'รมว.กลาโหม-สุทิน คลังแสง' แจงประเด็นกองทัพ ชี้กรณีเรือหลวงสุโขทัย ผลสอบจะเสร็จวันที่ 89 เม.ย.นี้ ส่วนการปรับลดอัตรากำลังพลกองทัพเสนอมาแล้ว 2 แบบ ขณะที่การตัดงบเรือฟริเกต เพราะกลัวก้าวไกลด่า ด้าน 'วิโรจน์' ยืนยันการสั่งซื้อเรือฟริเกตมีประโยชน์
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 4 เมษายน 2567 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 26 ปีที่ 1 ครั้งที่ 32 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง เป็นพิเศษ ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือการอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 วันที่สอง
นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า จากที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ก้าวไกล บอกว่ารัฐบาลหลอกลวงตบตาประชาชนนั้น แต่ถ้าฟังวันนี้แล้วคนที่หลอกลวงตบตาประชาชนคือนายวิโรจน์ คือไปบอกประชาชนว่าจะอภิปรายวันนี้อยากคุณภาพคับแก้วเลย แต่เอาเข้าจริงเป็นเรื่องเก่าๆ เดิมๆ และ 90% เป็นเรื่องจากรัฐบาลเก่า
@ 9 เม.ย. ผลสอบเรือหลวงสุโขทัยล่ม เสร็จ
ส่วนที่อภิปรายเรื่องตรวจสอบเรือหลวงสุโขทัยที่ล่มนั้นก็ไม่เกี่ยวกับตนเอง แต่จะตอบว่า เรื่องสอบสวนเรือหลวงนั้น ก็รอดูเหมือนกันว่าจะทำเป็นปาหี่หรือไม่ เพราะตอนนี้เป็นเรื่องที่ต้องให้ตรวจสอบให้เสร็จก่อน จะไปทำอะไรไม่ได้เพราะนั่นไม่ใช่วิธีการบริหาร แล้วเมื่อได้รับผลมาตนจะเอาข้อสังเกตของผู้อภิปรายนั้น ไปตรวจสอบด้วยถ้าเป็นปาหี่จริง ไม่ต้องห่วงจะตั้งกรรมการตรวจสอบใหม่อีกได้ ซึ่งจะมีการสรุปเรื่องนี้ในวันที่ 9 เมษายนนี้ ว่า ใครผิดใครถูก ใครควรได้รับโทษ และจะไม่ให้มีแพะเด็ดขาด
กลับมาที่นายวิโรจน์ ที่มีการตั้งข้อสังเกตถึงการแก้ปัญหาโครงสร้างนั้น ขอให้ได้ฟังวิธีการแก้ของตนเอง เวลาที่เหลือจากปีนี้คิดว่า ฝ่ายค้านกับรัฐบาลสามารถทำงานร่วมกันได้ แต่อย่างไรก็ต้องพูดเหมือนที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พูดว่า ประเทศยังคงต้องมีกองทัพ แล้วกองทัพคือ องค์กรที่ดูแลความมั่นคง ซึ่งความมั่งคงมันกระทบทุกคน ความมั่นคงดีทุกคนก็ได้รับประโยชน์กินอิ่มนอนอุ่น ฉะนั้น จะเกลียดหรือจะอคติกองทัพก็แล้วแต่ ตนเองก็เคยมีความคิดที่ว่ากองทัพมีปัญหา แต่สุดท้ายก็เชื่อว่ากองทัพยังต้องมี และต้องแก้ไขกองทัพมีคุณภาพ
@ลดกำลังพล กองทัพชงมา 2 แบบ
นายสุทินกล่าวว่า สิ่งแรกคือต้องปฏิรูปกองทัพให้เป็นที่ยอมรับของประชาชนสู้กับภัยคุกคามทุกรูปแบบ ตนเข้ามาตนคิดเลยว่าจะต้องตั้งกรรมการปฏิรูปกองทัพ ตอนนี้มีการเจรจานักวิชาการ ทหารเก่า-ใหม่แล้ว รอเซ็นอย่างเดียว แต่กลับมาคิดอีกทีในเชิงบริหารควรไปดูภายในองค์กรที่เราจะปฏิรูปก่อนว่า ได้ตระหนักถึงปัญหาแล้วหรือไม่ และได้ตั้งคณะกรรมการปฏิรูปกองทัพมา 8 ด้านด้วยกัน ที่เห็นชัดเป็นเรื่องการปรับกำลังพลที่ทางคณะกรรมการการที่สรุปมาให้ตนเองดู ซึ่งกองทัพก็กล้าที่จะเสนอปรับกองทัพระยะสั้นและระยะยาว คือ
1.ปิดอัตรา ตำแหน่งไหนเกษียณก็ปิดไม่รับอีก
2.ควบรวม หน่วยงานไหนที่มีทำหน้าที่ใกล้เคียงก็ให้เป็นหน่วยเดียวกัน และบางหน่วยยุบเลย
ส่วนนายพลจะไปลดนายพลที่ไม่ใช่กำลังหลัก จาก 700 คนจะให้ลดลงครึ่งหนึ่งในปี 2571 และถ้าจะลดครึ่งหนึ่งของนายพลที่มีตำแหน่งหลักจาก 2,900 คนให้เหลือครึ่งเหมือนกันนั้น ถ้าเป็นผู้หญิงก็คงหุ่นผอมแล้ว วันนี้ จะทำอะไรก็ต้องนึกถึงขวัญและกำลังใจของกองทัพด้วย และอย่าคิดว่าวันนี้รัฐบาลไม่ทำแต่จะมาเคลมแต่รัฐบาลเก่า เพราะมี 2 โครงการที่จะลดนายพลที่ชอบบอกกันว่าไม่มีงานทำด้วยโครงการเออรี่รีไทร์ 2 โครงการปิดมาพร้อมใช้งาน
ส่วนเรื่องธุรกิจกองทัพ ทางคณะกรรมการได้เสนอมาว่า ต้องจัดระบบสวัสดิการกองทัพใหม่หมด จากที่มีสนามมวย สนามกอล์ฟ ปั๊มน้ำมัน โดยมีแยกสวัสดิการเชิงธุรกิจ ออกจากสวัสดิการภายใน และถ้าเป็นสวัสดิการเชิงธุรกิจต้องทำเป็นธุรกิจส่งรายได้ให้กับรัฐ กรมธนารักษ์ กรมศุลกากรเช่นเดียวกับคนอื่น วันนี้เราจัดระบบแล้ว
@ตัดงบเรือฟริเกต เพราะกลัวก้าวไกลด่า
นายสุทินกล่าวอีกว่า โครงการจัดหาเรือฟริเกต กองทัพเรือตั้งงบ 17,000 ล้านบาท ต่อมาคณะกรรมาธิการได้ตัดงบ และที่ตัดงบก็เพราะกลัวก้าวไกลด่า แต่วันนี้พรรคก้าวไกลกลับเชียร์ให้ซื้อเรือฟริเกต และต้องขอบคุณคลิปที่นายวิโรจน์นำมาเปิดที่ตนได้ขอ 3 ข้อคือ ถ้าจะซื้ออาวุธต่อไปนี้ให้พิจารณาภายในประเทศก่อน 2.ถ้าซื้อไม่ทั้งหมดให้ซื้อชิ้นส่วนในประเทศ 3.ถ้าไม่ได้ทั้งสองให้มาต่อในประเทศให้มาถ่ายทอดเทคโนโลยีให้ไทยด้วย แต่นายวิโรจน์ก็มาตำหนิตนว่า ใช้คำว่า ขอ ขอ ขอ เหมือนกับว่าตนเองหน่อมแน้มไป แต่รู้หรือไม่ว่านี่เป็นสำนวนที่ตนใช้สอนเด็กนักเรียน
"คนก้าวร้าวจะไม่เคยเห็นคุณค่าและไม่เข้าใจความนุ่มนวล คำว่าขอของตนเองนั่นคือการสั่งการ ไม่จำเป็นต้องไปคำรามใส่เขา ดังนั้นเรือฟริเกตเราคิดบนพื้นฐานที่เคารพสภา ก็คือให้เกียรติท่าน และเรื่องจัดซื้อจัดจ้าง และเงินทอนนั้นรัฐบาลชุดนี้เข้ามาจะได้ซื้อก็งบปี 67 นี้ แต่ตนก็ให้คำมั่นสัญญาว่าจะดูแลให้ดีที่สุด" นายสุทินระบุ
@ยันเรือฟรีเกตมีคุณูปการ
ด้าน นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ลุกขอใช้สิทธิพาดพิงทันทีว่า ยืนยันการให้กองทัพเปิดเผยโปร่งใส แล้วก็มีกำลังพลที่เหมาะสม ไม่ได้เป็นการด้อยค่ากองทัพเลย แล้วการปกป้องเรือฟริเกต ที่มีคุณูปการส่งเสริมอุตสาหกรรมการต่อเรือ อุตสาหกรรมการป้องกันประเทศ นี่หรือคือการด้อยค่ากองทัพ
“ผมผิดหวังว่า การตัดสินใจในเรื่องเรือฟริเกตที่ท่านระบุว่า เป็นการตัดสินใจด้วยความกลัว และกลัวก้าวไกลด้วย ทั้งๆ ที่ท่านต้องตัดสินใจด้วยความห้าวหาญ มีภาวะผู้นำ และตรรกะที่คิดว่าเรือลำนี้ เป็นประโยชน์หรือเป็นคุณูปการของประเทศหรือไม่ ซึ่งผมบอกกับท่านเลยว่า ถ้าเรือลำนี้ต่อในประเทศไทย เกิดคุณูปการต่อวิศวกรรม แล้วราคาสมเหตุสมผลโปร่งใส ผมจะไปค้านทำไม แล้วที่ท่านกล่าวหาลอยๆ ว่า ผมก้าวร้าว ไม่ใช่เลย แต่การสั่งการคือแสดงความองอาจ แสดงภาวะผู้นำให้สมกับการเป็นเสนาบดีกระทรวงกลาโหม ที่ผมคิดว่าท่านยังไม่มี” นายวิโรจน์กล่าว