อัยการสูงสุดชี้ขาดฟ้อง อดีต จนท.รังวัดที่ดิน-พวก ออกเอกสารสิทธิ์ปลอมที่ดินสระบุรีเอื้อประโยชน์ 'ประชัย เลี่ยวไพรัตน์' ปธ. ทีพีไอ ส่งสำนวนคืนสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตนำตัวผู้ต้องหาส่งฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริประพฤติมิชอบภาค 1 แล้ว
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 27 มี.ค.67 นายประยุทธ เพชรคุณ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ ในฐานะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า อัยการสูงสุดมีคำสั่งชี้ขาดให้ฟ้องนายจรูญศักดิ์ เอกสวัสดิ์เจ้าหน้าที่ตำแหน่งนายช่างรังวัด 6 นายณรงค์พล แก้วสาร ผู้ต้องหาที่ 2 นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ ผู้ต้องหาที่ 4 และบริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) ผู้ต้องหาที่ 5 คดีออกเอกสารสิทธิ์จำนวนหลายแปลงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตามที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ มีหนังสือที่ ตช 0026.(10)/4929 ลงวันที่ 9 ธ.ค. 2565 ถึงสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 1 ส่งสำนวนการสอบสวนคดีอาญาที่ 11/2563 คดีระหว่าง พ.ต.ท. ไสว จันทร์มา ที่ 1 กับพวกรวม 2 คน ผู้กล่าวหา นายจรูญศักดิ์ เอกสวัสดิ์ ผู้ต้องหาที่ 1 กับพวกรวม 5 คน
คดีดังกล่าวสืบเนื่องจาก นายจรูญศักดิ์ เอกสวัสดิ์ ผู้ต้องหาที่ 1 ซึ่งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตำแหน่งนายช่างรังวัด 6 สำนักงานมาตรฐานการออกหนังสือสำคัญ กรมที่ดิน ได้ออกเอกสารสิทธิ์จำนวนหลายแปลงไม่ชอบด้วยกฎหมาย (โฉนดปลอม) โดยที่ดินที่ออกเอกสารปลอมดังกล่าวอยู่ใกล้เคียงกับพื้นที่สัมปทานของ นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ผู้ต้องหาที่ 4 และบริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) ผู้ต้องหาที่ 5 โดยกระทำของผู้ต้องหาที่ 1 ดังกล่าว มีนายณรงค์พล แก้วสาร ผู้ต้องหาที่ 2 กระทำการสนับสนุน และต่อมาผู้ต้องหาที่ 4 และ 5 ได้นำเอกสารปลอมดังกล่าวไปใช้ เป็นเหตุให้รัฐได้รับความเสียหาย เหตุเกิดระหว่างเดือนพ.ย. 2547 – พ.ค. 2549 ต่อเนื่องกัน ที่อำเภอแก่งคอย และอำเภอเมืองสระบุรี จังหวัดสระบุรี เกี่ยวพันกัน
@ ประชัย เลี่ยวไพรัตน์
คดีดังกล่าว พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 1 ภาค 1 มีคำสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาที่ 1 กับพวก ต่อมาผู้บัญชาการสอบสวนกลาง มีความเห็นแย้งคำสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาที่ 1, 2, 4 และ 5 ของพนักงานอัยการ และเสนอสำนวนคดีพร้อมความเห็นให้อัยการสูงสุดชี้ขาด ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 145, 145/1 ซึ่งอัยการสูงสุดได้พิจารณาแล้วมีคำสั่ง ดังนี้
1. ชี้ขาดให้ฟ้อง นายจรูญศักดิ์ เอกสวัสดิ์ ผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริตอันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91, 151 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2526 มาตรา 4 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 มาตรา 7
2. ชี้ขาดให้ฟ้อง นายณรงค์พล แก้วสาร ผู้ต้องหาที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริตอันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86, 91, 151 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2526 มาตรา 4 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 มาตรา 7
3. ชี้ขาดให้ฟ้อง นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ผู้ต้องหาที่ 4 และบริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) ผู้ต้องหาที่ 5 ฐานร่วมกันใช้เอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารปลอม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91, 268 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2526 มาตรา 4
สำหรับนายจักราวุธ นิตยสุทธิ ผู้ต้องหาที่ 3 ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางไม่แย้งคำสั่งไม่ฟ้องของพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 1 ภาค 1
สำนักงานอัยการสูงสุด ได้ส่งคืนสำนวนให้สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 1 เพื่อดำเนินการนำตัวผู้ต้องหาที่ 1, 2, 4 และ 5 ส่งฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ต่อไป
อย่างไรก็ดี คดีนี้ ศาลยังไม่ได้มีคำพิพากษาชี้ขาด ผู้ต้องหารทุกราย จึงยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่
ภาพ ประชัย เลี่ยวไพรัตน์ จาก อปท.นิวส์ https://www.opt-news.com/page/about