ดีเอสไอยึดรถหรู 30 คัน จับ 13 ผู้ต้องหาคดีอาชญากรรมข้ามชาติ หลังรับเรื่องทางการอังกฤษ สอบสวนคดีรถหรูถูกขโมย 35 คัน เตรียมส่งเรื่องอัยการฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมด
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าเมื่อวันที่ 5 เม.ย. เว็บไซต์กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอได้เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ระบุว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษได้ดำเนินการติดตามยึดรถยนต์หรูได้จำนวน 30 คัน พบผู้กระทำความผิดที่เป็นนิติบุคคลและบุคคล 13 ราย การสอบสวนเสร็จสิ้นแล้วคณะพนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 13 รายในข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ หรือร่วมกันรับของโจรเพื่อค้ากำไรฯ ร่วมกันปลอมเอกสาร และใช้เอกสารปลอมฯ ร่วมกันนำของที่ผ่านหรือกำลังผ่านพิธีการศุลกากรเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงข้อจำกัดฯ และร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเป็นสมาชิกหรือเครือข่ายดำเนินงานขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติฯ
ทั้งนี้การยึดรถดังกล่าวเป็นกรณีสืบเนื่องจากที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้รับคำร้องขอความร่วมมือระหว่างประเทศ ในเรื่องทางอาญา (MLAT) จากหน่วยงานปราบปรามอาชญากรรมแห่งชาติ ของสถานเอกอัครราชทูตอังกฤษ ประจำกรุงเทพฯNCA : Nationanl Crime Agency ขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ ทำการสืบสวนสอบสวน กรณี ขบวนการโจรกรรมรถยนต์ราคาสูงจากประเทศอังกฤษ จำนวน 35 คัน และนำเข้ามาในประเทศไทยโดยให้ช่วยสืบสวนและยึดรถยนต์ เพื่อส่งคืนผู้เสียหายที่แท้จริงในอังกฤษ และดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้รับไว้เป็นคดีพิเศษที่ 78/2561 ซึ่งคดีนี้เป็นคดีความผิดซึ่งมีโทษตามกฎหมายไทยที่ได้กระทำลงนอกราชอาณาจักร และอัยการสูงสุดได้มอบหมายให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษกรมสอบสวนคดีพิเศษทำการสอบสวน โดยให้พนักงานอัยการร่วมสอบสวนโดยคดีนี้มี พันตำรวจโท พเยาว์ ทองเสน รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน ที่เคยเสนอข่าวไปแล้วเมื่อเดือนกันยายน 2565
ทั้งนี้หลังจากการยึดรถ เมื่อวันที่ 4 เม.ย. พันตำรวจโท พเยาว์ ทองเสน รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน ได้มอบหมายให้ นางสาวปริมณ์ สาริยา ผู้อำนวยการส่วนคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ 2 และคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ นำสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษ ทั้งสิ้น 5 ลัง (31 แฟ้ม) พร้อมตัวผู้ต้องหา ส่งพนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ เพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
อ่านประกอบ: