‘ศาลปกครองสูงสุด’นัดชี้ขาดคดี ‘ผอ.เขตปทุมวัน’ ออกใบอนุญาตก่อสร้างโครงการ ‘มหาดเล็กหลวง 2 เรสซิเดนส์’ ส่อไม่ชอบด้วยกฎหมาย 28 มี.ค.นี้
...........................................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า ในวันที่ 28 มี.ค.นี้ ศาลปกครองกลางนัดอ่านคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ในคดีหมายเลขดำที่ ส.89/2559 คดีหมายเลขแดงที่ ส.29/2562 ระหว่าง สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ที่ 1 กับพวกรวม 49 คน (ผู้ฟ้องคดี) กับ ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน ที่ 1 กับพวกรวม 3 คน (ผู้ถูกฟ้องคดี) คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่เจ้าหน้าที่ของรัฐออกคำสั่งโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ
สำหรับคดีนี้ ผู้ฟ้องคดี ฟ้องว่า ผู้อำนวยการเขตปทุมวันกับพวกรวม 3 คน (ผู้ถูกฟ้องคดี) กระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายและละเลยต่อการปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ โดยอนุญาตให้มีการก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่พิเศษ ชื่อโครงการมหาดเล็กหลวง 2 เรสซิเดนส์ ของสำนักงานพระคลังข้างที่ โดยบริษัท ไทยพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรม จำกัด ซึ่งเป็นโครงการที่กระทำผิดต่อกฎหมาย
และไม่ได้ดำเนินการให้เป็นไปตามมาตรการที่กำหนดในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ทำให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ทั้งในด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพอนามัยของประชาชน
ต่อมาศาลปกครองชั้นต้นพิพากษาเพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร ดัดแปลงอาคาร หรือรื้อถอนอาคาร เลขที่ 20/2559 ลงวันที่ 1 มิ.ย.2559 โดยให้มีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ออกใบอนุญาตดังกล่าว คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
เนื่องจากศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า ผู้อำนวยการสำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2) ได้ออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร ดัดแปลงอาคาร หรือรื้อถอนอาคาร ให้สำนักงานพระคลังข้างที่ (ผู้ร้องสอดที่ 1) ก่อสร้างอาคารสูง 41 ชั้น ชั้นใต้ดิน 1 ชั้น พื้นที่ 44,618 ตารางเมตร ในซอยมหาดเล็กหลวง 2 ถนนราชดำริ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร ถือเป็นอาคารขนาดใหญ่พิเศษตามความในข้อ 1 ของกฎกระทรวง ฉบับที่ 33 (พ.ศ. 2535) ออกตามความใน พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522
แต่เมื่อพิจารณาแล้วปรากฏว่า ถนนมหาดเล็กหลวง 2 มีเขตทางกว้าง 12 เมตร ถึง 13.57 เมตร การที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ออกใบอนุญาตก่อสร้างดังกล่าวให้แก่ผู้ร้องสอดที่ 1 ซึ่งตั้งอยู่บนที่ดินแปลงย่อยที่ 24 โดยอยู่ติดกับถนนมหาดเล็กหลวง 2 ที่มีเขตทางกว้างน้อยกว่า 18 เมตร จึงเป็นการฝ่าฝืนตามข้อ 2 วรรคสอง ของกฎกระทรวง ฉบับที่ 33 (พ.ศ. 2535) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522
ดังนั้น การที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร ดัดแปลงอาคาร หรือรื้อถอนอาคาร เลขที่ 20/2559 ลงวันที่ 1 มิถุนายน 2559 ให้ผู้ร้องสอดที่ 1 ทำการก่อสร้างอาคารโครงการมหาดเล็กเรสซิเดนส์ จึงเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสามจึงยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองชั้นต้นต่อศาลปกครองสูงสุด
นอกจากนี้ ในวันเดียวกัน (28 มี.ค.) ศาลปกครองกลางยังนัดอ่านคำสั่งศาลปกครองสูงสุด ในคดีหมายเลขดำที่ ส.25/2564 คดีหมายเลขแดงที่ ส.25/2566 ระหว่าง สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ที่ 1 กับพวกรวม 18 คน (ผู้ฟ้องคดี) กับ คณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้านอาคาร การจัดสรรที่ดิน และบริการชุมชน กรุงเทพมหานคร (ผู้ถูกฟ้องคดี) คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองและเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย คำร้องอุทธรณ์คำสั่งเกี่ยวกับวิธีการชั่วคราวก่อนการพิพากษา
โดยคดีนี้ผู้ฟ้องคดี ฟ้องว่า คณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้านอาคาร การจัดสรรที่ดิน และบริการชุมชน กรุงเทพมหานคร ได้มีมติเห็นชอบรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการ ศุภาลัย ลอฟท์ รัชดาฯ-วงศ์สว่าง ของบริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงนำคดีมาฟ้องต่อศาล
ทั้งนี้ ศาลปกครองชั้นต้นมีคำสั่งทุเลาการบังคับตามมติของผู้ถูกฟ้องคดีในการประชุมครั้งที่ 46/2564 เมื่อวันที่ 2 ส.ค. 2564 ที่เห็นชอบรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการ ศุภาลัย ลอฟท์ รัชดาฯ-วงศ์สว่าง ไว้เป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น
ผู้ถูกฟ้องคดีจึงยื่นอุทธรณ์คำสั่งเกี่ยวกับวิธีการชั่วคราวก่อนการพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้นต่อศาลปกครองสูงสุด
อ่านประกอบ :
ศาล ปค.สั่งเพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างคอนโดหรู‘มหาดเล็กหลวง2เรสซิเดนส์’