ปปง.สั่งยึดอายัดทรัพย์ 2 ตัวแทนบ.ไทยประกันชีวิต 38 รายการ 9.8 ล. ฐานยักยอกเงินเบี้ยประกันลูกค้า จ.อุดรฯ ไม่นำเงินส่งบริษัทแม่ เสียหาย 110.5 ล. พบประวัติถูกแจ้งจับ 4 คดี ศาลสั่งจำคุก 125 กระทง 125 ปี ลดโทษเหลือ 1,008 เดือน สูงสุดได้ 20 ปี
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) มีคำสั่ง คณะกรรมการธุรกรรมที่ ย.63 /2567 ลงวันที่ 12 มี.ค.2567 เรื่อง ยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว ราย นางสาวยุภัสสรณ์ ชินพัฒน์สกุล และนายจักรพันธ์ ชินพัฒน์สกุล รวมมูลค่า 9,849,084.33 บาท ในความผิดฐานยักยอกทรัพย์ บริษัทไทยประกันชีวิต
โดยเมื่อประมาณปี 2561 จนถึงปี 2564 นางสาวสุภัสสรณ์ ชินพัฒน์สกุล และนายจักรพันธ์ ชินพัฒน์สกุล เป็นตัวแทนของบริษัทไทยประกันชีวิต ได้รับค่าเบี้ยประกันชีวิตในการต่ออายุสัญญากรมธรรม์ประกันชีวิตจากลูกค้า และมีการเสนอความคุ้มครอง (ขายประกัน) ให้ลูกค้ารายใหม่อีกจำนวนหลายราย โดยมีการออกใบเสร็จรับเงินชั่วคราวไว้เป็นหลักฐานให้แก่ลูกค้าในหลายเขตอำเภอในจังหวัตอุดรธานี รวมทุนทรัพย์ที่เสียหาย จำนวนประมาณ 110,583,926 บาท แต่กลับไม่นำเงินส่งเข้าบริษัทไทยประกับชีวิตตามหน้าที่ของตัวแทน โดยได้ร่วมกันยักยอกไปเป็นประโยชน์ส่วนตนโดยทุจริต ต่างกรรมต่างวาระกันหลายครั้ง ผู้รับมอบอำนาจช่วงจากบริษัทไทยประกันชีวิต ได้ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองอุตรธานี
ต่อมาศาลพิพากษาว่าจำเลยกระทำผิดรวม 125 กระทง จำคุกกระทงละ 1 ปี เป็นจำคุก 125 ปี ลดโทษกระทงละหนึ่งในสาม รวมจำคุก 1,008 เคือน แต่กระทงที่มีโทษหนักที่สุดมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกินสามปีแต่ไม่เกินสิบปี จึงให้จำคุกจำเลย 20 ปี อันเข้าลักษณะเป็นความผิดฐานตามมาตรา 3 (18) และความผิตฐานฟอกเงิน
สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า ทรัพย์สินที่ถูกยึดและอายัด ประกอบด้วย โฉนดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างใน จ.อุดรธานี 3 แปลงมูลค่า 9,704,400 บาท เงินในบัญชีเงินฝากและสิทธิเรียกร้องตามกรมธรรม์ประกันชีวิต 35 รายการ มูลค่า 144,684.33 บาท รวม 38 รายการ มูลค่า 9,849,084.33 บาท
@เปิดคำสั่งยึดอายัดทรัพย์-มีประวัติถูกแจ้งจับหลายคดี
คำสั่งคณะกรรมการธุรกรรมในการยึดและอายัดทรัพย์สินมีรายละเอียดดังนี้
ด้วยสำนักงานปัองกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) ได้รับรายงานจากสถานีตำรวจภูธรเมืองอุดรธานี ตามหนังสือด่วนที่สุด ที่ ตช 0019(อต.).(14)5.03/8331 ลงวันที่ 29 ตุลาคม 2564 เรื่อง รายงานความผิตมกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ซึ่งเป็นกรณีมีพฤติการณ์แห่งการกระทำความผิดเกี่ยวกับการยักยอก ตามประมวลกฎหมายอาญาอันมีลักษณะเป็นปกติธุระและความผิดฐานฟอกเงิน กล่าวคือ นางณัฏฐา ศรีปัญญา ผู้รับมอบอำนาจช่วงจากบริษัทไทยประกันชีวิต มาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน ลถานีตำรวจภูธรเมืองอุตรธานี ให้ดำเนินคดีกับ นางสาวสุภัสสรณ์ ชินพัฒน์สกุล และนายจักรพันธ์ ชินพัฒน์สกุล ผู้ต้องหาในความผิดฐานยักยอกทรัพย์โนฐานเป็นผู้มีอาชีพ หรือธุรกิจอันเป็นที่ไว้วางใจของประชาชน โดยเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2561 เรื่อยมาจนถึงปี พ.ศ. 2564 นางสาวสุภัสสรณ์ ชินพัฒน์สกุล และนายจักรพันธ์ ชินพัฒน์สกุล เป็นตัวแทนของบริษัทไทยประกันชีวิต ได้รับค่าเบี้ยประกันชีวิตในการต่ออายุสัญญากรมธรรม์ประกันชีวิตจากลูกค้า และมีการเสนอความคุ้มครอง (ขายประกัน) ให้ลูกค้ารายใหม่อีกจำนวนหลายราย โดยมีการออกใบเสร็จรับเงินชั่วคราวไว้เป็นหลักฐานให้แก่ลูกค้า ซึ่งมีลูกค้ากระจายอยู่ในหลายเขตอำเภอในจังหวัตอุดรธานี รวมทุนทรัพย์ที่เสียหาย จำนวนประมาณ 110,583,926 บาท
แต่กลับไม่นำเงินส่งเข้าบริษัทไทยประกับชีวิตตามหน้าที่ของตัวแทน โดยได้ร่วมกันยักยอกไปเป็นประโยชน์ส่วนตนโดยทุจริตซึ่งมีการกระทำต่างกรรมต่างวาระกันหลายครั้งเรื่อยมาอันส่อให้เห็นว่าเป็นการกระทำอันลักษณะเป็นปกติธุระ และจากการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม พบว่า นางสาวสุภัสสรณ์ ชินพัฒน์สกุล หรือพงษ์เกิดลาก กับพวก ถูกดำเนินคดีในความผิตฐานร่วมกันยักยอกทรัพย์อันเป็นผู้มีอาชีพ หรือธุรกิจอันเป็นที่ไว้วางใจของประชาชน รวมจำนวน 4 คดี ได้แก่ ความอาญาที่ 2200/2564 ของสถานีตำรวจภูธรเมืองอุตรธานี คตีอาญาที่ 2255/2564 ของสานีตำรวจกูธรเมืองอุดรธานี คคีอาญาที่ 2256/2564 ของสถานีตำรวจภูธรเมืองอุดรธานี คคีอาญาที่ 2257/2564 ของสถานีตำรวจฎธรเมืองอุดรธานี และฉ้อฉล ประกันภัย คตีอาญาที่ 43/2565 ของกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามกรกระทำความผิตเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ สถานีตำรวจฎธรเมืองอุดรธานี ได้คำเนินคดีอาญาที่ 2485/2565 กับนางสาวสุภัสสรณ์ ชินพัฒน์สกุล หรือพงษ์เกิดลาก กับพวก ในความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน อีกคดีหนึ่งโดยส่งมอบสำนวนโดยให้กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 ตำเนินการ
@ศาลจำคุก 125 ปี ลดโทษเหลือ 1,008 เดือน
ต่อมาเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2565 ศาลจังหวัดอุดรธานี ในดีหมายเลขดำที่ อ 29/2565 คดีหมายเลขแดงที่ อ 1333/2565 คดีหมายเลขดำที่ อ 418/2565 คดีหมายเลขแดงที่ อ 1334/2565 และคตีหมายเลขดำที่ อ 661/2565 คดีหมายเลขแดงที่ อ 1335/2565 ระหว่างพนักงานอัยการจังหวัดอุตรธานี โจทก์ บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) โจทก์ร่วม นางสาวสุภัสรณ์ หรือยำไพวรรณ ชินพัฒน์สกุล หรือพงษ์เกิดลาก หรือถิ่นแก้ว จำเลย คดีทั้งสามสำนวนนี้ศาลสั่งให้รวมพิจารณาเป็นปีเดียวกัน ได้มีคำพิพากษาว่าจำเลยมีความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 354 และมาตรา 354 ประกอบมาตรา 83 การกระทำของจำเลยเป็นความผิตหลายกรรมต่างกัน ให้เรียงกระทงลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานเป็นผู้มีอาชีพหรือธุรกิจยันย่อมเป็นที่ไว้วางโจของประชาชนร่วมกันยักยอกหรัพย์ คุก 1 ปี ฐานเป็นผู้มีอาชีพหรือธุรกิจอันย่อมเป็นที่ไว้วางใจของประชาชนยักยอกทรัพย์ รวม 125 กระทง จำคุกกระทงละ 1 ปี เป็นจำคุก 125 ปี
ทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลงโทษกระทงละหนึ่งในสาม รวมจำคุก 1,008 เดือน แต่กระทงที่มีโทษหนักที่สุดมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกินสามปีแต่ไม่เกินสิบปี จึงให้จำคุกจำเลย 20 ปี อันเข้าลักษณะเป็นความผิดฐานตามมาตรา 3 (18) และความผิตฐานฟอกเงินตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และกรณีมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่านางสาวสุภัสรณ์ ชินพัฒสกุล หรือพงษ์เกิดลาก กับพวกได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดดังกล่าว