ปปง. ส่งสำนวน คดีกลุ่ม ‘ธารารัตน์’ พวก ฉ้อโกงแลกเปลี่ยนเงินหยวน เสียหาย 200 ราย ให้อัยการฟ้องร้องดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายแล้ว หลังยึดอายัดทรัพย์ได้ 1,017 ล้าน -ตั้ง 'ประยุทธ เพชรคุณ' หน.คณะทำงานพิจารณาสำนวนคดี
แหล่งข่าวจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ว่า เมื่อวันที่ 21 มี.ค.2567 เจ้าหน้าที่ ปปง. ได้นำส่งสำนวนสอบสวนคดีเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์รายใหญ่กลุ่มนางสาวธารารัตน์ สิงห์ทองวรรณ ที่มีผู้เสียหายประมาณ 200 ราย มูลค่าความเสียหายประมาณ 4,855,014 บาท ให้พนักงานอัยการเพื่อยื่นเรื่องฟ้องร้องดำเนินคดีตามขั้นตอนทางกฎหมาย ตามมติคณะกรรมการธุรกรรม ครั้งที่ 3/2567 เมื่อวันที่ 12 มี.ค.2567 หลังก่อนหน้านี้ มีคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความไว้ชั่วคราว ราย นางสาวธารารัตน์กับพวกจำนวน 224 รายการ รวมราคาประเมินทั้งสิ้น 1,017,459,830.92 บาท พร้อมดอกผล แล้ว
สำหรับคดีนี้ เป็นกรณีมีพฤติการณ์แห่งการกระทำความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา และความคิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญาอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ และความผิดเกี่ยวกับการพนันตามกฎหมายว่าด้วยการพนันโดยเป็นการจัดให้มีการเล่นการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ กล่าวคือ นางสาวธารารัตน์ สิงห์ทองวรรณ ได้โพสต์ข้อความผ่านแอปพลิเคชั่น Facebook ใช้ชื่อบัญชี Veerinphat Singtongwan และชมรม Taobac & 1688 ซึ่งเป็นกลุ่มแลกเปลี่ยนความรู้สำหรับพ่อค้าแม่ค้า และรับเเลกเปลี่ยนสกุลเงินบาทเป็นเงินสกุลเงินหยวน โดยจะให้อัตราแลกเปลี่ยนที่ต่ำกว่าปกติ ทำให้กลุ่มผู้เสียหายหลงเชื่อ
โดยในระยะแรกกลุ่มผู้เสียหายสามารถแลกเปลี่ยนได้แต่ต่อมาพบปัญหาและไม่สามารถติดต่อกับนางสาวธารารัตน์ สิงห์ทองวรรณ ได้ เป็นเหตุให้กลุ่มผู้เสียหายได้รับความเสียหายประมาณ 200 ราย มูลค่าความเสียหายประมาณ 4,855,014 บาท
ต่อมา บริษัท เทคคีย์ จำกัด โดยนายวรพงศ์ ชุณหชัยชนะ ผู้รับมอบอำนาจจากผู้เสียหาย จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกันอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ซึ่งได้รับไว้ เป็นคดีอาญาที่ 34/2564 และจากการตรวจสอบฐานข้อมูลทะเบียนประวัติอาชญากร พบว่านางสาวธารารัตน์ สิงห์ทองวรรณ มีประวัติถูกจับกุมดำเนินคดีในหลายท้องที่ ได้แก่ ท้องที่สถานีตำรวจนครบาลลำผักชี ความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกง เลขคดีอาญาที่ 176/2564 ท้องที่สถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน ความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน เลขคดีอาญาที่ 503/2564 ท้องที่สถานีตำรวจนครบาลคันนายาว ความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงเลขคดีอาญาที่ 624/2564 ท้องที่สถานีตำรวจภูธรเมืองอุบลราชธานี ความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนเลขคดีอาญาที่ 3978/2564 ท้องที่สถานีตำรวจภูธรแกลง ความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประขาชน เลขคดีอาญาที่ 658/2564 ท้องที่สถานีตำรวจฎธรเมืองลำพูน ความผิดฐานฉ้อโกง เลขคดีอาญาที่ 652/2564 ท้องที่สถานีตำรวจภูธรบ้านฉาง ความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน เลขคดีอาญาที่ 604/2564 ท้องที่สถานีตำรวจภูธรเมืองนครสวรรค์ ความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกง คดีอาญาที่ 1234/2564 และท้องที่สถานีตำรวจภูธรเขาสวนกวางความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน เลขคดีอาญาที่ 385/2564
อันเข้าลักษณะเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (3) (9) และ (28) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และกรณีมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า นางสาวธารารัตน์ สิงห์ทองวรรณ กับพวก ได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดดังกล่าว
@ ตั้ง 'ประยุทธ เพชรคุณ' หัวหน้าคณะทำงานพิจารณาสำนวนคดี
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา รายงานว่า ทั้งนี้ ภายหลังรับมอบสำนวนคดี สำนักงานอัยการสูงสุด ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานพิจารณาสำนวนคดีนี้ โดยมีนายประยุทธ เพชรคุณ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ เป็นหัวหน้าคณะทำงาน เนื่องจากเห็นว่าเป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชนในวงกว้าง และมีทุนทรัพย์จำนวนมาก ตามระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดว่าด้วยการดำเนินคดีแพ่งของพนักงานอัยการ พ.ศ. 2560 ข้อ 9 เพื่อให้การพิจารณาดำเนินคดีเป็นไปด้วยความรอบคอบ ถูกต้อง ครบถ้วน เป็นธรรม รัดกุม
@ ประยุทธ เพชรคุณ
อ่านประกอบ: