรรมการกฤษฎีกาเรียบร้อยแล้ว ก็มั่นใจ
ผู้สื่อข่าวถามว่า วันเดียวกันนี้ได้มีการเชิญรัฐมนตรีหลายคนเข้ามาหารือที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล มีการมอบนโยบายหรือกำชับการทำงานอย่างไรบ้าง นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ความจริงแล้วยังไม่ได้มีการมอบหมายงานอะไร เพราะยังไม่ได้มีการโปรดเกล้าฯต้องรอให้มีการโปรดเกล้าฯลงมามาก่อน ซึ่งการพูดคุยกันวันนี้เป็นการพูดคุยกันธรรมดา
@มาริษ นั่งรมว.ต่างประเทศหรือไม่ รอโปรดเกล้าฯ
เมื่อถามว่ามีการเชิญนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ ผู้ที่ถูกคาดหมายว่าจะได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมาพูดคุยด้วย นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า นายมาริษ มาเป็นประจำอยู่แล้ว เพราะเป็นที่ปรึกษาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และเคยติดตามตนเดินทางไปต่างประเทศทุกๆเวทีอยู่แล้ว และในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมนี้ตนมีภารกิจที่จะเดินทางไปอิตาลี แต่จะแวะที่ฝรั่งเศสด้วย1 วัน จึงมีการพูดคุยกันในเรื่องดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่านายมาริษ คือบุคคลที่นายกรัฐมนตรีมองไว้ ว่าจะให้มาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหรือไม่ นายกรัฐมนตรียิ้มและกล่าวว่า เดี๋ยวมีการโปรดเกล้าฯลงมาก็จะทราบกันเอง
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าแสดงว่านายกรัฐมนตรี ได้นำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯแล้วใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรีย้ำคำเดิมว่า เมื่อมีการโปรดเกล้าฯแล้วก็จะทราบกันเองขอให้เป็นไปตามขั้นตอนก่อน