‘ทักษิณ-อุ๊งอิ๊ง’ โผล่คลิปวิดีโองานประชุมใหญ่พรรคเพื่อไทย อดีตนายกฯ ยันไม่ใช่ ‘อนุรักษ์นิยมใหม่’ แต่คือพรรคแห่งความเปลี่ยนแปลง แนะหลายประเด็นสิ่งที่ต้องทำต่อทั้ง 30 บาท-กองทุนหมู่บ้าน ทำนายดิจิทัลวอลเลต สิ่งที่โคตรใหม่ มั่นใจ ‘เศรษฐา-อิ๊ง’ นำไทยนำพรรคได้ ด้านแพทองธาร รับบทเรียนแพ้เลือกตั้ง ยันหนุนพรรคที่ 1 ตั้งรบ.แต่เมื่อไม่ได้โอกาสถึงมา ชูซอฟต์พาวเวอร์ ช่องทางหารายได้ใหม่คนไทย ผันนำพรรคเพื่อไทยที่สมาชิกทุกคนอยากเดินตาม
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 5 เมษายน 2567 เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยจัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567 มีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในฐานะสมาชิกพรรค , นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ในฐานะหัวหน้าพรรค นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาล รัฐมนตรีในรัฐบาล และกรรมการบริหารพรรค สส. และสมาชิกพรรคคนสำคัญร่วมประชุมด้วย หน่วยรัฐมนตรีที่มาร่วมประชุมนั้นได้ทำการลาราชการครึ่งวัน เพื่อมาร่วมประชุมใหญ่สามัญประจำปี
ในช่วงหนึ่งมีการเปิดวิดีโอบันทึกคำสัมภาษณ์นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง และนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ความยาว 18 นาที
@ทักษิณ: 'เพื่อไทย' ไม่ใช่ ‘อนุรักษ์นิยมใหม่’ แต่คือพรรคแห่งความเปลี่ยนแปลง
นายทักษิณกล่าวในคลิปวิดีโอวว่า เป็นคนบ้านนอก เห็นชีวิตคนต่างจังหวัด กลับบ้านกี่ทีๆก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ชาวบ้านยังลำบากยากจน เห็นคนเก็บเงินสะสมไว้รักษายามเจ็บป่วย พอได้เป็นนักธุรกิจ เริ่มต้นจากไม่มีอะไรเลยจนประสบความสำเร็จ ก็คิดว่า ทำให้ครอบครัวมีฐานะดีได้ ก็น่าจะขยายผลทำให้ทั้งประเทศดีขึ้นได้ ก็คิดว่าช่องทางที่ดีที่สุดคือ การเข้ามามีอำนาจทางการเมือง ไม่อย่างนั้น มันก็ทำไม่ได้
“พรรคการเมืองเป็นที่รวมของความคิดของคนที่ปรารถนาดีดีต่อบ้านเมือง โดยหลักการและทฤษฎีต้องเป็นแบบนั้น แล้วประกาศว่าจะเข้าไปทำอะไรให้บ้านเมือง จุดยืนของพรรคคืออะไร นี่คือสิ่งที่ประชาชนจะได้เห็น ตอนผมตั้งพรรคการเมืองใหม่ๆ พรรคการเมืองมาจากการเมืองที่ไม่แข็งแรง จนกระทั่งรัฐธณรมนูญ 2540 บังคับใช้ พรรคเก่าๆปรับตัวไม่ทัน และผมตั้งพรรคขึ้นมาภายใต้รัฐธรรมนูญใหม่ เราก็มองเห็นว่า พรรคการเมืองจะได้เป็นพรรคการเมืองเสียที วันนี้ต้องถามว่าคนที่ออกแบบการเมืองของประเทศไทยต้องการอะไร ถ้าต้องการให้ประชาชนอยู่ดีกินดี ให้มีการแข่งขันทำความดีให้ประชาชนจะต้องย้อนกลับไปให้เหมือนรัฐธรรมนูญ 2540” นายทักษิณกล่าว
อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการที่พรรคเพื่อไทยถูกวิจารณ์ว่าเป็นพรรคอนุรักษ์นิยมใหม่ หลังจากตั้งรัฐบาลข้ามขั้วว่า สิ่งนี้ไม่อยู่ใน DNA ของพรรคเพื่อไทยและไทยรักไทยมา แต่พรรคเพื่อไทยที่สร้างมาจากไทยรักไทย คือ พรรคที่เป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลง ถ้าจำได้สมัยไทยรักไทยเปลี่ยนแปลงมาตั้งแต่ระบบประกันสุขภาพ การเอาเงินเมืองหลวงกลับสู่ชนบท และการดูแลสินค้าเกษตร ทุกเรื่องที่ทำใหม่หมด และเพื่อไทยก็ทำต่อเนื่อง และตอนนี้เพื่อไทยกำลังทำดิจิทัลวอลเลต ซึ่งเป็นสิ่งที๋โคตรใหม่ ไม่ใช่ใหม่ธรรมดา เพราะฉะนั้น พรรคเพื่อไทยไม่อยู่กับเรื่องโบราณแล้ว โลกหมุนเปลี่ยนไป เพื่อไทยก็ต้องปรับตัวเปลี่ยนไปเรื่อยๆ
ส่วนเรื่องที่ยังไม่จบก็ต้องทำให้จบ ได้แก่ 30 บาทรักษาทุกโรค ที่จะต้องทำถึงกระบวนการป้องกัน ไม่ใช่รักษาอย่างเดียว เพื่อให้คนไทยสุขภาพแข็งแรงและมีอายุยืนนาน ส่วนเรื่องกองทุนหมู่บ้าน ที่ผ่านมาทำเละเทะ เอาอำนาจเข้าศูนย์กลาง ถ้าให้ข้าราชการหรือนักการเมืองหาผลประโยชน์ทำ มันจะดึงเข้าสู่ส่วนกลาง เข้าหาอำนาจตัวเอง จริงๆสิ่งที่ได้คิดทำไว้คือ การกระจายออกไปให้ประชาชนในแต่ละท้องที่ตัดสินใจเอง อย่าคิดว่าเก่งกว่าประชาชน พอคิดทำจากส่วนกลางสั่งการไป มันกลายเป็นสิ่งที่ประชาชนไม่ต้องการ เรื่องนี้พูดกันมานานแล้ว ยังพูดกันอยู่
“ระบบทุนนิยมที่ไร้เมตตาธรรม จะไม่สามารถทำให้ประชาชนมีความสุขได้ แล้วถ้ามีคนบอกว่า ผมไม่ชอบทุนนิยม แต่ทั้งโลกมันเป็นเศรษฐกิจทุนนิยม คุณต้อง You don’t like it, You have ti learn how to like it.” นายทักษิณกล่าวอีกครั้ง
@สส.ต้องสบตาประชาชน
นายทักษิณกล่าวต่อว่า พรรคเพื่อไทยต้องเข้าใจว่าตอนนี้สังคมมันเปลี่ยน การเข้าถึงประชาชนเป็นหัวใจสำคัญ จะเข้าถึงด้วยกายภาพหรือสื่อก็ต้องเข้าถึง อย่าเป็นคนที่ไม่เข้าถึงประชาชน ดังนั้น ต้องสะท้อนปัญหาประชาชนในที่ประชุมสภาฯก็ได้ ถึงจะไม่ได้เป็นผู้บริหาร จึงอยากให้ สส.พรรคเพื่อไทย 1.เข้าถึงประชาชน และ 2. ทำงานในสภาฯให้เข้มแข็ง และหัวใจคือถ้าเป็นนักการเมืองที่ดีต้องรักประชาชน ประชาชนมองออกว่าใครมีเมตตาธรรมหรือถือตัว อย่าเสแสร้งไม่กี่วัน เราต้องอยู่กับชาวบ้านให้ได้
@เศรษฐา นำปท.ได้ - อุ๊งอิ๊ง DNA พ่อแม่ผสม พลิกเกมการเมืองแน่
ส่วนกับนายเศรษฐา ทวีสิน นายทักษิณกล่าวว่า เชื่อว่านายเศรษฐานำพาประเทศได้ เพราะเคยเป็นผู้บริหารมีประสบการณ์มาก การมีเครือข่ายในกรุงเทพฯ ที่ส่งเสริมช่วยเหลือเป็นสิ่งจำเป็น ตนมาจากบ้านนอก มาเป็นนายกรัฐมนตรีไม่มีเครือข่ายตรงนี้ ถือเป็นจุดอ่อน แต่จุดนี้นายเศรษฐามีเครือข่ายพร้อมแล้ว และนายเศรษฐาเหมาะสมกับการเปลี่ยนผ่านทางการเมืองรอบนี้ และน่าจะทำได้ดี
ขณะที่นางสาวแพทองธาร นายทักษิณกล่าวว่า เชื่อว่านางสางแพทองธารจะพลิกเกมได้ เพราะตัวนางสาวแพทองธารมี DNA ตนและคุณหญิง (คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร) ผสมกัน เพราะฉะนั้นด้านเข้มแข็ง อดทน เด็ดขาดจะมาจากคุณหญิง ส่วนด้านพบปะผู้คน ทำการเมือง จะได้จากตน เชื่อว่าจะเป็นผู้นำที่ดีได้ เมื่อตนทำได้ ตัวอุ๊งอิ๊งก็ต้องทำได้ และจะทำได้ดีกว่าด้วย
@แพทองธาร: อยากเป็นผู้นำที่คนเดินตาม
ด้านนางสาวแพทองธาร กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคใหญ่ มี สส. ผู้บริหาร สต๊าฟของพรรค แต่ละคนแต่ละหน่วยทำงานมานานมาก บางคน 20 ปี ตั้งแต่เริ่มวันแรก บางคนเข้ามากลางๆหรือสั้น ทุกคนสำคัญซกับพรรคมาก ที่สำคัญคือโหวตเตอร์ของพรรคที่เลือกมาตั้งไทยรักไทย ผ่านวิกฤติใดๆก็พร้อมเข้าใจ จนมาถึงวันนี้ก็ยังเลือกอยู่ ทำให้รู้ว่านางสาวแพทองธารเข้ามาที่พรรคเพื่อไทยเพื่ออะไร ถึงเวลาที่นางสสาวแพทองธารคนนี้ต้องทำเพื่อพรรคเพื่อไทย อยากทำเพื่อคนที่สนับสนุนมาโดยตลอดไม่ว่าจะตำแหน่งไหนก็ตาม
ต่อมา นางสาวแพทองธารกล่าวถึงเลือกตั้งเมื่อปี 2566 ว่า สะท้อนตัวเองหลายๆอย่าง ได้ทราบแรงกดดันและเงื่อนไข และสิ่งที่เปลี่ยนไป ตนนำการเลือกตั้งครั้งนนี้ครั้งแรก แล้วการแพ้เลือกตั้งต้องโทษตัวเองก่อนเป็นลำดับแรก แต่ก็รู้สึกว่า ถ้าตัวเองไม่ไหว แล้วคนอื่นจะไหวยังไงต่อ ดังนั้น ส่วนตัวจึงต้องรีบดูแลตัวเอง ดูแลจิตใจ ไปต่อให้ได้ เพราะเรากำลังช่วยคนในพรรค กำลังสนับสนุนคนที่รักอยู่ เมื่อโอเคแล้ว ก็ไปต่อ และพร้อมจะบอกคนในพรรคว่า การเมืองของประเทศเป็นแบบนี้ๆ ก็ไม่ได้ชอบระบบแบบนี้ แต่ก่อนหน้านี้ที่ชนะเลือกตั้งมาอันดับ 1 ก็ตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จ นั่นคือบทเรียนหนึ่ง
“มาวันนี้ได้อันดับ 2 ห่าง 10 ที่นั่ง เราซัพพอร์ตที่ 1 เต็มที่ เพราะเราก็รู้ว่าเราเป็นอันดับ 1 แล้วตั้งรัฐบาลไม่ได้ มันเป้นยังไง? แต่พอเขาฟอร์มไม่สำเร็จ ก็จบไป ก็มาถึงเรา เราก็ต้องจัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จ” นางสาวแพทองธารระบุ
หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ว่า มีเอกชนเข้ามาร่วมและได้ตั้งอนุกรรมการ 11 สาขา แต่ละสาขาก็เริ่มคิกออฟแล้ว เพราะพรรคต้องการทำให้คนไทยมีรายได้จากสิ่งอื่นๆ มากกว่าสิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เพื่อจะให้ทุกคนพ้นขีดความยากจน ถ้ายังทำอาชีพเดิมที่มีอยู่ บางทีอาจไม่ได้มีรายได้มาก เพราะฉะนั้น การอัพสกิล รีสกิล จะเกิดขึ้นได้จากนโยบายนี้ และทำให้ประชาชนมีสกิลมากพอที่จะสร้างรายได้ให้ตัวเอง บางคนสร้างสกิลจนแข่งขันต่อในระดับจังหวัดประเทศและโลกได้
“เวลาอิ๊งสื่อสารกับต่างประเทศเป็นสิ่งที่ทำให้ใจฟูมากๆ เพราะเขายินดีร่วมมือและให้ความรู้ อย่างสหรัฐฯ ก็ถามว่าอยากส่งคนไปเรียนเรื่องภาพยนตร์ ทางอเมริการบอกว่า สามารถส่งคนจากฮอลลีวู้ดมาสอนได้ เพราะที่ผ่านมารัฐบาลไม่เคยจริงจังกับเรื่องนี้ เพราะฉะนั้น ต่างชาติเขาเห็นแล้วเราจริงจัง และต้องขอบคุณเอกชนอีกหลายแห่ง เข้ามาคุยเยอะมากทั้งค่ายเพลง หนังสือ เขามองเห็นแล้วว่า มันเป็นโอกาสให้อุตรสาหกรรมของเขาจริงๆ” นางสาวแพทองธารระบุ
ส่วนการทำงานในพรรค นางสาวแพทองธารกล่าวว่า ตนเป็นผู้นำของทุกคนในพรรคและต้องการเข้าใจคนในพรรคและโหวตเตอร์ การที่จะนำพรรคไม่ใช่ว่าจะเดินทางนี้ทุกคนต้องตามฉัน จึงอยากเป็นผู้นำที่เข้าใจทุกคนทุกกลุ่ม สถานการณ์ และนำกันไป อยากให้คนที่ตามมีความสุขในการเดินตาม รู้สึกปลอดภัย มีส่วนร่วม นำคนเดียวไม่ได้ มันต้องไปด้วยกัน
ขณะที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในคลิปวิดีโอว่า ประเด็นดิจิทัลวอลเลต วันที่ 10 เม.ย.นี้ จะมีการประกาศโรดแมปที่ชัดเจน วางเป้าหมายว่าเงินจะถึงประชาชนช่วงปลายปี 2567 นี้ 50 ล้านคน 500,000 ล้านบาท คนละ 10,000 บาท ถ้าห้างร้าาน อุตสาหกรรมต่างๆที่มีการผลิต จะผลิตงานผลิตสินค้าหรือไม่ ถ้าวันที่ 1 ต.ค.นี้เงินมา เชื่อว่าทุกคนผลิตหมด ผลิตแล้วเกิดการซื้อวัตถุดิบ การจ้าง เรียกว่าเป็นสึนามิของเศรษฐกิจครั้งใหญ่